ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/249399

วันอังคาร ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
สาธารณชนจำนวนไม่น้อยที่อาจรู้สึกหงุดหงิดรำคาญหรือหมดความน่าเชื่อถือในการทำหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ที่ยึกยักเป็นโรคเลื่อนแล้วเลื่อนอีกหลังขีดเส้นตายบุกจับธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิจานบินมาหลายรอบแต่ก็คว้าน้ำเหลว และถึงขั้นอาจเกิดวิกฤติศรัทธาในรัฐบาลรวมทั้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ถูกมองว่าไม่เอาจริง อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธะอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม กลับเตือนสติสาธารณชนที่ต้องการให้อำนาจรัฐบังคับใช้กฎหมายกับธัมมชโยและรัฐอิสระสำนักจานบินที่ยังลอยนวลเย้ยกฎหมายขั้นเด็ดขาดโดยเร็ว โดยหลวงปู่พุทธะอิสระขอให้ใจเย็นๆ เพราะมั่นใจว่าอำนาจรัฐกำลังเดินแผนตามหลักพิชัยสงครามฉบับ 3 ก๊ก
ทั้งนี้ หลวงปู่พุทธะอิสระ ชี้ให้เห็นว่า การที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ผลีผลามบุกเจ้าจับ ธัมมชโยและคนอื่นๆ ที่ถูกออกหมายจับเป็นการดำเนินยุทธวิธีด้วยปฏิบัติการค่อยๆ เชือดแบบนิ่มๆ ให้กระอักเลือด ทุรนทุรายเหมือนคนเสียสติแล้วค่อยตลบหลัง ซึ่งจากผลการกดดันของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตลอดช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่การออกหมายจับ และการตั้งข้อหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนขณะนี้รวมกว่า 100 คดี ทำให้สำนักจานบินต้องควักเงินจำนวนมากเพื่อจ้างระดมคนเพื่อมาเป็นกำแพงมนุษย์ปกป้องธัมมชโย และสำนักจานบิน โดยมีข่าวว่าจ่ายค่าหัวให้คนที่สวมบทบาทสาวกหัวละ 500 บาท ส่วนพวกที่โกนหัวเป็นพระจ่ายหัวละ 2,000 บาท ซึ่งเป็นเรื่องดีเหมือนกันเพราะเป็นการแจกเงินทำให้เกิดการกระจายรายได้
ขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้เห็นธาตุแท้ตัวจนที่แท้จริงของสำนักจานบินชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสถานการณ์สุกงอมเมื่อ ธัมมชโย และสำนักจานบินอ่อนแรงจนน่วมแล้วจึงค่อยตลบหลังจัดการ ธัมมชโย ซึ่งจะทำให้ไม่เสียเลือดเนื้อ
หลวงปู่พุทธะอิสระ จึงขอให้สาธารณชนเชื่อใจฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังเดินแผนยุทธพิชัยฉบับ 3 ก๊กเพราะตอนนี้ฝ่ายที่เดือดร้อนคือสำนักจานบิน และอยากให้ดีเอสไอประกาศบุกจับ ธัมมชโย บ่อยๆ ไปเรื่อยๆ วันละ 3 ครั้งหรือ 7 วัน, 15 วันครั้ง ซึ่งจะทำให้สำนักจานบินผวาและต้องหมดเงินไปกับการจ้างคนมาเป็นโล่มนุษย์อยู่ตลอดเวลาอันเป็นการดูดเงินกลับสู่สังคมได้จำนวนมาก และเมื่อหมดเงินหมดแรงเมื่อไหร่ค่อยนวดจนสำนักจานบินยอมพยุงเอา ธัมมชโย ออกมา
หากพิจารณาการวิเคราะห์ของ หลวงปู่พุทธะอิสระ ก็เข้าเค้าอยู่เหมือนกัน เพราะขณะนี้สำนักจานบินระดมคนทั้งที่เป็นสาวกและพระจริงกับสาวกและพระเทียมเข้าไปอยู่เต็มสำนักจานบิน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ผลีผลามบุกเข้าไปอาจมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออก ซึ่งอาจเป็นแผนกับดักที่สำนักจานบินต้องการ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมในการประโคมข่าวให้ใหญ่โตและชักศึกเข้าบ้านใช้โลกล้อมไทยด้วยการร้องต่อองค์การสหประชาชาติและนานาประเทศ ตลอดจนองค์กรพุทธทั่วโลกจนสถานการณ์ลุกลามบานปลายกลายเป็นเรื่องระดับโลกที่นานาประเทศหันมากดดันอำนาจรัฐไทย
