ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/249255
วันจันทร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

6 เดือนหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ส่งกำลังเจ้าหน้าที่บุกสำนักจานบินครั้งแรกหวังควบคุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักจานบินที่ถูกออกหมายจับในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอยอมถอยปล่อยให้ธัมมชโยเย้ยกฎหมายลอยนวลด้วยการทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมายใช้กำแพงมนุษย์ตั้งป้อมขัดขวางการจับธัมมชโยซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ
ล่าสุดดีเอสไอซึ่งถูกกระแสสังคมจับตากดดันอย่างหนักทำทีขออนุมัติหมายค้นสำนักธรรมกายจากศาล ซึ่งศาลอนุมัติหมายค้นตามคำขอระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่แล้วก็ไม่มีการเข้าจับกุมธัมมชโยตามหมายค้น ทั้งๆ ที่มีการประชุมวางแผนระหว่างตัวแทนดีเอสไอและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดูขึงขังทำทีว่าจะเอาจริง แต่ในที่สุดก็คว้าน้ำเหลวปล่อยธัมมชโยลอยนวลเหนือกฎหมายตามเคยหลังผ่านเส้นตายวันสุดท้ายการเข้าค้นสำนักจานบินตามอำนาจศาลเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
แม้แต่ นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งทำงานร่วมกับดีเอสไอมาตั้งแต่ต้นในคดี ธัมมชโย ถูกออกหมายจับฐานฟอกเงินและรับของโจรยังออกมาให้ความเห็นแสดงความแปลกใจและตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดดีเอสไอทั้งๆ ที่มีหมายค้นตามอำนาจศาล แต่กลับไม่เข้าตรวจค้นในระยะเวลาที่กำหนด ทำให้น่าวิตกว่า
การออกหมายค้นสำนักจานบินเพื่อจับ ธัมมชโย ของดีเอสไอครั้งต่อไปจะยากขึ้นเพราะศาลอาจตั้งคำถามว่า เหตุใดให้หมายค้นไปแล้วไม่ค้น
อัยการผู้นี้ยังชี้ว่า ดีเอสไอยังอาจถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยสิ่งที่ดีเอสไอควรทำหลังได้หมายค้นคือ การประกาศให้สำนักจานบินเป็นเขตตรวจค้นและกันคนเข้า-ออก รวมถึงปิดประตูทางเข้า-ออกทุกประตู แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ ตั้งแต่แรก
เช่นเดียวกันฝ่ายตำรวจที่มีหมายจับ ธัมมชโย ในข้อหารุกป่าและที่สาธารณะตั้งสาขาสำนักจานบินที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และที่ จ.เลย รวมทั้งหมายจับ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกสำนักจานบิน ฐานปลุกปั่นยุยงให้สาวกสำนักจานบินกระด้างกระเดื่องขัดขวางการเข้าจับ ธัมมชโย ของฝ่ายเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้อหาหมิ่นประมาท ยังไม่รวมการดำเนินคดีกับสำนักจานบินเพิ่มเติมอีกกว่า 100 คดี อาทิ โรยตะปูเรือใบหรือนำแท่งปูนขนาดใหญ่มาขวางถนนขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ การสร้างอาคารภายในสำนักจานบินหลายอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต การขุดบ่อบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่หมายจับหมายค้นของฝ่ายตำรวจก็คว้าน้ำเหลวปล่อยให้ทั้ง ธัมมชโย และ นายองอาจ ลอยนวลเย้ยกฎหมาย
ขณะนี้เริ่มเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าเหมือนแสดงปาหี่พยายามซื้อเวลาไปเรื่อยๆ โดยล่าสุดตำรวจสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่สำนักจานบินนำป้ายไปติดรอบกำแพงสำนักจานบินรวม 17 จุด
โดยมีข้อความว่า รั้วกำแพงรอบสำนักธรรมกายก่อสร้างโดยผิดกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีการยึดไว้เป็นของกลาง ห้ามใช้ ห้ามเคลื่อนย้ายหรือกระทำการใดๆ ให้สูญหาย หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย
อย่างนี้อาจถูกมองได้ว่าจับคนไม่ได้ก็เลยแก้เกี้ยวสร้างผลงานใช้กำแพงซึ่งเป็นแค่อิฐแค่ปูนมาเป็นตัวประกัน
