กรธ.กำหนดกรอบร่างกติกาใหม่ : สร้างการเมืองน้ำดี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ทีมข่าวการเมือง 17 ต.ค. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/755402


ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า

แม่น้ำ 5 สายและพรรคการเมืองน้อยใหญ่

ร่วมถวายความอาลัย “พ่อหลวงของแผ่นดิน”

ในจังหวะเดียวกันมีการพูดถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่อยู่ในชั้นของรัฐบาลเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ

ตามคำยืนยันของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกเอาไว้แจ่มชัดว่า รัฐบาลยังมีเวลา

ตอนนี้เจ้าหน้าที่สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะทำหน้าที่จุ่มหมึกเขียนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญลงไปในสมุดไทยลงรักปิดทอง

เขียนทั้งสิ้น 3 ฉบับด้วยอักษรอาลักษณ์ที่เป็นลายมือเดียวกันทั้งหมด

เมื่อเขียนเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรีจะนำรัฐธรรมนูญสมุดไทย ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยทั้ง 3 ฉบับ

ก่อนนำรัฐธรรมนูญที่ทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแล้ว ไปประทับตราแผ่นดินของไทย พระราชลัญจกรพระครุฑพ่าห์ เป็นรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับสมบูรณ์

โดยทั้ง 3 ฉบับ จะพระราชทานเก็บไว้ 3 แห่ง ได้แก่ สำนักราชเลขาธิการ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สืบไป

แต่การเขียนลงในสมุดไทยกว่าจะเสร็จและทูลเกล้าฯ ก็ใกล้ๆกับวันที่ 9 พ.ย.59

เมื่อทูลเกล้าฯไปแล้วยังมีเวลาที่จะทรงพิจารณารัฐธรรมนูญอีก 90 วัน

ยืนยันยังเป็นไปตามโรดแม็ป-การเลือกตั้งไม่ล่าช้าแน่

แต่เปรยๆว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประกาศให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน

เวลานี้ปล่อยให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญไปพลางๆ

ขณะนี้กำลังเดินเข้าสู่โหมดร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ซึ่งประเดิมยกร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เสร็จก่อน

เพื่อให้พรรคการเมืองเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้ง และ กกต.มีเวลาเตรียมตัวจัดการเลือกตั้ง

ต่อจากนั้นถึงจะร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)

ซึ่งต้องออกแบบให้สอดคล้องกับบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยมุ่งหมายให้มีการ “ขจัดการทุจริต ประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ”

และทำให้แล้วเสร็จภายใน 280 วันนับตั้งแต่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ ก่อนส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป

กรธ.ไม่รอช้าได้มอบหมายให้ นายศุภชัย ยาวะประภาษ หนึ่งใน กรธ. เป็นประธานคณะอนุกรรมการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแนะประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้งทั้ง 4 ฉบับ

โดยนำข้อเสนอแนะและร่างกฎหมายที่ได้รับจาก กกต.มาพิจารณา

ขณะนี้ร่างกฎหมายพรรคการเมืองเสร็จแล้ว โดยใช้ร่างที่กกต.ส่งมาให้เป็นหลัก มีคอนเซปต์ “ตั้งยาก อยู่ยาก ยุบยาก” หมายถึงจะทำให้การตั้งพรรคการเมืองยากขึ้น การทรงสภาพพรรคการเมืองยาก หากไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งก็ให้สิ้นสภาพทันที

และการยุบพรรคการเมืองยากขึ้น โดยศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งเพิกถอนสิทธิหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคเหลือเพียงกรณีพรรคกระทำการล้มล้าง หรือกระทำการเป็นปฏิปักษ์ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ไม่มีข้อเสนอยุบพรรคการเมืองเหมือนเช่นกฎหมายฉบับที่ผ่านๆมา

การจัดตั้งพรรคการเมืองจะต้องมีคณะผู้ริเริ่ม 15 คน ยื่นขอจัดตั้งพรรคการเมือง ก่อนไปหาสมาชิกจากภาคต่างๆให้ได้อย่างน้อยภาคละ 500 คน ให้ครบ 5,000 คน

จึงครบองค์ประกอบนัดประชุมคัดเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค

ถึงจะจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองและส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้

นี่คือตะกอนที่ กกต.เสนอมาและได้นำความเห็นจากส่วนต่างๆ ทั้งจากการสัมมนารับฟังความเห็น มาวิเคราะห์และกลั่นกรองว่าสิ่งใดเหมาะสมที่จะเขียนลงไปแล้ว

เพื่อให้เป็นพรรคของประชาชน ไม่ใช่พรรคของคนใดคนหนึ่งหรือพรรคของนายทุน

ตอนนี้ส่งข้อเสนอทั้งหมดให้ กรธ.พิจารณาต่อไปแล้ว

ขณะที่ร่างกฎหมาย กกต. ทาง กกต.เสนอเข้ามามีหัวใจสำคัญ จะแก้ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงที่มีความรุนแรงมาโดยตลอด โดยการสืบสวนหรือไต่สวน กกต.สามารถมอบให้ กกต.แต่ละคนหรือมอบหมายให้คณะบุคคลดำเนินการ ภายใต้การกำกับของ กกต.

