ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/246889

ปัญหาธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักจานบิน ผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล3คดีได้มาถึงจุดที่จะต้องพิสูจน์ผิดถูกชั่วดี วัดความศักดิ์สิทธิ์และเท่าเทียมในการบังคับใช้กฏหมาย และวัดความเป็นพระแท้หรือพระเทียม รวมทั้งพิสูจน์สถานะที่แท้จริงของสำนักจานบินว่าเป็นวัดหรือเป็นแหล่งอิทธิพลอันเป็นที่หลบซ่อนของผู้ต้องหาหนีคดีซึ่งทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย
ทบทวนความจำอีกครั้งสำหรับหมายจับ 3 คดีของธัมมชโยประกอบด้วยหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรในคดีขบวนการโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ส่วนอีก 2 คดีเป็นหมายจับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสร้างสวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย และบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมารวมพื้นที่หลายร้อยไร่
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ย้ำชัดว่า กฏหมายต้องเป็นกฏหมายและเสมอภาคเท่าเทียมไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมายได้ ซึ่งฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐหากไม่บังคับใช้กฏหมายเข้าจับกุมตัว
ธัมมชโย ตามหมายศาลและความผิดเท่ากับละเลยการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติ
เพราะหากเป็นชาวบ้านตาสีตาสาถูกศาลออกหมายจับในคดีเดียวกันเชื่อว่าป่านนี้เข้าไปอยู่ในคุกเรียบร้อยแล้ว
พล.อ.ไพบูลย์ ยังย้ำชัดอีกว่า หากเจ้าหน้าที่ต้องเข้าจับกุม ธัมมชโย ก็ต้องสึกก่อนเพราะนำพระเข้าห้องขังไม่ได้
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะดีเอสไอ ตำรวจ พยายามหาทางออกที่นุ่มนวลด้วยการติดต่อไปยังคนใกล้ชิด ธัมมชโย ให้ยอมมอบตัวแต่โดยดี โดยเจ้าหน้าที่พร้อมจะไปแจ้งข้อหาถึงที่สำนักจานบินโดยมีเงื่อนไขผ่อนปรนให้ ธัมมชโย ได้ประกันตัวทันที เพราะหากเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายบุกเข้าจับกุมก็ต้องจับ ธัมมชโย สึกสถานเดียวก่อนนำเข้าห้องขัง
หรือแม้แต่ก่อนหน้านี้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็เคยไปพบพระชั้นผู้ใหญ่ที่ปกครอง ธัมมชโย หลายรูปโดยหวังให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ ธัมมชโย มอบตัวเพื่อให้เรื่องราวจบลงด้วยความละมุนละม่อม แต่ ธัมมชโย อาจมั่นใจถือดีในอิทธิพลของตัวเองจึงตั้งแง่สารพัดเงื่อนไขยื้อเกมไม่ยอมมอบตัวมาจนทุกวันนี้
การที่พระชั้นผู้ใหญ่หรือแม้แต่มหาเถรสมาคม(มส.)ไม่สามารถที่จะคลี่คลายปัญหาของ พระธัมมชโย สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวขององค์กรสูงสุดของสงฆ์ชุดนิ้ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตุว่า
ที่ผ่านมาคอยให้การปกป้องและอยู่ภายใต้อิทธิพลของ ธัมมชโย มาตลอด
