เพื่อแม้วสร้างภาพอำพราง ซ่อนแผนตั้งแง่ป่วนปรองดอง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/253547

วันจันทร์ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ขณะที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ทุ่มสุดตัวกำหนดเป็นวาระแห่งชาติเพื่อสร้างความปรองดองในชาติให้สำเร็จก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้ากำลังเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ปรากฏว่าเกิดข่าวอื้อฉาวระดับโลกเข้ามาแทรกซ้อนซึ่งจะมีผลกระทบทางอ้อมต่อแผนสร้างความปรองดองนั่นคือกรณีหน่วยงานปราบปรามการทุจริตของอังกฤษแฉคำรับสารภาพของผู้บริหารบริษัทโรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตรถยนต์หรูและเครื่องยนต์สำหรับอากาศยานรายใหญ่ของอังกฤษได้จ่ายสินบนให้นักการเมืองผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่รัฐในหลายประเทศซึ่งรวมทั้งไทยโดยไทยการจ่ายสินบนเกิดขึ้น 3 ลอตช่วงระหว่างปี 2534-2548 เพื่อให้ได้สัญญาขายอะไหล่เครื่องบินให้กับบริษัทการบินไทย และเรื่องยังลุกลามบานปลายเมื่อกระทรวงยุติธรรมแฉซ้ำว่าโรลส์-รอยซ์จ่ายสินบนให้กับบุคคลระดับสูงในกระทรวงพลังงานของไทยในอดีตด้วย

ขณะที่รัฐบาลคสช.ได้สั่งให้มีการตรวจสอบมหกรรมโกงชาติสินบนโรลส์-รอยซ์ฉาวในอดีตอย่างจริงจังเพื่อทำความ
จริงให้ปรากฏและพยายามหาขบวนการไอ้โม่งตัวการใหญ่ที่โกงชาติปล้นแผ่นดินมาลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ปรากฏว่าอดีตผู้บริหารบริษัทการบินไทยยุครัฐบาลแม้วเรืองอำนาจ รวมทั้งเหล่าสาวกขบวนการเพื่อแม้วดูเหมือนส่ออาการร้อนตัวรีบออกมาปัดสวะพัลวันและแก้เกี้ยวตีปลาหน้าไซกันเป็นแถว และที่สำคัญเหมือนส่อเจตนาแบล็กเมล์ขู่รัฐบาลคสช.ที่กำลังเดินหน้าตรวจสอบกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ฉาวด้วยการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบกรณีทุจริตอื้อฉาวต่างๆ ในยุครัฐบาลคสช.ด้วย โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. รวมทั้งการงบจัดซื้อจัดจ้างต่างๆของกระทรวงมหาดไทยตลอดจนการจัดซื้อเครื่องตรวจระเบิดทีจี-200 สุดอื้อฉาวในอดีตที่เป็นจุดอ่อนของกองทัพ

ข้อน่าสังเกตก็คือหากรัฐบาลคสช.เดินหน้ารื้อฟื้นตรวจสอบกรณีสินบนโรลส์-รอยซ์ฉาวอย่างเอาจริงเอาจังโดยเฉพาะในยุครัฐบาลแม้วเรืองอำนาจจนพบการทุจริตก็อาจทำให้ขบวนการเพื่อแม้วไม่พอใจและตีรวนป่วนแผนสร้างความปรองดองก็เป็นได้

ส่วนในเรื่องการสร้างความปรองดองถ้าจะว่าไปแล้วฝ่ายนักลากตั้งโดยเฉพาะขบวนการเพื่อแม้วพยายามสร้างภาพ
ดราม่าอย่างมีวาระซ่อนเร้น โดยสาวกแกนนำขบวนการเพื่อแม้วได้ทีฉวยโอกาสกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำมวลมหาประชาชน กปปส. ประกาศจะไม่ร่วมเซ็นเอ็มโอยูหรือสัญญาประชาคมเพื่อสร้างควมมปรองดองตามแนวคิดของรัฐบาลคสช. โดยขบวนการเพื่อแม้วออกมาโจมตีทำลายภาพพจน์ของมวลมหาประชาชนกปปส.ว่าคือตัวขัดขวางการสร้างความปรองดอง ขณะที่พยายามสร้างภาพดราม่าว่าขบวนการเพื่อแม้วพร้อมสนับสนุนการสร้างความปรองดอง ถึงขนาดนายจุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศพร้อมลงนามในเอ็มโอยูเพื่อสร้างความปรองดองอย่างไม่มีเงื่อนไข

แต่ความจริงที่อยู่หลังฉากก็คือเกมช่วงชิงสร้างความชอบธรรมว่าขบวนการเพื่อแม้วสนับสนุนการสร้างความปรองดอง แต่ขณะเดียวกันแกนนำขบวนการเพื่อแม้วหลายคนกลับออกมาแสดงท่าทีส่อเจตนาตั้งแง่ต่อรองโดยมีเป้าหมายแอบแฝงซึ่งเหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะป่วนการสร้างความปรองดอง หากเงื่อนไขของขบวนการเพื่อแม้วไม่ได้รับการตอบสนอง

การสร้างภาพโชว์ดราม่าเห็นได้จากขณะที่แกนนำขบวนการเพื่อแม้วหลายคนออกมาถล่ม นายสุเทพ ที่จะไม่ร่วมลงนามในเอ็มโอยู แต่แกนนำเพื่อแม้วเองหลายคน อาทิ นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อแม้ว หรือ นายนพดล ป้ทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กลับเห็นขัดกันเองโดยมองสอดคล้องกับ นายสุเทพ ด้วยซ้ำว่าเอ็มโอยูเป็นแค่พิธีกรรมไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความจริงใจในการสร้างความปรองดอง

ที่สำคัญเหล่าแกนนำขบวนการเพื่อแม้ว อาทิ นายภูมิธรรม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์หรือ นายจตุรนต์ ฉายแสง พยายามชี้ว่า คสช.เป็นคู่ขัดแย้งของความแตกแยกในชาติจึงไม่ควรทำหน้าที่คนกลางสร้างความปรองดองโดยควรให้มีคณะกรรมการที่เป็นกลางเข้ามาทำหน้าที่

นายภูมิธรรม ยังดราม่าเรียกร้องให้นำผลสรุปการศึกษาเพื่อสร้างความปรองดองของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ที่มี ดร.คณิต ณ นคร เป็นประธานและผลศึกษาของสถาบันพระปกเกล้ามาเป็นแนวทางสร้างความปรอดอง ทั้งๆ ที่ความจริง ผลสรุปการศึกษาทั้งของคอป.และสถาบันพระปกเกล้าถูกรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ทิ้งลงตะกร้าอย่างไม่แยแสเพราะไม่สนองตอบความต้องการของ อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีทุจริต เนื่องจากผลการศึกษาของทั้งสององค์กรไม่ให้ครอบคลุมคดีทุจริต คดีหมิ่นเบื้องสูง และความผิดทางอาญาร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ

สาวกขบวนการเพื่อแม้วยังพยายามตีรวนป่วนการปรองดอง อาทิ นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เหน็บแนมเรียกร้องให้คสช.และกองทัพร่วมลงนามในเอ็มโอยูว่าทหารจะไม่ปฏิวัติรัฐประหารอีก หรือกรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ชักศึกเข้าบ้านป่วนการปรองดองโดยเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยโดยอ้างว่าเพื่อเป็นตัวกลางวางแนวทางสร้างความปรองดอง

จากพฤติการณ์ของเหล่าแกนนำสาวกขบวนการเพื่อแม้วทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมาจึงสะท้อนเจตนาที่ส่อไปในทางดราม่าสร้างภาพมากกว่าจริงใจที่จะสร้างความปรองดองโดยมีเป้าหมายซ่อนเร้นที่แท้จริงก็คือต่อรองหวังลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับอดีตนายกฯนักโทษหนีคุกเพื่อจะได้กลับบ้านแบบเท่ๆโดยไม่ต้องติดคุกอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ รวมทั้งล้างโทษความผิดแก่เหล่าแกนนำเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง ตลอดจนพยายามช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกที่เป็นจำเลยสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสต์ ดังที่ นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตสส.พรรคเพื่อแม้วเผยไต๋ตั้งแง่ก่อนหน้านี้ว่า หากจะสร้างความปรองดองต้องลบล้างโทษความผิดให้ทุกคนและทุกคดีอย่างไม่มีเงื่อนไข

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment