ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 27 ต.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/765486
ล่าสุดที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐประจำปีงบประมาณ 2560
“อัดฉีด” เงินอุดหนุนทั่วไปแก่หมู่บ้าน 74,000 กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศ หมู่บ้านละ 250,000 บาท เป็นวงเงินงบประมาณกว่า 18,600 ล้านบาท
ตามยุทธศาสตร์กระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ
ในสถานการณ์แบบที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุกระทรวงการคลังจะเฝ้าติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด
และพร้อมที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังและการเงินเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น
แต่ทั้งนี้ยังมั่นใจแรงส่งทางเศรษฐกิจยังมีมากพอจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป และรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้
สรุปว่า “อ่อนไหว” แต่ยังไม่ถึงขั้นน่ากังวล
ภาวการณ์ทางเศรษฐกิจยังพอประคองตัวได้ ไม่ถึงขั้นซีเรียส แต่ที่ต้องจับตาก็คือเงื่อนสถานการณ์การเมืองที่แฝงดีกรีความตึงเครียด
โฟกัสไปที่ “ปฏิกิริยา” ภายหลังจากอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับเอกสารคำสั่งทางปกครอง “เช็กบิล” ค่าเสียหายในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท
เจ้าตัวยืนยันจะแถลงถึงความไม่เป็นธรรม แต่รอให้ผ่านห้วงเวลาแห่งความเศร้าโศกไปก่อน
แล้วก็เจอย้อนศรจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ไล่ให้ไปอุทธรณ์ เอาหลักฐานไปพิสูจน์กันในศาล
แทนการพูดจาตอบโต้ ปลุกกระแสภายนอก
เริ่มเปิดเกมซัดกันนิ่มๆ แต่แรงลึกจนน้ำกระฉอก อย่างที่ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ในฐานะ “หลานอาปู” โพสต์โซเชียลมีเดีย เป็นเชิงกระแทกแดกดันกันลอยๆ
ต้องทำมาหากินหยอดกระปุกไว้ก่อน ไม่รู้จะโดนปล้นเมื่อไหร่
ตระกูลชินฯตั้งท่า ปักหลักสู้ขบวนการยึดทรัพย์ เคลียร์บิลโครงการจำนำข้าว
ล้อไปตามกระแสประชาชนบางส่วนที่แสดงความจำนงร่วมแบ่งปันความทุกข์กับอดีตนายกฯหญิง เพราะเป็นฝ่ายโดนกระทำอย่างไม่เป็นธรรม เป็นแค่เหยื่อของความขัดแย้ง
สุมดีกรีร้อนแรง ซ่อนอยู่ภายใต้บรรยากาศห้วงเวลาพิเศษ
รอคิววัดดวง ได้ลุ้นวัดใจ จะเล่นกันหนักถึงขั้นไหน
ในจังหวะที่อีกด้านหนึ่ง กระบวนการร่างกฎหมายลูก ก็คืบหน้าถึงคิวการพิจารณา พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง ตามรูปการณ์ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ แพลมไต๋แค่ว่า
ยังไม่คิดรีเซ็ตพรรคการเมืองใหม่ทั้งหมด
แต่เน้นไปที่การคุมเข้มคุณสมบัติของผู้บริหารพรรคการเมือง เบื้องต้น ต้องมีคุณสมบัติสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม
ย้ำเลยว่า ต้อง “คลีน” หรือสะอาดพอสมควร
แน่นอนตามกระบวนการกรอง “นักเลือกตั้งอาชีพ” ที่จะถูกออกแบบโดยทีมงาน “ซือแป๋มีชัย” มันก็เป็นอะไรที่ชัดในเบื้องต้นพวกที่มีคดีทุจริตคอร์รัปชัน คดีทุจริตเลือกตั้ง
เลิกหวังได้เลยที่จะกลับมาลงสนามการเมือง
ยังไม่นับเงื่อนไขในการ “ยุบพรรค” ที่จะมีการโยงฐานความผิดไปครอบคลุมถึงเรื่องการ “บงการ” พรรคที่เป็นความผิดเฉพาะตัว แต่ลามไปถึงความผิดของผู้บริหารพรรคได้ด้วย หากผู้บริหารพรรคการเมืองทำตามคำบงการนั้น
เรียกว่า ป้องกันพรรคการเมืองเป็น “บริษัทจำกัด” โดยเฉพาะ
ขณะที่นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ระบุคณะอนุกรรมการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยการจัดตั้งและจดทะเบียนพรรคการเมือง แค่มีสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 500 คน และมีสัดส่วนกระจายตัวในทุกภูมิภาค ก็ยื่นตั้งพรรคต่อ กกต.ได้ทันที
แนวโน้มเปิดทางป้อมค่ายการเมืองใหม่เกิดได้ง่ายๆ
ตรงกันข้ามกับอาการของค่ายการเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยชนักปักหลัง ตามข่าวความเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่สายเหนือ และทีมงานของ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง
มุ่งหน้าไปพบอดีตนายกฯทักษิณที่เมืองดูไบ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามสัญญาณการประเมินจาก “นายใหญ่” วิเคราะห์การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเร็ว และมั่นใจพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง แต่ไม่ชัวร์จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ต้องเตรียมแผน 2 แผน 3 เผื่อพรรคอะไหล่ ค่ายสำรอง
เพราะรู้ดีว่าหนทางข้างหน้า ต้องเจอกับตะปูเรือใบดักเต็มไปหมด.
ทีมข่าวการเมือง