ขณะเดียวกันที่ผ่านมาดีเอสไอและฝ่ายตำรวจเลื่อนเส้นตายเข้าจัดการ ธัมมชโย และสำนักจานบินมาหลายครั้งจนสาธารณชนจำนวนไม่น้อยเกิดอาการเซ็งและสวดเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลและอภิสิทธิ์ชนรัฐอิสระเหนือกฎหมาย แต่หากพิจารณาในอีกด้านหนึ่งทุกครั้งที่มีการเลื่อนจับ ธัมมชโย ตามเส้นตาย ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะขยายผลและกดดัน ธัมมชโย และ สำนักจานบินเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจนขณะนี้มีการดำเนินคดี ธัมมชโย และพวกกับสำนักจานบินรวมแล้วกว่า 100 คดี อาทิ ปลุกปั่นยุยงให้สาวกสำนักจานบินกระด้างกระเดื่องขัดขวางการเข้าจับ ธัมมชโย ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้อหาหมิ่นประมาท การโรยตะปูเรือใบหรือนำแท่งปูนขนาดใหญ่มาขวางถนนขัดขวางเจ้าหน้าที่ การสร้างอาคารภายในสำนักจานบินหลายอาคารและขุดบ่อบาดาลหลายบ่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุดตำรวจสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่สำนักจานบินนำป้ายไปติดรอบกำแพงสำนักจานบินรวม 17 จุดโดยมีข้อความว่า รั้วกำแพงรอบสำนักธรรมกายก่อสร้างโดยผิดกฎหมายซึ่งขณะนี้มีการยึดไว้เป็นของกลางห้ามใช้ห้ามเคลื่อนย้ายหรือกระทำการใดๆ ให้เสียหาย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย
ขณะเดียวกันตำรวจสภ.คลองหลวงได้นำหนังสือขอความอนุเคราะห์ส่งตัว ธัมมชโย ซึ่งถูกออกหมายจับ3 คดี รวมทั้ง นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน ที่ถูกออกหมายจับเช่นกันไปติดบริเวณหน้าประตู 7 สำนักจานบิน เพื่อให้พระและคนในสำนักจานบินที่มีอำนาจรับผิดชอบส่งตัว ธัมมชโย และนายองอาจ มาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ สภ.คลองหลวงภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุก 1-10 ปี นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 189 ฐานให้ความช่วยเหลือหรือปิดบังซ่อนเร้นผู้กระทำผิดที่ออกหมายจับเพื่อไม่ให้ถูกจำคุกมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี
ก่อนหน้านี้สำนักจานบินที่ถูกกดดันอย่างหนักเริ่มเผยธาตุความถ่อยถึงกับมีพระนักเลงของสำนักจานบินซึ่งไม่รู้ว่าพระจริงหรือพระปลอมที่รับจ้างมาปรี่เข้าตบนักข่าวช่างภาพสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวีที่กำลังทำข่าวถ่ายภาพบริเวณประตู 5 ของสำนักจานบินแล้วใช้เลเซอร์ยิงที่กล้องนักข่าวช่างภาพจนได้รับความเสียหายพร้อมตะคอกไล่นักข่าวช่างภาพคนดังกล่าว
ล่าสุดสำนักจานบินพยายามสร้างภาพดราม่าตามถนัดด้วยการแพร่ภาพมีสาวกสำนักจานบิน 6-7 คนพร้อมเด็ก 1 คนทำทีไปใส่บาตรพระ-เณรผ่านรั้วกำแพงซึ่งเป็นตะแกรงเหล็กที่มีป้ายซึ่งตำรวจนำมาติดไว้ก่อนหน้านี้ ห้ามเคลื่อนย้ายของกลางหรือทำให้เสียหาย โดยรั้วเหล็กดังกล่าวถูกล็อกกูญแจประตูทางเข้าเล็กๆ แน่นหนาซึ่งไม่น่าจะเป็นประตูที่พระเณรใช้รับการใส่บาตรตามปกติ ขณะที่พระมหานพพร ปุญญชโย เผยแพร่ภาพดังกล่าวทางโซเชียลมีเดียพร้อมข้อความว่า“สามเณรไม่สามารถออกมารับบาตรได้ เห็นแล้วสะเทือนใจ แล้วสาธุชนจะใส่บาตรยังไง แล้วสามเณรรับบาตรกันยังไงล่ะ การขัดขวางการปฏิบัติศาสนกิจผิดกฎหมาย” ทั้งๆ ที่ความจริงบริเวณที่กลุ่มสาวกจานบินไปสร้างภาพอยู่ห่างจากประตู 6 ของสำนักจานบินไม่ถึง 100 เมตร อันสะท้อนให้เห็นถึงเล่ห์ส่อสร้างภาพบิดเบือนที่สำนักจานบินชอบประพฤติปฏิบัติ
ดังนั้นจากการวิเคราะห์ของหลวงปู่พุทธะอิสระ สาธารณชนจำนวนไม่น้อยได้แต่สาธุหวังว่าจะเป็นจริง เพราะไม่อย่างนั้นจากแผนตามตำราพิชัยสงครามฉบับ 3 ก๊กอาจจะกลายเป็นแผนซูเอี๋ยปล่อยให้ธัมมชโยและสำนักจานบินเย้ยกฎหมายลอยนวลจนคสช.และรัฐบาลพ้นจากอำนาจ
ทีมข่าวการเมือง