เดินหน้าตามธรรมชาติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ทีมข่าวการเมือง 19 ต.ค. 2559 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/757976


มาตรการทางสังคมรุนแรงกว่ามาตรการทางกฎหมาย

ยึดเอาตามที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ระบุถึงการจัดการกับบุคคลที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ก่อผลกระทบต่อจิตใจของประชาชนไทยในห้วงเวลาแห่งความเศร้าโศกเสียใจ บรรยากาศอาลัยองค์พ่อของแผ่นดิน

นี่น่าจะเป็นวิธีจัดการกับพวก “สุดโต่ง” ทุกขั้วทุกข้างได้ผลดีสุด

ดีกว่าไปเต้นตาม กลายเป็นยิ่งขยายความขยายผลวุ่นวาย “เข้าทาง” พวกมีวาระแฝง

เพราะสุดท้ายเลย พวกไม่รู้กาลเทศะไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็หนีไม่พ้นเจอแรงกดดันจากสังคม

อารมณ์คนไทยรับไม่ได้อยู่แล้ว

ตามแนวโน้มสถานการณ์ก็อย่างที่เห็นๆ บรรดานักการเมือง หรือแม้แต่แกนนำขั้วขัดแย้ง ทุกสีทุกกลุ่ม ต่างอยู่ในโหมดของการสงบนิ่ง

อยู่ในอารมณ์ของการไว้อาลัย

งดให้ความเห็นทางการเมือง ไม่พูดเรื่องที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง

ต่างฝ่ายต่างรู้กาลเทศะ

แต่ในขณะที่ทุกอย่างก็ยังเดินหน้าต่อไป ไม่ได้หยุดนิ่งตามบรรยากาศแห่งความสูญเสีย

อย่างที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายรัฐบาล ออกมายืนยัน โรดแม็ปของรัฐบาลยังเหมือนเดิม การดำเนินทุกอย่างเป็นไปตามที่รัฐบาลได้แจ้งเอาไว้

รวมถึงกำหนดการเลือกตั้ง ตราบใดที่ยังไม่พูดเป็นอย่างอื่น ก็ไม่มีอะไรต้องเป็นอย่างอื่น

โดยรัฐบาลได้นำร่างรัฐธรรมนูญมาเขียนไว้ในสมุดไทย ซึ่งมีเวลาถึงวันที่ 9 พฤศจิกายน แต่น่าจะเสร็จประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน ส่วนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ สำนักราชเลขาธิการจะนำไปดำเนินการต่อ โดยขั้นตอนลงพระปรมาภิไธยจะมีเวลา 90 วัน เสร็จประมาณปลายเดือนมกราคม 2560 จะช้าหรือเร็วก็ได้

แต่หากจะช้าไปก็ไม่มีเหตุผลให้กังวล

แน่นอน การส่งคนระดับเบอร์ต้นๆของรัฐบาลอย่างนายวิษณุออกมาเคลียร์สถานการณ์เอง นั่นย่อมแสดงว่า รัฐบาลหวังผลให้เกิดความเชื่อมั่น

ทำให้เกิดความชัดเจนในห้วงบรรยากาศอึมครึม

และตามรูปการณ์ก็ทันทีทันควัน สื่อระดับโลกอย่างสำนักข่าวรอยเตอร์ได้อ้างการรายงานตามสื่อไทย รัฐบาล คสช.ยึดมั่นในพันธกิจที่จะดำเนินการตามโรดแม็ปเพื่อจัดการเลือกตั้งตามที่กำหนดไว้คือในปลายปีหน้า

เป็นอันว่า รับรู้ตรงกันทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยความสำคัญของความชัดเจนในเมืองไทย มันมีผลต่อสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่ผูกโยงอยู่กับเงื่อนสถานการณ์ทางการเมือง

ตามท้องเรื่องที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศกำลังประเมินปัจจัยเสี่ยง ห้วงเวลาพิเศษของเมืองไทยจะส่งผลให้ต้องยืดเวลา ปรับโรดแม็ปกันใหม่หรือไม่

และนั่นก็ต่อเนื่องไปถึงการตัดสินใจลงทุน

รัฐบาลลุ้นประคองภาวะเศรษฐกิจไม่ให้สะดุด หลังประคองตลาดหุ้นผ่านจุดเสี่ยงมาได้

ในสถานการณ์แบบที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุเลยว่า กระทรวงการคลังกำลังติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศเศร้าโศก ที่อาจทำให้ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ได้รับผลกระทบในช่วงสั้นๆ

จากกลุ่มธุรกิจบริการ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจบันเทิง เพราะหลายหน่วยงานอาจเลิกหรือเลื่อนการจัดงานเลี้ยงต่างๆออกไป

โดยเตรียมหามาตรการพิเศษบางอย่างเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ได้ตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ดี ว่ากันตามรูปการณ์ที่ภาคธุรกิจเอกชนหรือประชาชนทั่วไปที่พร้อมใจกันควักทุนส่วนตัว จัดหาอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งของอุปโภคบริโภค จัดซื้อเสื้อดำ หรือเปิดรับย้อมเสื้อสีดำ ไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

พลัง “จิตอาสา” ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศได้แบบอัตโนมัติ

อย่างน้อยก็ช่วยไม่ให้ติดขัดหรือเศรษฐกิจหยุดนิ่ง

นับเป็นสิ่งอัศจรรย์แบบไทยๆที่จุดติดขัดไหลไปเองตามธรรมชาติ

จะมีเซอร์ไพรส์หน่อยก็คิวล่าสุดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้ง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แทน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่โดนสั่งให้พักงาน

แต่ตามรูปการณ์เบื้องต้น ไม่น่าจะมีเหตุผลสำคัญไปกว่าการวางตัว “แม่งาน” ในส่วนของ กทม. ที่มีความสำคัญต่อการจัดเตรียมการพระราชพิธีใหญ่

ต้องตั้ง “พ่อเมืองกรุงเทพฯ” ตัวจริงเพื่อความชัดเจน.

ทีมข่าวการเมือง

 

Leave a comment