ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/248426
วันจันทร์ ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.

สังคมตั้งคำถามว่าเป็นเรื่องบังควรเหมาะสมหรือไม่กรณีที่มีข่าวว่าสำนักจานบินได้ออกแบบฟอร์มล่ารายชื่อบรรดาสาวกให้ได้มากที่สุดเพื่อถวายฎีกาหวังช่วย ธัมมชโยเจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์สำนักจานบินให้รอดพ้นโทษความผิดที่ถูกออกหมายจับถึง 3 หมายและกำลังจะถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบุกเข้าจับตัวหลังจากส่อพฤติการณ์ดื้อแพ่งไม่ยอมมอบตัวตามกฎหมายมานาน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ตั้งข้อสังเกตว่าโดยปกติการถวายฎีกานั้นจะกระทำก็ต่อเมื่อผู้ต้องหาได้รับโทษตามความผิดแล้วจึงถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยผู้ที่ยื่นเรื่องถวายฎีกาได้นั้นต้องเป็นผู้ต้องหาขออภัยโทษเองหรือญาติเป็นผู้ถวายฎีกาเท่านั้น
แต่สำหรับกรณีของ ธัมมชโย นั้นยังไม่ได้รับโทษซ้ำเป็นการหนีหมายจับตามกระบวนการยุติธรรมจึงไม่เข้าข่ายที่จะถวายฎีกา ดังนั้นการถวายฎีกาทั้งๆ ที่ขัดกฎเกณฑ์การถวายฎีกา อีกทั้งธัมมชโยเองก็อยู่ระหว่างการถูกออกหมายจับตามกระบวนการยุติธรรมจึงเป็นเรื่องที่ไม่บังควรและไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งเพราะอาจเป็นการทำให้ระคายเบื้องพระยุคลบาทดึงฟ้าลงต่ำเพียงเพื่อให้ธัมมชโยรอดพ้นจากการบังคับใช้กฎหมายและตามหมายจับซึ่งอนุมัติโดยศาลซึ่งเท่ากับทำลายกระบวนการยุติธรรม หลักนิติรัฐและความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนี้การถวายฎีกาในลักษณะนี้ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานอันเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมเพราะต่อไปผู้กระทำผิดกฎหมายหรืออาชญากรซึ่งมีอิทธิพลพอถูกออกหมายจับก็อาจล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกา
ทั้งนี้หาก ธัมมชโย เป็นสงฆ์แท้ที่สละแล้วซึ่งกิเลสและความเห็นแก่ตัวต้องเข้ามอบตัวสู้คดีอย่างบริสุทธิ์ใจ สงบนิ่งสง่างามเพื่อพิสูจน์ความถูกผิดตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่พยายามดิ้นรนดื้อแพ่งอาศัยเหล่าสาวกเป็นเครื่องมือปกป้องคุ้มครองตัวเองเพื่อให้รอดหมายจับตามกฎหมายโดยไม่คำนึงถึงวิกฤตการณ์ที่จะตามมา
นอกจากความพยายามดิ้นรนที่ไม่บังควรด้วยการถวายฎีกาแล้ว ขณะนี้ยังมีข่าวว่ามีการนำรถไปขนคนเข้ามาในสำนักจานบินจำนวนมาก ขณะที่สถานการณ์กำลังจะถึงจุดไคลแม็กซ์ที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกำลังเตรียมจะบุกเข้าควบคุมตัว ธัมมชโย หลังดื้อแพ่งมานานโดยอ้างว่าสาวกเหล่านี้มาเพื่อมาสวดมนต์
ข้อน่าสังเกตก็คือการที่ต้องใช้รถไปขนเหล่าสาวกด้านหนึ่งอาจสะท้อนความเสื่อมของสำนักจานบินที่ช่วงหลังสาวกมีจำนวนน้อยลงมากจึงต้องทำทุกวิถีทางถึงขนาดต้องเกณฑ์สาวกมาชุมนุมปกป้อง ธัมมชโย ให้ได้มากที่สุด และไม่แน่ว่าคนที่ขนมาอาจถูกจ้างโดยเฉพาะคนต่างด้าว อาทิ ชาวพม่าหรือกัมพูชา เพราะน่าสงสัยว่าสำนักจานบินออกกฎเข้มงวดห้ามสื่อสัมภาษณ์หรือถ่ายภาพบรรดาสาวกที่มารวมตัวอยู่ในสำนักจานบินอย่างเด็ดขาด หรือเพราะเกรงความลับบางอย่างจะถูกเปิดเผย
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศของนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ล่าสุดต่อเรื่องการดำเนินคดีกับ ธัมมชโย สะท้อนว่าประชาชนเพียงไม่ถึงร้อยละ 1.5ที่เห็นว่า ธัมมชโย ไม่ได้ทำความผิดใดๆ โดยประชาชนกว่าร้อยละ 90 เห็นว่าเจ้าหน้าที่ควรบังคับใช้กฎหมายกับธัมมชโย หรือไม่ ธัมมชโย ก็ควรมอบตัวเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ที่สำคัญเมื่อถามถึงความมั่นใจของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่ในการดำเนินคดีกับ ธัมมชโยภายใน 3 เดือนตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ประกาศไว้ ปรากฏว่า ประชาชนแค่ร้อยละ 14.40 ที่ระบุว่ามั่นใจมาก ร้อยละ 16.40 ค่อนข้างมั่นใจ ที่เหลือไม่มั่นใจเลยหรือไม่ค่อยมั่นใจ
เมื่อหันมาดูท่าทีล่าสุดของฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)นำโดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมดีเอสไอ และฝ่ายตำรวจซึ่งมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมามีการเลื่อนเส้นตายมาแล้วหลายเส้นมาล่าสุดมีรายงานข่าวว่ากำหนดเส้นตายใหม่เพื่อเผด็จศึกจับ ธัมมชโย อีกแล้วคือเช้าตรู่วันที่ 13 ธ.ค.นี้
โดยมีรายงานข่าวว่า ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่สำนักจานบินมีคำสั่งด่วนที่สุดถึงตำรวจทุกจังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 เตรียมความพร้อมกำลังควบคุมฝูงชนโดยให้จ.สมุทรปราการ นนทบุรี และพระนครศรีอยุธยา สระบุรี อ่างทอง และลพบุรี เตรียมกำลังจังหวัดละ 2 กองร้อยจังหวัดสิงห์บุรีและชัยนาทจังหวัดละ1 กองร้อย และให้จังหวัดสมุทรปราการนนทบุรี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี เตรียมรถขยายเสียงจังหวัดละ 1 คัน โดยขอให้พร้อมปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง
รายงานข่าวระบุอีกว่าได้มีการประสานไปยังกองทัพเพื่อขอกำลังทหารเป็นกำลังสนับสนุนในกรณีจำเป็นด้วย โดยขณะนี้มีการวางเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าประจำจุดรอบสำนักจานบินเพื่อจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด และตามแผนปฏิบัติการในวันดีเดย์บุกสำนักจานบินจะมีการวางกำลังปิดล้อมรอบสำนักจานบินทั้งหมดโดยห้ามคนภายนอกเข้าไปภายในสำนักจานบินอย่างเด็ดขาดเพื่อตัดกำลัง ขณะเดียวกันจะอนุญาตให้คนภายในสำนักจานบินออกมาได้เพื่อเปิดโอกาสให้เหล่าสาวกที่กลับใจให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่
เพราะฉะนั้นเช้าตรู่วันที่ 13 ธ.ค. คงได้รู้กันว่าเส้นตายจะเลื่อนตามเคยอีกหรือไม่ ท่ามกลางเสียงสะท้อนของประชาชนส่วนใหญ่จากผลสำรวจนิด้าโพลที่ไม่ค่อยจะมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะเอาจริงบังคับใช้กฎหมายกับธัมมชโยซึ่งปัญหาความระส่ำระสายปั่นป่วนวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดขึ้นถูกตั้งข้อสังเกตว่าล้วนเกิดจากพระเทียมที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายเพียงคนเดียว
ทีมข่าวการเมือง