แกนนำแก๊งทำลายชาติต้านพรบ.คอมพ์ ถ้ากล้าบริสุทธิ์ใจอย่าหดหัวหุบหางลอบกัด

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/249698

news_default

วันพฤหัสบดี ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

การเคลื่อนไหวของกลุ่มแฮกเกอร์เครือข่ายพลเมืองชาวเน็ตต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่นับวันจะเหิมเกริมทำตัวเป็นขบวนการบ่อนทำลายชาติด้วยการใช้ความเสียหายของชาติและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันในการเรียกร้อง และเลวร้ายหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดประกาศจะยกระดับการเคลื่อนไหวทำให้ระบบการจ่ายเงินผ่านอินเตอร์เนต รวมทั้งระบบดิจิทัลทั้งประเทศพังทั้งระบบ

ย้อนกลับไปทบทวนท่าทีของเครือข่ายแฮกเกอร์กลุ่มนี้จะเห็นถึงธาตุแท้ตัวตนความชั่วร้าย แก๊งอุบาทว์พวกนี้โดยเฉพาะตัวการสำคัญที่ปลุกปั่นอยู่หลังฉากแผนสุมไฟทำลายชาติโดยแถลงการณ์สุดอหังการของเครือข่ายพลเมืองชาวเน็ตต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์มีใจความว่า “หากรัฐบาลยังไม่มีท่าทีผ่อนปรนที่จะชะลอกระบวนการและขั้นตอนกฎหมายดังกล่าวออกไป กลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิ้ลเกตเวย์จะขอยกระดับโจมตีในไซเบอร์วอร์ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.นี้เป็นต้นไปขอให้ทุกฝ่ายทราบและเตรียมการลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและธุรกรรมต่างๆไว้ล่วงหน้า นี่คือสงครามไซเบอร์ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการสูญเสีย เสียหาย”

นี่มันกลุ่มก่อการร้ายทางไซเบอร์โดยใช้ความพินาศของชาติและประชาชนเป็นตัวประกันชัดๆ และจากนี้ไปยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจากฝีมือชั่วร้ายของขบวนการอุบาทว์ที่อ้างเสรีภาพอย่างไร้ความรับผิดชอบบังหน้าพวกนี้

พฤติการณ์ชั่วร้ายอย่างนี้นี่แหละเป็นการฟ้องและตอกย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องมี พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่

ที่ผ่านมาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าคนไทยใช้เสรีภาพทางโซเชียลมีเดียอย่างไร้ความรับผิดชอบมีการเผยแพร่ข้อความบิดเบือนใส่ร้ายโจมตีกันอย่างเลอะเทอะสร้างความระส่ำระสายและความแตกแยกในชาติ และเผยแพร่ภาพและข้อความอันเป็นการบ่อนทำลายศีลธรรมอันดี และที่สุดเลวร้ายก็คือบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงกันอย่างเอิกเกริกเหิมเกริมโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ซึ่งก็ไม่เห็นเครือข่ายพลเมืองชาวเน็ตจะแสดงความรับผิดชอบออกมาเคลื่อนไหวช่วยแก้ปัญหาแต่อย่างใด หรือว่าคนในเครือข่ายพลเมืองชาวเน็ตบางคนบางกลุ่มก็คือพวกที่โพสต์ข้อความอันเป็นการบ่อนทำลายชาติและสถาบันเบื้องสูงตลอดช่วงที่ผ่านมา

การที่บ้านเมืองมีปัญหาในทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะประชาชนผู้เสพสื่อโซเชียลมีเดียขาดสติไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่าอะไรผิดถูกชั่วดี จึงตกเป็นเหยื่อถูกคนบางกลุ่มจูงจมูกสนตะพายใช้เป็นเครื่องมือเคลื่อนไหวป่วนเมือง

ก่อนหน้านี้ตัวแทนรัฐบาลและกองทัพต่างออกมาชี้แจงยืนยันจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบซิงเกิ้ลเกตเวย์ที่เกรงกันว่าจะละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน แต่เป็นเพียงแก้ไขกฎหมายเดิมให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วรวมทั้งสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่เป็นปกติมีการอาศัยโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือบ่อนทำลายสร้างความระส่ำระสายในบ้านเมืองรวมทั้งเป็นช่องทางก่ออาชญากรรม จึงต้องมีคณะกรรมการชุดหนึ่งคอยทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองลงโทษผู้ที่เข้าข่ายกระทำผิด และที่สำคัญบทสรุปขั้นตอนสุดท้ายต้องส่งเรื่องให้ศาลเป็นผู้พิจารณาความถูกผิด

ความจริงแล้ว พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของไทยยังเบากว่าประเทศที่เจริญแล้วในอีกหลายประเทศด้วยซ้ำ โดยบางประเทศให้พนักงานรัฐใช้อำนาจได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่ต้องนำเรื่องยื่นฟ้องต่อศาล

การที่คนไทยใช้เสรีภาพเกินขอบเขตอย่างไร้ความรับผิดชอบจนเคยตัวทำให้ต้องมี พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษทางคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่ออกมาป้องปราม

การที่เครือข่ายพลเมืองชาวเน็ตไม่ยอมรับฟังเหตุผลยืนกรานกระต่ายขาเดียวด้วยการพยายามปลุกปั่นให้เกิดกระแสล้ม พ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฉบับใหม่จึงไร้ความชอบธรรมทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงท่าทีแข็งกร้าวขอให้ประชาชนอย่าไปให้ราคาขบวนการอุบาทว์ที่เคลื่อนไหวบ่อนทำลายชาติโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดกับส่วนรวมและประชาชนกลุ่มนี้

ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) สั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ปอท.)ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต้านพ.ร.บ.ว่าด้วยบทลงโทษเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งสืบสวนหาตัวผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังการปลุกปั่นบ่อนทำลายชาติมาลงโทษตามกฎหมาย ขณะที่กองทัพก็กำลังตรวจสอบเชิงลึกเบื้องหลังการเคลื่อนไหวของขบวนการอุบาทว์ที่เข้าข่ายบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

เพราะฉะนั้นตัวการสำคัญที่เป็นแกนนำเครือข่ายพลเมืองเน็ตหากมีความกล้าหาญและบริสุทธิ์ใจจริงไม่ควรหดหัวหุบหางอยู่ในกระดองเต่าด้วยการใช้ความเสียหายของประเทศและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเคลื่อนไหวแบบลอบกัดบ่อนทำลายชาติ แต่ควรเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะออกมาเคลื่อนไหวอย่างสง่าผ่าเผยถึงจะได้ชื่อว่าบริสุทธิ์ใจไม่มีวาระแอบแฝง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment