ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/250895
วันอังคาร ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2560, 02.00 น.
หลังจากที่นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ออกมาส่งสัญญาณว่าการเลือกตั้งครั้งใหม่อาจจะมีขึ้นในปี 2561 เนื่องจากสนช.มีกฎหมายค้างการพิจารณาจำนวนมาก รวมทั้งการพิจารณากฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 4 ฉบับ ต้องใช้เวลาพอสมควรจนคาดว่าจะไม่สามารถมีการเลือกตั้งได้ภายในปี 2560 ปรากฏว่าทำเอาบรรดานักลากตั้งโดยเฉพาะจาก 2 พรรคใหญ่คือ เพื่อแม้วกับประชาธิปัตย์ถึงกับพล่านออกมากดดันเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปโดยเร็ว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่าสนช.กำลังเล่นเกมยืดการเลือกตั้งออกไป
ขณะที่ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด พรรคเพื่อแม้ว เรียกร้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และรัฐบาลเดินตามโรดแมปโดยให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 พร้อมถือโอกาสแขวะอำนาจรัฐคสช.ว่าคุมอำนาจการปกครองประเทศมากว่า 2 ปี แต่ยังไม่เห็น
แนวทางสร้างความปรองดอง
ความเห็นของอดีตนายกฯหุ่นเชิดเรื่องการสร้างความปรองดองนั้น หากเป็นการปรองดองตามที่อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีทุจริตตามคำพิพากษาของศาลซึ่งเป็นนายใหญ่ระบอบแม้วต้องการนั่นคือ เซตซีโร่เริ่มนับหนึ่งใหม่ด้วยการลบล้างโทษความผิดทั้งหมดให้กับตัวเองและเหล่าแดงก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองอันเป็นการทำลายหลักนิติซึ่งการปรองดองที่ยึดถือประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่โดยอาศัยประเทศเป็นตัวประกันต่อรองคงเป็นสิ่งที่มวลมหาประชาชนหลายล้านคนที่เคยออกมาแสดงพลังต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอยยุครัฐบาลทักษิณคิดยิ่งลักษณ์ทำคงรับไม่ได้ และยิ่งหากต้องการจะต่อรองหวังจะให้ล้มคดีโครงการรับจำนำข้าวที่มีการโกงชาติปล้นแผ่นดินอย่างมโหฬารและสร้างความเสียหายย่อยยับแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และพวกเป็นจำเลยก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
ความจริงแล้วหลังจากที่คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประชาชนสีต่างๆคลี่คลายลงไปมากและจำนวนไม่น้อยร่วมกิจกรรมสร้างความปรองดองเพราะประชาชนทั้งประเทศต่างก็ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุขร่มเย็นไม่อยากให้เห็นความรุนแรงซึ่งสร้างความบอบช้ำให้ประเทศตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอีก แต่ที่ยังมีปัญหาบ่อนทำลายอยู่จนทุกวันนี้ก็เพราะขบวนการระบอบแม้วซึ่งเป็นคนเพียงหยิบมือเดียวที่ยังพยายามตีรวนก่อคลื่นใต้น้ำทำลายชาติบ้านเมืองเพียงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายผลประโยชน์ของตัวเองโดยอ้างการสร้างความปรองดองต่อรองบังหน้า
ส่วนประเด็นเรื่องที่อาจมีการเลือกตั้งในกลางปีหน้านั้นล่าสุด พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสนช. ชี้แจงได้อย่างชัดเจนว่า เนื่องจากสนช.มีภารกิจต้องพิจารณากฎหมายจำนวนมากทำให้คาดว่าคงไม่สามารถเลือกตั้งได้ทันในปี 2560 ตามที่ตั้งใจไว้แต่เดิม เพราะตามขั้นตอนโรดแมปคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ต้องส่งกฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้สนช.ภายใน 8 เดือนนับจากวันที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ จากนั้นสนช.มีเวลาพิจารณากฎหมายลูก 2 เดือนซึ่งเมื่อเสร็จแล้วต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หรือ 5 เดือน ซึ่งหากดูตามกรอบเวลาดังกล่าวน่าจะใช้เวลาประมาณ 15 เดือนที่จะมีการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงประมาณเดือนมี.ค.-เม.ย. 2561 ซึ่งไม่ถือเป็นการเลื่อนโรดแมปเลือกตั้งแต่ทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาและกติกาที่กำหนดไว้ จึงต้องถือว่าเลือกตั้งอยู่ในกรอบโรดแมป ทั้งนี้ยืนยันว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นอย่างแน่นอน
นอกจากกรอบเวลาขั้นตอนตามโรดแมปที่บังคับแล้ว ที่สำคัญในปลายปีหน้าจะมีพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งชาติเพื่อเป็นการถวายสักการะแสดงความจงรักภักดีต่อพ่อแห่งแผ่นดินเป็นครั้งสุดท้าย นั่นคือในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพราะฉะนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวจึงไม่น่าเหมาะที่จะมีบรรยากาศของการต่อสู้ทางการเมืองเพื่อเอาชนะกันในศึกเลือกตั้ง
เหนืออื่นใดหากจะคำนึงถึงเสียงสะท้อนของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจากผลสำรวจของโพลล์สำนักต่างๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลภายใต้อำนาจพิเศษอยู่บริหารประเทศต่อไปมากกว่าที่อยากให้มีการเลือกตั้ง โดยผลสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ที่มาจากการรัฐประหารกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเมื่อไม่นานมานี้พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศร้อยละ 48.84 มองว่ารัฐบาลนายกฯบิ๊กตู่ดีกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งเพราะทำงานได้รวดเร็ว คล่องตัวภายใต้อำนาจพิเศษบ้านเมืองเกิดความสงบไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งอย่างรุนแรง รัฐบาลทำงานไปในทิศทางเดียวกัน และมีผลงานให้เห็น ขณะที่ประชาชนเพียงร้อยละ 23.72 เห็นว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งดีกว่ารัฐบาลจากการรัฐประหาร
ล่าสุดสำนักวิจัยซูเปอร์โพลล์เผยแพร่ผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศเรื่องใครทำให้ชาวบ้านสุขสุดปี 2559 โดยตั้งคำถามว่านายกรัฐมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยที่ทำให้ชาวบ้านสุขสุดในปีที่เพิ่งผ่านมาพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ นำโด่งเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 80.3 ทิ้งห่างอดีตนยกฯนักโทษหนีคุกอย่างนายทักษิณ ชินวัตร ที่ได้แค่ร้อยละ5.9 ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอดีตนายกฯ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ร้อยละ 5.5
เพราะฉะนั้นขณะที่เหล่านักลากตั้งพล่านกระสันอยากเลือกตั้งจนตัวสั่น แต่พลังมหาชนส่วนใหญ่ของประเทศกลับสะท้อนว่า ประชาชนไม่ได้สนใจว่าจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมปหรือไม่เมื่อไหร่ ขอเพียงบ้านเมืองสงบสุขภายใต้อำนาจพิเศษ เพราะหากมีเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองกลับไปสู่ฝันร้ายแห่งวังวนของวงจรอุบาทว์จนเกิดความรุนแรงทำให้บ้านเมืองหายนะเศรษฐกิจล่มจมเหมือนเดิมสู้อยู่ภายใต้อำนาจพิเศษดีกว่าจมอยู่กับความทุกข์และเครียดภายใต้ธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอม
ทีมข่าวการเมือง
