ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 11 ต.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/749612
ตามแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 37
ในบรรยากาศ “ห้วงเวลาพิเศษ” ที่ทุกภาคส่วนร่วมจิตอธิษฐาน สวดมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน
เป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยไปอีกตราบนานเท่านาน
สถานการณ์อยู่ในช่วงที่ประชาชนเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิด เพราะพ่อของแผ่นดินคือชีวิตจิตใจของคนไทยทุกคน
ตัดฉากไปที่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ไฮไลต์ก็ยังอยู่ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ล่าสุดได้ขึ้นแท่นเป็นประธานเปิดการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือการประชุมเอซีดีซัมมิต ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
โดยมีประมุขแห่งรัฐ ผู้นำ และผู้แทนระดับสูงจาก 34 ประเทศสมาชิก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมโปรแกรมสำคัญ ถือเป็นงานใหญ่ระดับนานาชาติ
ตามฉากที่ผู้นำไทยประกาศพร้อมเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงภูมิภาค วาดภาพเมืองไทยในอนาคตที่จะพัฒนาความเจริญไปควบคู่กับภูมิภาคเอเชีย
โชว์วิสัยทัศน์ มีทั้งการเสนอให้มีการดึงทุนจากภาคเอกชนมาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในภูมิภาค การใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเข้าถึงทางการเงิน ตั้งชุมชน “ฟินเทค” ให้เมืองไทยเป็นสังคมไร้เงินสดในอนาคต ฯลฯ
ดันยุทธศาสตร์ล้อตามแผนการคุมอำนาจช่วงเปลี่ยนผ่านไปอีก 5 ปีถึง 8 ปี
เรื่องของเรื่อง เป็นจังหวะที่สปอตไลต์ฉายส่อง “เจนเนอรัลประยุทธ์” ผู้นำรัฐบาลทหารของไทย นั่นเท่ากับยกระดับการยอมรับในเวทีโลกขึ้นไปอีกมิติหนึ่ง
ซึ่งก็ช่วยผ่อนแรงเสียดทานภายนอกประเทศให้ลดโทนลงไป
แต่นั่นก็เป็นอะไรที่สวนทางกับแรงกระเพื่อมภายในที่อุณหภูมิชักจะระอุขึ้นเป็นลำดับ
สดๆร้อนๆตามการขยับของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ไปเปิดเวทีปราศรัยย่อยๆกับกองเชียร์คนไทยที่ประเทศสหรัฐฯ ตั้งใจฟาดหางมาถึงหูฝ่ายคุมเกมอำนาจที่เมืองไทย
เย้ยรัฐบาลทหารแก้ปัญหาแบบวัวพันหลัก
อาการกลัวผีทักษิณขึ้นสมอง ทำให้ความปรองดองยังไม่เกิดขึ้น
และล่าสุดก็มีภาพที่อดีตนายกฯทักษิณไปเดตกับสาวๆ
นับสิบให้ฮือฮา พร้อมเฉลยว่าเป็นเพื่อนสาวๆของ “อุ๊งอิ๊ง”
แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว พาไปกินข้าวกับพ่อ
ยี่ห้อ “ทักษิณ” ขยับแต่ละทียังเป็นไฮไลต์
กระตุกหน่วยเฝ้าระแวงในเมืองไทยให้เต้นตามได้ทุกจังหวะ ตามสถานการณ์คดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่คืบหน้ามาถึงคิวสืบพยานนัดท้ายๆ คาดวันตัดสินจะอยู่ช่วงปลายปีนี้
ชะตากรรมเสียวๆของ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระทึกเข้ามาทุกขณะ
อยู่ในระยะที่ต้องจับตา ยุทธการท้าวัดดวงสู้ตาย
ยิ่งเป็นอะไรที่ฝ่ายคุมเกมอำนาจเองก็พลาด “เปิดคาง” ให้ทุบจุดสลบ
จากกระแสคนรอบข้างผู้นำ “สอบตก” จริยธรรม ทั้งปมของ “พี่ใหญ่” เหมาเครื่องบินไปประชุมที่ฮาวาย เป็นความควายที่เข้ามาแทรกความวัวยังไม่ทันหาย ซ้ำกรณีครอบครัวของ “น้องชาย” ผู้นำส่อพฤติกรรมผลประโยชน์ทับซ้อน ล่อแหลมกับงบประมาณหลวง
ทั้งน้องทั้งพี่ ฉุดเอวให้ “นายกฯลุงตู่” พลิกมาอยู่ในจุดเสี่ยงภาวะ “ขาลง”
ในอารมณ์แบบที่สังเกตได้ ถึงตรงนี้พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ชักจะกล้าส่งเสียงโห่ แสดงอาการไม่ยอมรับโผสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ตั้งเพิ่มเข้ามาใหม่ จำนวน 33 คน
ล้วนแต่ “นายพลท็อปบูต” จนถูกเรียกเป็น “ฝักถั่ว” สีเขียว
ซึ่งอันที่เลยก็ถือเป็นฟอร์มปกติในยุครัฐบาลทหารถืออำนาจพิเศษ อย่างที่เห็น สนช.ชุดแรกๆก็แทบจะเกณฑ์มาจากค่ายทหาร นับหัวแล้วมากกว่านี้ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนั้น นักการเมืองพากันอมพะนำ แหยงดาบอำนาจพิเศษ
ผิดกับวันนี้ที่ดาบชักจะไม่ขลัง นักเลือกตั้งชักจะกล้าลองของ.
ทีมข่าวการเมือง
