ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/250158

วันจันทร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 02.00 น.
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มแฮกเกอร์ป่วนเมืองเพื่อต้าน พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มาแล้วนับว่าไม่ธรรมดาและส่อเจตนาชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเจตนาที่แท้จริงไม่ได้มุ่งต้านเนื้อหาของ พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ แต่มีเป้าหมายใหญ่ทางการเมืองแอบแฝง โดยจ้องล้มอำนาจรัฐ
ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าผู้มีผู้แชร์สนับสนุนร่วมต้าน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฉบับใหม่กว่า 3 แสนรายชื่อนั้น ต้องแยกแยะรายละเอียดให้ชัดเจนเพราะผู้ที่ร่วมแชร์นั้นมีระดับของเจตนาที่แตกต่างๆ กันหลายกลุ่มและเชื่อว่าบางคนถูกแอบอ้างชื่อเพื่อจุดกระแส
ทั้งหากวิเคราะห์ผู้ที่ออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่พอจะแยกแยะได้ดังนี้คือ กลุ่มแรก เป็นพวกที่แสดงออกอย่างบริสุทธิ์ใจ และหลงเชื่อการปลุกระดมบิดเบือนของขบวนการที่ไม่หวังดีที่อ้างว่า พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่เปิดทางให้รัฐใช้ระบบซิงเกิลเกตเวย์อันเป็นการจำกัดเสรีภาพความเป็นส่วนตัว
กลุ่มที่สอง เป็นพวกที่เฮโลร่วมต้าน พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ตามกระแสแฟชั่น ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่เคยศึกษาหรืออ่านร่าง พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ แม้แต่ตัวเดียวด้วยซ้ำ แต่ร่วมต่อต้านเพราะฟังเขาว่ามาทางโซเชียลมีเดียว
กลุ่มที่สาม เป็นพวกเสรีนิยมสุดโต่ง ซึ่งบางคนรู้เนื้อหาของกฎหมายเป็นอย่างดีหรือบางคนศึกษาข้อมูลร่าง พ.ร.บ.ตามสื่อช่องทางต่างๆ โดยรับรู้ข้อมูลในระดับหนึ่งซึ่งอาจยังไม่รอบด้านแล้วทึกทักด้วยอคติว่าเป็นการละเมิดข้อมูลส่วนตัว
ส่วนกลุ่มที่สี่ ที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มพลเมืองต่อต้านซิงเกิลเกตเวย์ หรือพลเมืองชาวเนตเป็นกลุ่มที่สำคัญมากและต้องจับตาดูให้ถ่องแท้ เพราะเป็นขบวนการที่เชื่อว่ามีการวางแผนเดินเกมจ้องป่วนอำนาจรัฐโดยเจตนา และมีเป้าหมายแอบแฝงโดยมีการบงการจากขบวนการเสียประโยชน์ที่จ้องล้มคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. และมีเบาะแสว่ามีกลุ่มแฮกเกอร์จากนอกประเทศที่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจบางประเทศร่วมผสมโรงบ่อนทำลายมุ่งล้มอำนาจรัฐไทย ด้วยสงครามไซเบอร์ โดยมุ่งที่จะทำให้ระบบข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคง ระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศปั่นป่วนหรือล่ม โดยจะมีเครือข่ายแนวร่วมพวกเดียวกันดาหน้าออกมาโหมกระแสเคลื่อนไหวแบบเรียงหน้ากระดาน พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อาจถึงขั้นพยายามทำให้ประเทศกลายเป็นอัมพาตอย่างสิ้นเชิงจากสงครามไซเบอร์
ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า แม้ก่อนหน้านี้ คสช.แกะรอยจนนำไปสู่การคุมตัว 5 แฮกเกอร์ และกำลังจะขยายผลไปสู่ผู้ร่วมขบวนการอีกกว่า 100 คน แต่ข่าวแจ้งว่า แก๊งแฮกเกอร์ที่ถูกควบคุมตัวล้วนเป็นวัยรุ่นที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น ขณะที่ตัวบงการยังลอยนวล