ถ้าพบการกระทำที่สงสัยว่า การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม กกต.แต่ละคนที่พบการกระทำผิด มีอำนาจสั่งระงับยับยั้งการเลือกตั้ง การลงคะแนนในหน่วยเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งได้

และในช่วงที่มีการเลือกตั้ง กกต.คนใดคนหนึ่งหรือหลายคน มอบหมายให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือผู้สอบบัญชี

ดำเนินการตามที่ได้ร้องขอ เพื่อให้การทำงานของ กกต.เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น

แถมเสนอให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง มีคณะกรรมการบริหารกองทุน มีอำนาจออกระเบียบเกี่ยวกับการรับ-จ่ายเงิน โดยเฉพาะการจ่ายสินบนให้กับผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้ง

มาถึงวันนี้คณะอนุกรรมการศึกษาและจัดทำข้อเสนอฯ กำลังเร่งศึกษาร่างกฎหมาย กกต.ให้เสร็จ ซึ่งมีความคืบหน้าประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ประเด็นหลักจะกำหนดให้ กกต.ทำงานเชิงรุก ลงพื้นที่ตรวจสอบตั้งแต่ต้น และวิธีการได้มา บทบาทอำนาจหน้าที่ของ กกต.จังหวัด เพื่อทำให้ตัดขาดอิทธิพลจากการเมืองท้องถิ่นให้ได้

ในเบื้องต้น กรธ.จะพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ให้เสร็จก่อนเดือน ต.ค.หรือต้นเดือน พ.ย.นี้

เพื่อทยอยส่งให้ สนช.พิจารณาต่อไป

ขณะที่ร่างกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับ คือ ร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. 200 คน และร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.ฉบับ กกต.เสนอเข้ามา ซึ่งคณะอนุกรรมการศึกษาและจัดทำข้อเสนอฯ จะพิจารณาลำดับถัดไป

ร่างกฎหมายการได้มาซึ่ง ส.ว. ยึดหลักการ “ให้เกิดความหลากหลาย ได้คนดี ไม่มีบล็อกโหวต”

กำหนดค่าลงสมัครรับเลือกตั้งเพียงคนละ 500 บาท เพื่อเปิดโอกาสให้คนมีเงินทุนน้อย แต่เป็นคนดีสามารถลงสมัครได้

โดยมาจากการเลือกตั้งกันเองใน 20 กลุ่มอาชีพตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ จะได้เข้ามากลุ่มอาชีพละ 10 คน

แต่บทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดให้วาระเริ่มแรกหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

ให้นำรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.ดังกล่าวเสนอต่อ คสช. เพื่อคัดเลือกผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.ตามกติกาที่รัฐธรรมนูญกำหนด

โดยกลุ่ม ส.ว.ที่ได้มาโดยการเลือกกันเองจะถูกคัดเลือกเหลือ 50 คน รวมกับกลุ่มที่ได้รับการสรรหา 194 คน และเป็นโดยตำแหน่ง 6 คน รวมได้จำนวน ส.ว. 250 คน

ร่างกฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส.จะเป็นฉบับสุดท้ายที่ กรธ.ส่งให้ สนช.พิจารณา โดยมีหลักการสำคัญต้องได้ “ส.ส.มีคุณภาพ”

เพราะได้ออกแบบการกลั่นกรองให้ผู้ที่ต้องการเป็น ส.ส.จริงๆได้ลงสมัคร ไปพร้อมกับปฏิรูปกลไกหาเสียง เพื่อลดต้นทุนการหาเสียงของผู้สมัคร

และผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีตามบัญชีของพรรคการเมือง ต้องดีเบตนโยบายประมาณ 5-6 ครั้ง

ทั้งหมด กรธ.เชื่อว่าเมื่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่

จะสร้างการเมืองน้ำดีและประเทศไทยสงบสุข.

ทีมการเมือง

 

Leave a comment