ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/248213
วันเสาร์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

ในอดีตสำนักข่าวบีบีซีของสหราชอาณาจักรได้ชื่อว่าเป็นสื่อมวลชนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและเป็นที่ยอมรับในจรรยาบรรณความเป็นสื่อมืออาชีพมากว่าศตวรรษ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสื่อซึ่งเป็นที่ยอมรับของโลกสำนักนี้ตกอยู่ภายในภาวะแห่งความเสื่อมทางจริยธรรมโดยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเสนอข่าวที่ไร้ความเป็นกลางส่อเจตนาสนับสนุนระบอบแม้ว และที่เลวร้ายคือส่อมุ่งร้ายบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยอย่างต่อเนื่อง
บทบาทของสำนักข่าวบีบีซีทั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ และบีบีซีในไทย โดย นายโจนาธาน เฮดหัวหน้าบีบีซีประจำประเทศไทย ที่ผ่านมาส่อไปในทางสนับสนุนปกป้องระบอบแม้วอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็หาประเด็นมุ่งโจมตีฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามระบอบแม้วอย่างเอาเป็นเอาตาย
แต่ที่เลวร้ายคือ โจนาธาน เฮด ผู้นี้ส่อเจตนาบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทยโดยก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นเบื้องสูงตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญามาแล้ว
และที่กำลังเป็นข่าวครึกโครมขณะนี้ก็คือกรณีที่บีบีซีประจำประเทศไทยถือโอกาสเผยแพร่บทความทางโลกออนไลน์ในลักษณะจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงของไทยในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านรัชกาล ซึ่งเผอิญสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของขบวนการคนเสื้อแดงแนวคิดล้มเจ้าซึ่งหนีหมายจับคดีหมิ่นเบื้องสูงไปกบดานอยู่ในหลายประเทศ อาทิ ลาว กัมพูชา สหรัฐอเมริกา อังกฤษ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย โดยแก๊งอุบาทว์เหล่านี้โจมตีทำลายสถาบันเบื้องสูงอย่างเหิมเกริมผ่านทางสื่อออนไลน์
จนก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ได้ประสานขอความร่วมมือจากทางการลาวให้จัดการกับแก๊งแดงคิดล้มเจ้าที่กบดานและอาศัยแผ่นดินลาวเคลื่อนไหวเรื่องชั่วร้าย ซึ่งทางการลาวให้ความร่วมมือระดับหนึ่งโดยสั่งให้กลุ่มดังกล่าวยุติการเคลื่อนไหว มิฉะนั้นจะคุมตัวส่งกลับให้ให้ทางการเมือง
แก๊งแดงบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงที่หนีหมายจับ อาทิ นายจักรภพ เพ็ญแข นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี นายชูพงศ์ถี่ถ้วน นายเอกภาพ เหลือรา หรือ “ตั้ง อาชีวะ” นายศรันย์ ฉุยฉาย หรือ “อั้ม เนโกะ”
จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้สื่อระดับโลกหลายสำนักต้องปิดตัวเอง ต้องขายกิจการ หรือต้องลดเงินเดือนหรือลดจำนวนพนักงานลงเพื่อความอยู่รอด ซึ่งรวมทั้งบีบีซีที่ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก ขณะเดียวกันก็มีการหารายได้ผ่านทางบริษัทล็อบบี้ยิสต์
