ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 20 ต.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/759046
ประเมินจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้าคสช.ออกมาระบุภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพ
โดยยืนยันเรื่องการสืบราชสันตติวงศ์ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาล และจารีตประเพณี ขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว เมื่อพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลผ่านพ้นช่วงเวลา 7 วัน 15 วัน ไประยะหนึ่ง
น่าจะได้เวลาอันสมควรที่จะดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 23 ต่อไป คือรัฐบาลจะนำเรื่องแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อมีมติตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่จะทรงลงพระปรมาภิไธยภายในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ จะไม่กระทบกับปฏิทินการทำงาน
ขณะที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ก็ยืนยัน ถ้า ครม.มีมติมาเมื่อใด สนช.ก็จะต้องมีการดำเนินการประชุมโดยรีบด่วน
สนช.ได้มีการเตรียมพร้อมตลอดทุกวัน แม้กระทั่งในวันนี้พรุ่งนี้
ซึ่งอย่าลืมว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดถึงนั้นก็โยงไปถึงพระราชบัณฑูรของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารด้วย ดังนั้นต้องมีความสัมพันธ์กัน
และล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายธานินทร์ กรัย-วิเชียร องคมนตรี จะทำหน้าที่เป็นประธานองคมนตรี เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
หลังจากที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ต้องทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตามมาตรา 24 เมื่อประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะต้องไม่ปฏิบัติหน้าที่ประธานองคมนตรี โดยตามมาตรา 25 ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีมาเป็นประธาน และคณะได้เลือกนายธานินทร์ ให้ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
ซึ่งเมื่อพลเอกเปรมพ้นจากตำแหน่งผู้สำเร็จราชการฯ ก็จะกลับสู่ตำแหน่งประธานองคมนตรีโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องมีการโปรดเกล้าฯ
ในกระแสเร้าความรู้สึกแบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องชี้แจง ปฏิเสธรัฐบาลไม่เคยมีคำสั่งให้ถอดพระบรมฉายาลักษณ์ออกจากสถานที่ใดๆ อาจมีคนเข้าใจผิด และได้มีการสั่งการไปแล้วให้แก้ไขโดยเร็ว จะต้องไม่มีกรอบพระบรมฉายาลักษณ์ที่ว่างโดยเด็ดขาด
เข้าใจได้ในวิถีธรรมชาติของอารมณ์แบบไทยๆ
แต่ทุกอย่างก็ต้องเดินหน้าตามขั้นตอนกระบวนการ ประเทศหยุดไม่ได้
โดยเฉพาะโรดแม็ปของ คสช.ที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศเป็นพันธสัญญาไว้ให้เป็นที่เข้าใจตรงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ถือเป็นเงื่อนไขจำเป็นต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเมืองของไทย
ในมุมที่นักลงทุนจะยึดถือ “ความชัดเจน” เป็นหลัก
และที่พักไม่ได้เลยก็คือการบริหารของรัฐบาล ในการแก้ไขสถานการณ์ความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะกับปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้
น้ำท่วมจ่อมาถึงกรุงเทพมหานคร
นั่นก็น่าจะเป็นปัจจัยเหตุหลักที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม.
เพราะปัญหาเกิดจากการที่ กทม.ขาดหัว ไม่มีตัวจริงในการสั่งการ
ทำให้เกิดช่องว่างในการใช้อำนาจบริหาร โดยเฉพาะในด้านการใช้งบประมาณ ไม่ทันต่อการแก้ปัญหาที่กองอยู่เต็มไปหมด
แถมยังมีข่าววงใน การขัดแย้งกันเองในหมู่รองผู้ว่าฯ กทม.
โดยสภาพของทีมงานเสาชิงช้า ไม่พร้อมกับภารกิจใหญ่หลวงในการเตรียมการพระราชพิธี การดูแลประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ
พล.อ.ประยุทธ์เลยต้องเลือกคนที่ตรงกับสถานการณ์ที่สุด
ในฐานะ พล.ต.อ.อัศวินเป็นข้าราชการเก่าด้วยกัน และภาพห่างจากค่ายการเมืองมากกว่าใคร
ท่ามกลางเสียงทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยกับนักวิชาการมองว่าไม่เหมาะสม เพราะเป็นทีมงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่โดนปลดไป
แต่ก็เป็นอะไรที่โวยวายกันพอเป็นพิธี
เพราะบรรยากาศแบบนี้ ต้องตัดมุมการเมืองออกไปให้เหลือน้อยที่สุด.
ทีมข่าวการเมือง
