ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ทีมข่าวการเมือง 29 ต.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/767546
ในปรากฏการณ์คนไทยจำนวนมากจากทั่วสารทิศหลั่งไหลไปลงนามแสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ช่วงหลายวันที่ผ่านมาอย่างมิขาดสาย
ยังไม่นับรวมกับจำนวนชาวไทยทั่วประเทศ ที่ไม่สามารถประเมินจำนวนได้ ตั้งตารอวันเวลาเข้าไปกราบสักการะพระบรมศพพ่อหลวงของแผ่นดิน
ตามที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าไปสักการะได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยยังไม่กำหนดวันสิ้นสุด
ให้พสกนิกรทั่วหล้าร่วมอาลัยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ขณะที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แต่งเพลง “ความหวังความศรัทธา” เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนให้ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมุ่งสู่จุดหมายเดียวกันคือ “สร้างชาติไทย”
“บิ๊กตู่” ยังคงให้คำมั่นทุกอย่างต้องเดินหน้าตามโรดแม็ป
จากการตอกย้ำคำยืนยันต่อหน้า นายเซนอน คุคชัค เอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทยที่เข้าพบในโอกาสอำลาตำแหน่งว่า รัฐบาลกำลังเดินหน้าตามโรดแม็ปในการกลับสู่สนามประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง
สอดรับคำพูดของ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันว่า ประตูสู่การเลือกตั้งปลายปี 2560 ยังคงเป็นไปตามเดิม ไม่มีการขยับหรือมีอันต้องเลื่อนออกไปแต่อย่างไร
สองคีย์แมนรัฐบาลการันตีสร้างความมั่นใจต่อเวทีโลก ช่วยประคองโรดแม็ปให้นิ่งที่สุด
ตามจังหวะที่ “ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับผ่านประชามติ” เตรียมขยับเดินหน้าต่อ ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เป็นผู้ปรับแก้ไขคำปรารภร่างรัฐธรรมนูญ
กระบวนการเรื่องร่างรัฐธรรมนูญยังไหลไปตามขั้นตอน คู่ขนานไปกับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ที่ กรธ.เตรียมสำรวจความเห็นพรรคการเมืองและประชาชน นำมาประกอบการร่างกฎหมายลูก
กลไกการประกาศใช้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ยังเดินหน้าไปตามปกติ ไม่ปรากฏสัญญาณโดนเจาะยางระหว่างทาง
ปฏิทินเลือกตั้งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ดูตามรูปการณ์ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐบาลท็อปบูตสามารถคอนโทรลโรดแม็ปให้เป็นไปตามเงื่อนเวลาเดิมได้
ปลุกกระแสนำร่องให้นักเลือกตั้งอาชีพเริ่มเคลื่อนไหวรอคืนสนามปลายปีหน้า
ทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ เริ่มวอร์มอัพแต่งตัวรอลงสนามกันแล้ว
ในจังหวะล่าสุดของพรรคเพื่อไทยที่แกนนำพรรคเดินทางไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เมืองดูไบ เพื่อจัดทัพรับสถานการณ์เลือกตั้ง
เตรียมปูทางในสนามเลือกตั้ง รวมทั้งวางแผนสำรองไว้เป็นทางหนีทีไล่ ในยามที่กติกาประเทศฉบับใหม่ไม่เป็นใจให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่
ขณะที่พรรคการเมืองขนาดเล็กก็เริ่มทยอยเปิดหน้าออกมา อาทิ “พรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย” ที่จู่ๆก็ปรากฏเป็นประเด็นขึ้นมาตามหน้าสื่อ
โดยมีชื่อนายทหารตัวแทน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์-สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นผู้ทอดเงาอยู่เบื้องหลัง
หยั่งเชิงขอเป็นนอมินี ตัวแทนกองทัพในช่วงหลังการเลือกตั้ง จน “บิ๊กป้อม” ต้องออกโรงมาปฏิเสธข่าวไม่เป็นความจริง
ยังไม่รวมถึงพรรคประชาชนปฏิรูปที่มี นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิก สปช. เป็นโต้โผ เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ โดยสนับสนุน “บิ๊กตู่” คัมแบ็กกลับมาเป็นนายกฯสมัยหน้า
และหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองเล็กๆทยอยเปิดหน้าเล่นมากขึ้น
ตามเงื่อนไขของร่าง พ.ร.บ.พรรคการเมืองฉบับใหม่ ที่กรธ.ส่งสัญญาณแว่วๆให้การจัดตั้งพรรคการเมืองทำได้ง่าย ใช้จำนวนสมาชิกพรรคแค่ 500 คน โดยมีสัดส่วนกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาค
ก็สามารถจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองได้แล้ว
กติกาใหม่ส่อแนวโน้มเกิดพรรคป้ายแดงขึ้นมาก ไม่ต้องทนฝากความหวังกับสองพรรคการเมืองขนาดใหญ่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
ซ่อนเงื่อนสลายขั้วอำนาจพรรคใหญ่ ล่อใจให้นักการเมืองปลดแอกออกจากพรรคเดิม ไปก่อตั้งพรรคใหม่มากขึ้น
พรรคขนาดกลางและขนาดเล็กจะเป็นตัวแปรทางการเมืองที่สำคัญ โดยมีอำนาจต่อรองที่มากขึ้น จากปัจจัยการมี ส.ว. 250 เสียงมาคอยคานอำนาจการเลือกตัวนายกรัฐมนตรี
เพราะพรรคอันดับหนึ่ง อาจไม่มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นได้!!!
ทีมข่าวการเมือง
