จังหวะเข้าทาง ‘พี่ใหญ่’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ทีมข่าวการเมือง 12 ต.ค. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/750771


ปากพาพัง คำพูดพาจนแท้ๆ

โดยสถานการณ์ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ล่าสุดการดีเบตรอบที่ 2 ผ่านไป โพลสำรวจความนิยมปรากฏ “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน คะแนนยังไม่ตีตื้น โดน “ฮิลลารี คลินตัน” จากพรรคเดโมแครต ทิ้งห่างเกินกว่าร้อยละ 20

ผลจากโวหาร อวดตัวเองร่ำรวยจะนอนกับสาวคนไหนก็ได้

ปมดูถูกผู้หญิงทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” กระแสกู่ไม่กลับ แม้แต่ฝ่ายเดียวกันยังแสดงอาการรับไม่ได้ รู้สึกอับอาย ถอนการสนับสนุนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันเป็นแถว

แนวโน้มศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯรู้ผลตั้งแต่ยังไม่ถึงวันโหวต

จากอเมริกาวกกลับมาที่เมืองไทย ในบรรยากาศการเมืองร้อนๆ ตามอารมณ์เฮี้ยวๆของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ประกาศไล่ฟ้องดะ

เดินหน้าเอาเรื่องกับ “นักเลงคีย์บอร์ด” ในโลกโซเชียลฯที่วิพากษ์วิจารณ์ บิดเบือนปมร้อนการเช่าเหมาลำเครื่องบินไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนที่ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

เพราะทำไปทำมา ประเด็นไหลไปโฟกัสที่ “ผู้ประกาศสาว”

นั่นก็ทำให้เจ้าตัว “บิ๊กป้อม” ต้องเคลียร์กันเป็นเชิงออกตัวเลยว่า “เรื่องผู้หญิงเหรอ ผมไม่ได้ไปยุ่งกับผู้ชาย มันแปลกเหรอ ก็ผมเป็นโสดจะไปยุ่งกับใครก็ได้ ถ้าผมไปยุ่งกับผู้ชายก็แปลก”

จับอาการผ่านน้ำเสียง ส่อแววท้าแลกหมัด

จากปมงบหลวงไหลลามเข้าประเด็นเรื่องลึกๆลับๆส่วนตัวโดยอัตโนมัติ

มันก็ต้องอึดอัด หงุดหงิดเป็นธรรมดาตามกระแสที่ “พี่ใหญ่” ถูกมองเป็นเหตุฉุดเรตติ้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.

จนต้องเผชิญจุดเสี่ยงภาวะ “ขาลง”

แต่อย่างไรก็ตาม โดยจังหวะสถานการณ์ที่ยังบังเอิญเป็นใจตามสถานะของรองนายกฯและ รมว.กลาโหม เบอร์หนึ่งด้านความมั่นคงของรัฐบาล คสช.

ล่าสุดมันก็มีเหตุให้ “บิ๊กป้อม” ได้โชว์ผลงาน “ปั่นแต้ม” คืน

ตามปรากฏการณ์แหลมๆเสียวๆที่มี “ข่าวกรอง” หลุดออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังการก่อวินาศกรรมและลอบวางระเบิดในพื้นที่เชิงสัญลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล

อาจมีเหตุ “คาร์บอมบ์” กลางเมือง

จากสายข่าวแจ้งว่ากลุ่มคนร้ายที่โยงกับขบวนการก่อเหตุป่วน 7 จังหวัดภาคใต้ จะนำรถจากภาคใต้มาก่อเหตุในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงระหว่างวันที่ 25–30 ตุลาคม 2559 นี้

กลายเป็นพาดหัวข่าวใหญ่ระทึกขวัญกันทั้งเมือง

โดยสถานการณ์ต่อเนื่อง ตามฉากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 4 ผสานกำลังสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 อรินทราช กว่าร้อยนาย บุกจู่โจมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอพาร์ตเมนต์ซอยรามคำแหง 53 รวบผู้ต้องสงสัยได้นับ 10 ราย นำตัวสอบขยายผล

ตอกย้ำ “ของจริง” ไม่ใช่แค่ข่าวโคมลอยให้ผู้คนแตกตื่น

และก่อนอื่นเลย ตามสถานการณ์ฉุกละหุกที่บรรดาผู้นำประเทศต่างๆที่เข้าร่วมประชุมเอซีดีซัมมิตครั้งที่ 2 ต้องเปลี่ยนโปรแกรมกะทันหัน รีบเดินทางกลับทันทีหลังประชุมเสร็จ

เพราะแหยงเหตุวินาศกรรม เสียว “ข่าวกรอง” คาร์บอมบ์

ซึ่งนั่นก็ค่อนข้างจะหักมุมกับช็อตที่ “เจนเนอรัลประยุทธ์” ผู้นำรัฐบาล คสช. เพิ่งโชว์วิชั่นวางแปลนเมืองไทยในอนาคต พร้อมให้ประเทศเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาคเอเชีย

ฉากหรูๆงานอินเตอร์ที่สร้างมา 2-3 วัน เจอข่าววินาศกรรมกลืนไปเลย

แต่อย่างว่า ในวิกฤติมันก็เป็นโอกาสของ “บิ๊กป้อม” ที่จะได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการคุมเกมความมั่นคง นำทีมทหาร ตำรวจคุ้มกันความปลอดภัยให้ชาวบ้านได้อุ่นอกอุ่นใจ

ตอกย้ำ “จุดขาย” ของรัฐบาลทหาร คสช.

โชว์ให้เห็นข้อดีของ “พี่ใหญ่” ไม่ใช่แค่ตัวถ่วง “ลุงตู่”.

ทีมข่าวการเมือง

 

Leave a comment