ขณะที่เส้นตายการบังคับใช้กฏหมายเพื่อจับธัมมชโย ใกล้เข้ามาทุกขณะ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน ที่ถูกตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อออกมาส่อเจตนาเล่นลิ้นรายวัน โดยเมื่อวันก่อนเพิ่งจะพูดไปหยกๆยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า ธัมมชโย ยังอยู่ในสำนักจานบินไม่ได้หลบหนีตามข่าวลือ พร้อมส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ว่า หากเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับกุม ธัมมชโย เหล่าสานุศิษย์ลัทธิจานบินที่ขณะนี้ถูกระดมมาเพื่อเป็นกำแพงมนุษย์จำนวนมากโดยอ้างว่ามาสวดมนต์เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศบังหน้าอาจตกใจและไม่รับประกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ล่าสุด นายองอาจ พลิกลิ้นบอกหน้าตาเฉยว่า ไม่ได้เจอ ธัมมชโย มา 6 เดือนแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าแอบไปปลีกวิเวกเพราะ 10 ปีที่ผ่านมาเจ้าสำนักจานบินเวลาอาพาธมักจะแอบไปปลีกวิเวกรักษาอาการพาพาธบ่อยๆ
ขณะเดียวกันกระบอกเสียงสำนักจานบินก็เล่นลิ้นกลืนน้ำลายตัวเองด้วยการปฏิเสธว่าไม่เคยข่มขู่เจ้าหน้าที่หากบุกมาจับตัว ธัมมชโย แต่ก็ยังอดส่อเจตนาขู่อยู่ในทีไม่ได้ว่า “ ไม่มีใครอยากให้เกิดความวุ่นวาย แต่เราคงจะไปห้ามปรามหรือบังคับใครไม่ได้เพราะวัดเป็นสมบัติของสาธารณชนของพระพุทธศาสนา ทำได้เต็มที่ก็แค่คัดกรองความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้น “
เมื่อถูกถามว่าคณะศิษย์สามารถควบคุมไม่ให้มีการลงไปปฏิบัติธรรมบนถนนได้หรือไม่หากเจ้าหน้าที่เดินทางเข้ามาในวัด นายองอาจ เล่นลิ้นตอบชวนให้คิดแกมขู่ว่า “อนาคตตอบไม่ได้ อยู่กับปัจจุบันทำวันนี้ให้ดีที่สุด อนาคตจะเป็นอย่างไรขอให้ช่วยกันดูแล“
หากยังจำกันได้การบุกหมายคุมตัว ธัมมชโย ครั้งแรกก่อนหน้านี้ เหล่ากระบอกเสียงสำนักจานบินทั้งพระทั้งฆราวาสต่างยืนยันว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่โดยไม่มีการตั้งกำแพงมนุษย์ขัดขวางเหมือนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่พอเอาเข้าจริงก็มีการตั้งรั้วลวดหนามซึ่งเป็นยุทธภัณฑ์ มีการนำรถแม็คโครขนาดใหญ่หลายคันมาจอดขวางประตูทางเข้า และมีกองกำลังลึกลับปะปนอยู่ในหมู่ศิษย์สำนักจานบิน พร้อมทั้งระดมสาวกจานบินมานั่งสมาธิเต็มถนนในวันที่กำลังดีเอสไอเดินทางไปหมายคุมตัว ธัมมชโย ส่อเจตนาขัดขวางเจ้าหน้าที่ชัดเจน จนดีเอสไอต้องถอนกำลังกลับเพราะกลัวตกหลุมพรางสร้างสถานการณ์ให้บานปลายเพื่อให้เป็นข่าวไปทั่วโลก
ซ้ำร้ายยังมีการออกแถลงการณ์อ้างว่า ธัมมชโย จะยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็ต่อเมื่อชาติบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้น นั่นคือไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมยุคคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.) ส่อเจตนายื้อเกมหนีหมายจับออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในเมื่อ”ธัมมชโย”และสำนักจานบินจ่อเจตนาดึงเกมทำตัวเหนือกฏหมายทั้งๆที่ฝ่ายรัฐพยายามหาทางออกที่ละมุนละม่อมให้แล้วยังตั้งแง่หาข้ออ้างสารพัดมานานหลายเดือนแล้ว บัดนี้จึงถึงเวลาที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐต้องบังคับใช้กฏหมายโดยเข้าคุมตัวธัมมชโยเสียที โดยทำอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาด้วยการพาบรรดาสื่อร่วมรายงานข้อเท็จจริงตลอดเหตุการณ์ ส่วนใครปลุกระดมหรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น โดยสื่อจะเป็นพยานได้ว่าใครกันแน่ที่พยายามตั้งแง่ตีรวนทำตัวอยู่เหนือกฏหมาย
ทีมข่าวการเมือง