ปรองดองเอ็มโอยู พิธีกรรมจับปูใส่กระด้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/254361

วันอาทิตย์ ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560, 02.00 น.

รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทุ่มสุดตัวเดินหน้าแผนสร้างความปรองดองตั้งเป้าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้ง พร้อมกับแนวคิดที่จะให้ตัวแทนคู่ขัดแย้งและบรรดาพรรคการเมืองร่วมลงนามในเอ็มโอยูหรือสัตยาบันที่จะร่วมมือในกระบวนการสร้างความปรองดอง ซึ่งก่อนหน้านี้บรรดาแกนนำพรรคการเมืองโดยเฉพาะสองพรรคใหญ่คือเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ต่างตอบรับสนับสนุนเต็มที่ รวมทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงถึงขนาดประกาศพร้อมเซ็นในเอ็มโอยูอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ไปๆ มาๆ ขบวนการระบอบทักษิณเริ่มออกลายเผยไต๋ให้เห็นดราม่าที่มีวาระซ่อนเร้นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ

ขบวนการระบอบทักษิณพยายามสร้างภาพดราม่าว่าพร้อมสนับสนุนความปรองดอง โดยฉวยโอกาสรุมโจมตีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำมวลมหาประชาชน
กปปส. ที่แสดงจุดยืนไม่ร่วมเซ็นเอ็มโอยูเพราะมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรม แต่การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนเคารพกฎหมาย อีกทั้งต้องไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทุจริต ผู้ต้องหาหมิ่นเบื้องสูง หรือทำผิดคดีอาญาร้ายแรงโดยเฉพาะพวกที่ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553 โดยขบวนการระบอบทักษิณโจมตี นายสุเทพ ว่าเป็นตัวขัดขวางการสร้างความปรองดอง ถึงขนาดยุให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวบังคับให้คู่ขัดแย้งทุกกลุ่มร่วมลงสัตยาบันในเอ็มโอยูเพื่อความปรองดอง

แต่หลังฉากก็คือเกมสร้างภาพความชอบธรรมว่าขบวนการเพื่อแม้วสนับสนุนการสร้างความปรองดอง แต่ขณะเดียวกันแกนนำระบอบทักษิณหลายคนกลับออกมาแสดงท่าทีส่อเจตนาตั้งแง่ต่อรองโดยมีเป้าหมายแอบแฝงซึ่งเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะป่วนการสร้างความปรองดอง หากเงื่อนไขของขบวนการระบอบทักษิณไม่ได้รับการตอบสนองจากคสช.

ขณะที่แกนนำขบวนการระบอบทักษิณหลายคนออกมาถล่ม นายสุเทพ ที่จะไม่ร่วมลงนามในเอ็มโอยู แต่แกนนำหลายคน อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว หรือ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ หรือแม้แต่ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่ว่าจะเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค อดีตนายกฯ หรือ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ต่างก็เห็นสอดคล้องกับ นายสุเทพ ที่ว่าการเซ็นในเอ็มโอยูเป็นเพียงพิธีการไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่การปรองดองอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ขณะที่เหล่าแกนนำพรรคเพื่อไทยสร้างภาพหนุนการปรองดอง แต่แกนนำ อาทิ นายภูมิธรรม หรือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กลับส่อเจตนาบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช. โดยชี้ว่า คสช.เป็นคู่ขัดแย้งของความแตกแยกในชาติจึงไม่ควรทำหน้าที่คนกลางสร้างความปรองดองโดยควรให้มีคณะกรรมการที่เป็นกลางเข้ามาทำหน้าที่

สำหรับ นายสุรพงษ์ จากที่ก่อนหน้านี้ที่เคยยกย่องรัฐบาลคสช.และสนับสนุนการสร้างความปรองดอง แต่ช่วงหลังเริ่มเปลี่ยนท่าทีด้วยการตั้งคำถามเหน็บแนม พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีความจริงใจที่จะปรองดองอย่างที่พูดหรือไม่ พร้อมย้ำว่า หากรัฐบาลคสช.อยากให้การปรองดองสำเร็จต้องให้อภัยและไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ

ท่าทีคำพูดของ นายสุรพงษ์ ส่อต้องการส่งสัญญาณว่า หากจะปรองดองต้องมีการนิรโทษกรรมความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาลรวมทั้งเหล่าแกนนำคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง และอาจรวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด และพวกที่เป็นจำเลยคนสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งต้องไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บรื้อฟื้นคดีทุจริตต่างๆ ยุครัฐบาลระบอบทักษิณขึ้นมาตรวจสอบเพิ่มเติมโดยเฉพาะล่าสุดหลังจากเกิดข่าวอื้อฉาวสินบนโรลส์-รอยซ์

ท่าทีแบไต๋ของ นายสุรพงษ์ สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตสส.พรรคเพื่อไทย ที่ย้ำว่า หากจะสร้างความปรองดองต้องลบล้างโทษความผิดให้ทุกคนและทุกคดีอย่างไม่มีเงื่อนไข

นอกจากนี้ขณะที่เหล่าคนของระบอบทักษิณสร้างภาพสนับสนุนความปรองดอง ในอีกด้านหนึ่งคนของขบวนการระบอบทักษิณกลับออกมาเคลื่อนไหวตีรวนป่วนการปรองดอง อาทิ นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เหน็บแนมเรียกร้องให้คสช.และกองทัพร่วมลงนามในเอ็มโอยูว่าทหารจะไม่ปฏิวัติรัฐประหารอีก หรือกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส่อชักศึกเข้าบ้านป่วนการปรองดองโดยเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยโดยอ้างว่าเพื่อเป็นตัวกลางวางแนวทางสร้างความปรองดอง

ดังนั้นแค่เริ่มต้นขบวนการสร้างความปรองดองด้วยการเซ็นเอ็มโอยู ท่ามกลางจุดยืนท่าทีของแกนนำคู่กรณีหลากหลายกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงเหมือนพิธีกรรมจับปูใส่กระด้ง และที่สำคัญจากท่าทีของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง(ป.ย.ป.)ส่งสัญญาณย้ำชัดว่า การสร้างความปรองดองจะไม่มีการพูดเรื่องการทำผิดกฎหมายและการนิรโทษกรรม ซึ่งทำให้แนวโน้มการสร้างความปรองดองยากจะเป็นจริงเพราะไม่ตอบสนองความต้องการของนายใหญ่ระบอบทักษิณที่อยากกลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาลอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment