ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/248105
วันศุกร์ ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

หากประเมินสถานการณ์จากนี้ไปเริ่มมีสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐอันประกอบด้วย กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นหลักใกล้จะเริ่มปฏิบัติการเข้าตรวจค้นสำนักจานบินเพื่อจับกุมธัมมชโย หลังจากที่มีการดื้อแพ่งทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมายมานาน
ที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐพยายามใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายจนเกิดการปะทะรุนแรงระหว่างเหล่าสาวกสำนักจานบินกับฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งเห็นได้จากการที่ก่อนหน้านี้กำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเดินทางไปยังสำนักจานบินพร้อมหมายจับ ธัมมชโย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ถูกขัดขวางจากเหล่าสาวกสำนักจานบินที่ตั้งเป็นกำแพงมนุษย์จนกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอต้องยอมล่าถอยมาตั้งหลักใหม่เพื่อไม่ให้บานปลายกลายเป็นความรุนแรง
ขณะเดียวกันมีการประสานไปยังมหาเถรสมาคม(มส.) และพระผู้ใหญที่ปกครอง ธัมมชโย ให้ช่วยเกลี้ยกล่อม ธัมมชโย ให้ยอมมอบตัวแต่โดยดี แต่ก็ประสบความล้มเหลวมาตลอด จนแม้แต่ความพยายามที่จะเกลี้ยกล่อม ธัมมชโย โดยตัวแทนพระชั้นผู้ใหญ่และ นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำเอา นายพนม ถึงกับถอดใจยอมรับว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อม ธัมมชโย ได้แล้วและขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ดีเอสไอและสตช.เห็นสมควร
ที่ผ่านมา ธัมมชโย ใช้สารพัดข้ออ้างกลับไปกลับมาเพื่อซื้อเวลาไปเรื่อยๆ อาทิ อ้างว่าป่วย อ้างว่าขอให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงก่อนถึงยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หรือตั้งแง่ขอประกันตัวทันทีหากยอมมอบตัวซึ่งเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะอำนาจการประกันตัวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลหลังจากที่ฝ่ายอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ธัมมชโย ที่ถูกออกหมายจับในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีโกงเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
เมื่อเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ธัมมชโย คิดปักหลักสู้ไม่ยอมมอบตัวตามหมายจับก็ถือเป็นความชอบธรรมที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามกฎหมายด้วยการเข้าจับกุมตัว ธัมมชโย ตามหมายจับซึ่งหากเหล่าสาวกสำนักจานบินขัดขวางการจับกุมไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เจ้าหน้าที่มีอำนาจและความชอบธรรมที่จับกุมดำเนินคดีฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
หากเหล่าสาวกขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของสำนักจานบินซึ่งไม่ใช่สำนักปฏิบัติธรรมตามที่ยึดถือหลักธรรมคำสอนตามหลักพระพุทธศาสนา แต่ทำตัวดุจรัฐอิสระที่ไม่เคารพ
กฎหมายบ้านเมือง
การที่ดีเอสไอทำเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อระงับการถ่ายทอดสดสถานีวิทยุโทรทัศน์ดีเอ็มซีอันเป็นสื่อกระบอกเสียงของสำนักจานบินเป็นการชั่วคราวระหว่างที่กำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุม ธัมมโช ซึ่งกสทช.อนุมัติตามการร้องขอของดีเอสไอนั้น ถือเป็นสัญญาณนับถอยหลังแผนตัดกำลังก่อนปฏิบัติการ
การที่ดีเอสไอต้องร้องขอให้ระงับสัญญาณการถ่ายทอดสดของดีเอ็มซีซึ่งเป็นกระบอกเสียงของสำนักจานบิน เพราะที่ผ่านมา ดีเอ็มซีมีพฤติการณ์ส่อไปในทางปลุกระดมให้เหล่าสาวกสำนักจานบินเดินทางมารวมตัวกันที่สำนักจานบินให้มากที่สุดเพื่อปกป้อง ธัมมชโย อันส่อเป็นอันตรายต่อความมั่นคง
ขณะที่สัญญาณปฏิบัติการจับ ธัมมชโย จากบุคคลสำคัญชัดเจนมากขึ้น ทั้งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) โดยต่างพูดเข้มเป็นเสียงเดียวกันว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมายอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันโดยต้องไม่ปล่อยให้มีใครทำตัวเหนือกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ย้ำอย่างจริงจังว่าต้องจับตัว ธัมมชโย ให้ได้เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ย้ำชัดเจนว่า หากจับกุมตัวธัมมชโย ได้จะไม่ให้ประกันตัวอย่างแน่นอนเพราะได้ให้โอกาสแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ติดต่อขอมอบตัว
นั่นหมายความว่า หากจับ ธัมมชโย ได้ต้องถูกจับสึกอย่างเดียวเพราะกฎหมายห้ามคุมตัวพระเข้าห้องขังนอกจากจับสึกก่อน
สำหรับแผนปฏิบัติการบุกสำนักจานบินเพื่อจับกุม ธัมมชโย นั้นฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังพระชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งตัวแทนจากพศ. เพื่อให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการบุกตรวจค้นและจับ ธัมมชโย ด้วย โดยด้านหนึ่งเพื่อความโปร่งใสและอีกด้านหนึ่งการมีพระนำขบวนเจ้าหน้าที่เป็นการป้องกันไม่ให้เหล่าสาวกสำนักจานบินขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันสื่อจากทุกสำนักควรจะได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานสังเกตการณ์ปฏิบัติการบุกจับ ธัมมชโย อย่างเปิดเผยทุกขั้นตอน เพื่อที่จะพิสูจน์ให้เห็นกันชัดๆ ว่าใครที่ตรงไปตรงมาและใครที่มีเบื้องหน้า
เบื้องหลังพยายามหลีกเลี่ยงหนีโทษความผิดไม่กล้าพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้แผนปฏิบัติการพร้อมแล้วเพียงรอวันดีเดย์เท่านั้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งดีเอสไอ สตช. และฝ่ายอัยการจะมีการประชุมซักซ้อมแผนปฏิบัติการครั้งสุดท้ายเพื่อความรอบคอบในวันที่ 9 ธ.ค.ก่อนลงมือปฏิบัติการซึ่งเบื้องต้นมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ไว้ 7 กองร้อย โดยจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการปะทะให้มากที่สุด
จากสัญญาณทั้งหมดข้างต้นเชื่อว่าจากนี้ไปจะเป็นการนับถอยหลังไปสู่การบังคับใช้กฎหมายเพื่อสลายความเป็นรัฐอิสระของสำนักจานบินและคุมตัวธัมมชโยมารับโทษตามกบิลเมือง เพราะปัญหายิ่งยืดเยื้อก็ยิ่งสับสนบานปลาย
ทีมข่าวการเมือง