ขณะเดียวกันตำรวจสภ.คลองหลวงได้นำหนังสือขอความอนุเคราะห์ส่งตัว ธัมมชโย ซึ่งถูกออกหมายจับ 3 คดี รวมทั้ง นายองอาจ ที่ถูกออกหมายจับเช่นกันไปติดบริเวณหน้าประตู 7 สำนักจานบิน เพื่อให้พระและคนในสำนักจานบินที่มีอำนาจรับผิดชอบส่งตัว ธัมมชโย และ นายองอาจ มาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ สภ.คลองหลวงภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ของกฎหมายอาญา ซึ่งมีโทษจำคุก 1-10 ปี นอกจากนี้ยังเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 189 ฐานให้ความช่วยเหลือหรือปิดบังซ่อนเร้นผู้กระทำผิดที่ออกหมายจับเพื่อไม่ให้ถูกจำคุกมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรากฏว่ามีพระสำนักจานบินออกมาดูหนังสือขอความอนุเคราะห์แล้วก็เมินไม่ยอมรับรู้แล้วเดินหนีไปหน้าตาเฉยสะท้อนความไม่แยแสในเจ้าหน้าที่รัฐอย่างสิ้นเชิง
ก่อนหน้านี้ฝ่ายตำรวจเคยส่งนายตำรวจถึงระดับ พล.ต.ต.พยายามไปยื่นหมายจับและหมายค้น คดี ธัมมชโย ในข้อหารุกป่าและที่สาธารณะมาแล้ว แต่ถูกยามสำนักจานบินหยามด้วยการไม่อนุญาตให้เข้าไปยื่นหมายจับและหมายค้นเด็ดขาด จน พล.ต.ต.นายนั้นหมดปัญญาต้องนำหมายติดไว้ที่หน้าประตูแล้วเดินทางกลับ
การที่ฝ่ายอำนาจรัฐอ้างเหตุผลไม่กล้าบุกจับ ธัมมชโย เพราะเกรงปัญหาลุกลามบานปลายจากการต่อต้านของเหล่าสาวกสำนักจานบินจนอาจสูญเสียเลือดเนื้อ ซึ่งจะเข้าทางสำนักจานบินที่จะอาศัยเหตุการณ์รุนแรงนำไปใช้ปลุกระดมทางการเมือง
สร้างข่าวว่าพระถูกทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมอันขัดหลักสิทธิมนุษยชนร้ายแรงเพื่อให้เกิดกระแสโลกล้อมไทยเหมือนกับที่ระบอบแม้วใช้มาตลอด
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามพร้อมข้อสังเกตว่าแล้วจะต้องรออีกนานเท่าใดถึงจะเข้าจับกุม เพราะหากฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ
อ้างกลัวสถานการณ์บานปลายรับรองว่าชาติหน้าก็ยังจับ ธัมมชโย และพวกไม่ได้แน่ เพราะท่าทีของ ธัมมชโย และสำนักจานบินชัดเจนมาตลอดว่าท้าทายไม่ยอมรับกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และการไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายจะเป็นบรรทัดฐานยอมจำนนของรัฐที่ปล่อยให้กลุ่มผู้อิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย
ทั้งๆ ที่ความจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่รัฐมีความชอบธรรมที่จะเข้าจับกุมเพราะเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เพียงแต่ต้องประชาสัมพันธ์ชี้แจงต่อชาวโลกให้เห็นว่า การจับกุม ธัมมชโย เป็นเรื่องการบังคับใช้กฎหมายตามปกติซึ่งคนทำผิดต้องถูกดำเนินคดีเหมือนคนทั่วไป ตรงกันข้ามหาก
เจ้าหน้าที่รัฐไม่บังคับใช้กฎหมายเท่ากับปล่อยให้คนทำผิดกฎหมายลอยนวลทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมายเท่ากับกฎหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนยุทธวิธีการเข้าจับกุมสามารถทำให้ชาวโลกเห็นถึงความโปร่งใสด้วยการนำกำลังเข้าสำนักจานบินอย่างเปิดเผยพร้อมกองทัพสื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์เป็นพยานในการเข้าตรวจค้นจับกุม ธัมมชโย เพื่อจะได้เห็นกันชัดๆว่า ใครขัดขวางและสร้างสถานการณ์ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง
การขีดเส้นตายขอความอนุเคราะห์ให้คนในสำนักจานบินนำตัวธัมมชโยและนายองอาจส่งมอบต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 7 วัน ครั้งล่าสุดถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการซื้อเวลาลมๆ แล้งๆ ขณะที่สังคมดูเหมือนจะไม่เชื่อถือเส้นตายของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะดีเอสไอและฝ่ายตำรวจอีกต่อไป และที่สำคัญคืออาจเกิดวิกฤติศรัทธาต่ออำนาจรัฐโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
ทีมข่าวการเมือง