ล่าสุดกลุ่มพลเมืองต้านซิงเกิลเกตเวย์เผยแพร่ความเห็นของ นายนิค เรแกน คนไทยสัญชาติอเมริกันที่มีแนวคิดล้มเจ้าและก่อนหน้านี้เผยแพร่คลิปโจมตีสถาบันเบื้องสูงของไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดย นายนิค เรแกน ผู้นี้เสนอให้จัดหนัก คสช. โดยปลุกระดมว่านอกจากทำสงครามไซเบอร์แล้ว ต้องทำสงครามการเงินด้วยเพระเป็นอาวุธเดียวของประชาชนด้วยการคว่ำบาตรทางการเงิน เลิกใช้บริการสื่อที่สนับสนุนคสช. และคว่ำบาตรทางการเงินด้วยวิธีอื่นๆ
ข้อน่าสังเกตประการหนึ่งก็คือก่อนหน้านี้หลังจากที่ฝ่ายรัฐได้ออกมาแสดงท่าทีที่จะดำเนินการตามกฎหมายกับบรรดาขบวนการแฮกเกอร์บ่อนทำลายประเทศ ปรากฏว่าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์) ซึ่งที่ผ่านมา แสดงบทบาทให้ท้ายระบอบแม้วและมุ่งบ่อนทำลายคสช.มาตลอดออกโรงโจมตีรัฐบาลไทยทันทีว่ากำลังละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีออกพ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ และพยายามดำเนินคดีกับฝ่ายที่ออกมาต่อต้านกฎหมายฉบับนี้
ขณะที่บรรดาแกนนำพรรคเพื่อแม้ว โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว ต่างดาหน้าออกมาให้ความเห็นเชิงให้ท้ายขบวนการต้าน พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่
ข้อน่าสังเกตอีกประการหนึ่งก็คือ ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความเห็นทำนองว่า รัฐบาลควรรับฟังความเห็นของประชาชนที่ออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ ปรากฏว่ามีสมาชิกเครือข่ายต้านซิงเกิลเกตเวย์ออกมาโจมตีนายอภิสิทธิ์ ทันทีว่าฉวยโอกาสโหนกระแส แต่กลับไม่โจมตีบรรดาแกนนำพรรคเพื่อแม้วที่ออกมาเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน
ความจริงแล้วการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพลเมืองต้านซิงเกิลเกตเวย์ ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ โดยนักสังเกตการณ์เชื่อว่า แก๊งป่วนกลุ่มนี้น่าจะมีขบวนการฝ่ายตรงข้ามอำนาจรัฐบงการชักใยอยู่เบื้องหลัง เพราะ พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ หากมีผลบังคับใช้จะทำให้สามารถดำเนินคดีกับบรรดาขบวนการบ่อนทำลายประเทศรวมทั้งขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงซึ่งที่ผ่านมาอาศัยสื่อโซเชียลมีเดียเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริมรุนแรงมากขึ้นทุกขณะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นขบวนการจ้องบ่อนทำลายอำนาจรัฐจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.ฉบับนี้
ขณะเดียวกันก็เป็นการแปรวิกฤติให้เป็นโอกาสจากการที่อำนาจรัฐผลักดัน พ.ร.บ.คอมพ์ฉบับใหม่ โดยสุมไฟจุดกระแสต่อต้านให้ลุกลามบานปลายทั้งในและนอกประเทศด้วยการอ้างเสรีภาพบังหน้า แต่มีเป้าหมายที่แท้จริงคือมุ่งล้มคสช.และรัฐบาล โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าระบอบแม้วซึ่งมีสำนักจานบินซึ่งเป็นพันธมิตรอันแนบแน่นอาจจับมือกันสู้เพราะทั้งระบอบแม้วและสำนักจานบินต่างอยู่ในสภาพลังพิงฝาใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะ อีกทั้งยังมีชาติมหาอำนาจบางประเทศซึ่งเคยให้ท้ายระบอบแม้วมาตลอดคอยให้การสนับสนุนด้วย
ปัญหาที่น่าวิตกก็คืออำนาจรัฐดูเหมือนจะเป็นฝ่ายตั้งรับและยังขาดหน่วยรบพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญด้านสงครามไฟเบอร์เพื่อต่อต้านขบวนการแฮกเกอร์ระดับมือพระกาฬโดยเฉพาะจากนอกประเทศ