ชาติหมดเวลาถอยหลัง ถึงเวลาต้องเดินหน้าปฏิรูปใหญ่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/250051

news_default

วันอาทิตย์ ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ประเทศชาติบอบช้ำอย่างหนัก เสียเวลาและเสียโอกาสจากวิกฤติความแตกแยกในชาติที่นำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งหากจะวิเคราะห์ต้นตอแห่งความแตกแยกให้ถ่องแท้จะพบว่าเกิดจากวงจรอุบาทว์ของกลุ่มธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเลวร้ายที่ทุจริตคอร์รัปชั่นและพยายามที่จะผูกขาดอำนาจหวังยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จทั้งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจโดยอาศัยคราบนักเลือกตั้งบังหน้า

พรรคและนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมคือต้นเหตุที่ทำให้มวลมหาประชาชนจำนวนหลายล้านคนออกมาแสดงพลังขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยและเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริงจนกลายเป็นวิกฤตการณ์นองเลือดทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ต้องเข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557

จากข้อเรียกร้องของมวลมหาประชาชนที่ต้องการให้มีการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่นำมาสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงซึ่งผ่านการทำประชามติมาแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการทูลเกล้าฯเพื่อลงพระปรมาภิไธยก่อนบังคับใช้และรอการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกราว 10 ฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้ที่สำคัญคือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส.และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)

นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ให้ความเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความโดดเด่นกว่ารัฐธรรมนูญในอดีตที่ผ่านมาเนื่องจากระบุถึงกลไกการปฏิรูปประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ในอนาคตจะได้รัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง และรัฐบาลปัจจุบันโดยคสช.จะพ้นจากวาระไปแล้วก็ตาม

โดยในมาตรา 258 ของรัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐต้องดำเนินการปฏิรูปใน 7 ด้าน ได้แก่ การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม การศึกษา เศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่มาตรา 259 กำหนดให้ รัฐต้องเริ่มกระบวนการปฏิรูปในปีแรกที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลภายใน 5 ปีรวมถึง ต้องมีกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปประเทศประกาศใช้ภายใน 120 วัน นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้

นอกจากนี้บทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้คสช.ยังคงมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง และระยะเวลา 5 ปีแรกสมาชิกวุฒิสภา(สว.)จะมาจากการสรรหาของคสช. อีกทั้งสว.แม้จะไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แต่ยังมีสิทธิ์ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นระยะเวลา 5-6 ปี หรือเลือกนายกฯได้ 2 สมัย และรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ต้องรายงานความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศทุก 3 เดือนด้วย

“ผมอยากฟันธงไว้เลยว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่ยุคเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่นับจากวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญไปอีก 5-6 ปี จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญชนิดที่เราอาจจะคาดไม่ถึง อาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน และที่สำคัญที่สุด การเปลี่ยนแปลงนี้ในช่วงปีแรกหรือ 7-8 เดือนแรก อาจจะเต็มไปด้วยความผันผวน ความไม่แน่นอน แต่อยากจะให้เราตั้งความหวังว่ามันจะจบลงด้วยดี และนำพาประเทศไปสู่สิ่งที่ดีกว่า”

ความเห็นของ นายคำนูณ ดูจะสอดคล้องกับสัญญาณจาก ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ที่ชี้ว่า ปีหน้าจะเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่โดยเฉพาะจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ขณะที่ ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ นักวิชาการชื่อดัง ให้ความเห็นว่า การปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เป็นโจทย์ยากมาก แต่จากกระแสเรียกร้องของมวลมหาประชาชนบังคับให้ต้องเกิดการปฏิรูปแต่สิ่งที่อยากเห็นก็คือต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศด้วยเพื่อสร้างการยอมรับอย่างแท้จริง

สำหรับบรรดาตัวแทนพรรคการเมืองมีทั้งที่ออกมาแสดงความเห็นเชิงสร้างสรรค์และแต่บางพรรคซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวส่อไปในทางสร้างความสับสนบ่อนทำลายขัดขวางการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพียงเพื่อรักษาอำนาจผลประโยชน์ของตัวเองเป็นหลักโดยบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านตั้งแต่ยังไม่ยกร่างรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ จากผลสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศต่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของนิด้าโพลล์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นในภาพรวมว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่เคยอ่านหรือมีความเข้าใจเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญมีความเชื่อมั่นในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้นในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักประกันในสิทธิเสรีภาพ การบริการสาธารณะ อาทิ การศึกษา สาธารณสุข สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมทั้งความสุจริตเที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง และที่สำคัญเชื่อมั่นว่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะทำให้ได้นักการเมืองและรัฐบาลที่ดีขึ้นกว่าในอดีต

ดังนั้น สถานการณ์บ้านเมืองหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จึงหมดเวลาแล้วสำหรับการถอยหลังไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองแบบเดิมๆ แต่จะเป็นการเดินหน้าวางรากฐานปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่เพื่อขจัดธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอันเป็นต้นเหตุของวิกฤติชาติทั้งปวง

Leave a comment