จากกรณีล่าสุดที่บีบีซีประจำประเทศไทยปิดทำการชั่วคราวแล้วหันไปเผยแพร่ข่าวบทความในประเทศอื่นสะท้อนอาการร้อนตัวต่อความผิดที่ตัวเองก่อไว้ ขณะเดียวกันบีบีซีได้ออกคำแถลงตอบโต้ทางการไทยโดยอ้างว่าสื่อทั่วโลกพร้อมใจการเสนอข่าวที่ทางการไทยที่เตรียมดำเนินคดีกับบีบีซีไทยตามมาตรา 112 ฐานหมิ่นเบื่องสูง พร้อมกับพยายามชี้ว่า นับตั้งแต่คณะรัฐประหารเข้ามาบริหารประเทศมุ่งมั่นกระตือรือร้นในการดำเนินคดีกับบรรดาผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนนานาชาติระบุว่า กฎหมายหมิ่นเบื้องสูงของไทยกำกวมและมีโทษรุนแรงเกินไป
คำชี้แจงของบีบีซียังอ้างว่า ไม่ได้เลือกข้าง แต่มีความเป็นอิสระยึดความถูกต้องในการทำหน้าที่สื่อ และมั่นใจว่าบทความของบีบีไทยก่อนหน้านี้ไม่มีสิ่งใดขัดต่อจรรยาบรรณในการเสนอข่าว
ความจริงบีบีซีรู้ดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่ แต่ทำเป็นเฉไฉตอบไม่ตรงคำถามและข้อข้องใจของคนไทยทั้งประเทศที่อยากรู้เพียงว่า บีบีซีไทยเผยแพร่บทความทางเว็บไซต์ส่อเจตนาโจมตีสถาบันเบื้องสูงของไทยจริงหรือไม่ และทำไมต้องปิดตัวเองชั่วคราวเหมือนร้อนตัวไม่กล้าสู้หน้ากับความจริง
หากจะพูดถึงจรรยาบรรณการทำหน้าที่สื่ออย่างมืออาชีพต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง ไม่ใช่ไปหยิบประเด็นข่าวลือทางโซเชียลมีเดียซึ่งไม่มีที่มาที่ไปชัดเจนซ้ำเป็นเท็จแล้วนำมาใส่สีตีไข่เผยแพร่ในทางบ่อนทำลายสถาบันสูงสุดของไทยซึ่งไม่ใช่วิสัยของสื่อมืออาชีพระดับโลก เว้นแต่จะเป็นสื่อประเภทผีโม่แป้ง
บีบีซีรู้ทั้งรู้ว่าการหมิ่นเบื้องสูงเป็นการผิดกฎหมายไทยและรู้ดีด้วยว่าเรื่องสถาบันเบื้องสูงเป็นเรื่องอ่อนไหวสำหรับคนไทย แต่ก็จงใจทำจนถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีเบื้องหลังแอบแฝง
เรื่องนี้เป็นเรื่องความผิดตามกฎหมายไทย อย่ามาอ้างเสรีภาพเลอะเทอะ หากต้องการเสรีภาพแบบไร้ขอบเขตก็ไปอยู่ประเทศอื่นอย่ามาอาศัยแผ่นดินไทยหากินบ่อนทำลายสถาบันอันเป็นที่เคารพเทิดทูนของคนทั้งประเทศ
ก่อนหน้านี้ นายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโส ซึ่งเคยทำงานให้กับสื่อระดับโลกหลายสำนักตั้งข้อสังเกตว่า รู้จักและติดตามผลงานของ นายนพพร วงศ์อนันต์ ซึ่งเป็นบรรณาธิการบีบีซีไทยมานาน โดยบุคคลผู้นี้เมื่อครั้งทำงานอยู่ที่สำนักข่าวรอยเตอร์ก่อนมาอยู่บีบีซีเคยบินเดี่ยวไปสัมภาษณ์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก โดย นายนพพร เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจาก นายทักษิณ และประเด็นที่ นายนพพร ฝังใจและเกาะติดเป็นพิเศษคือเรื่องที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้
อดีตนักข่าวอาวุโสยังระบุว่า เมื่อครั้งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ นายนพพร บินจากกรุงเทพฯไปถามนายอภิสิทธิ์ ถึงประเทศสิงคโปร์ในประเด็นอ่อนไหวนี้ซึ่ง นายอภิสิทธิ์ ตอบว่าคงไม่เป็นไปตามที่ นายนพพรถาม และเชื่อว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะฉะนั้นกรณีบทความล่าสุดของบีบีซีไทยจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือเผอเรอ แต่มันเป็นความเชื่อและอุดมการณ์ของ นายนพพร
เรื่องราวทั้งหมดจึงสะท้อนยุคเสื่อมไร้เครดิตของบีบีซี แต่ที่น่าประณามก็คือคนไทยบางกลุ่มขายตัวสมคบกับสื่อต่างชาติบ่อนทำลายสถาบันสูงสุดของตัวเอง
ทีมข่าวการมือง