แก้โศกนาฏกรรมตายเป็นเบือซ้ำซาก พิสูจน์ฝีมือรัฐล้อมคอกไฟไหม้ฟาง?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/251298

วันศุกร์ ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560, 02.00 น.

เหตุการณ์รถตู้นรกสายจันทบุรี-กรุงเทพฯ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถที่ขับมาด้วยความเร็ว โดยที่คนขับซึ่งเชื่อว่าหลับในเสียหลักวิ่งข้ามเลนมายังถนนคู่ขนานอีกเส้นหนึ่งแล้วพุ่งเข้าชนรถกระบะซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันจนไฟลุกท่วมกลายเป็นโศกนาฏรรมย่างสดหมู่ผู้เคราะห์ร้ายที่บริเวนถนนสายบ้านบึง-แกลงอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 25 รายเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมร้ายแรงต้อนรับปีใหม่อย่างที่ไม่ควรจะเกิดทั้งๆ ที่ประเทศอยู่ภายใต้อำนาจพิเศษของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ขณะที่สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วันอันตราย (29 ธ.ค.2559-3 ม.ค. 2560) เกิดอุบัติเหตุรวมถึง 3,579 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต426 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,761 คน และจากมาตรการ “ดื่มไม่ขับจับยึดรถ” มีการตรวจพบผู้กระทำผิดคือ รถจักรยานยนต์ 14,143 ครั้ง ยึดรถไว้ 458 คัน ส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 7,370 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคลพบกระทำผิด 10,536 ครั้ง ยึดใบขับขี่ไว้ 562 คน ยึดรถยนต์ 132 คัน ส่งดำเนินคดี 3,924 คน โดยตลอด 6 วันอันตรายยึดรถไว้ทั้งสิ้น 4,208 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ 2,965 คันและรถยนต์ 1,243 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 38,168 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 20,889 คน

สำหรับประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดกว่าครึ่งคือรถจักรยานยนต์ ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเมาแล้วขับและขับรถโดยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

จากสถิติตายเป็นเบือท้าทายกฎหมายและคำสั่งคสช.ของเหล่านักขับขี่ทั้งหลายด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอาการดื้อยาของเหล่านักขับขี่ไทย แต่อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนความล้มเหลวในมาตรการป้องกันของหน่วยงานภาครัฐเช่นกันที่ยังไร้ประสิทธิภาพเพียงพอโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย

เมื่อย้อนกลับมาวิเคราะห์ปัญหาโศกนาฏกรรมจากรถตู้นรก 25 ศพ ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก แต่มีบทเรียนอุทาหรณ์ซ้ำซากมาแล้วมากมาย แต่ดูเหมือนว่ารัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมักจะออกมาชี้แจงแบบวัวหายล้อมคอกอย่างขายผ้าเอาหน้ารอดรอให้เกิดโศกนาฏรรมครั้งใหม่ขึ้นอีก

ข้อน่าสังเกตก็คือทั้งๆ ที่บ้านเมืองอยู่ภายใต้อำนาจพิเศษของคสช.ที่ก่อนหน้านี้มีการประกาศสงครามจัดระเบียบรถตู้วินมอเตอร์ไซค์และรถรับส่งผู้โดยสารสาธารณะประเภทต่างๆแต่ดูเหมือนว่าจะจริงจังแค่ระยะเริ่มแรกเหมือนทำแบบไฟไหม้ฟางเพราะขณะนี้ยังมีรถรับส่งผู้โดยสารสาธารณะที่ยังทำผิดกฎหมายและเห็นแก่ได้เอาเปรียบผู้โดยสารจำนวนมากทั่วประเทศ นี่ยังไม่พูดถึงรถตู้เถื่อนหรือรถตู้ที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่วิ่งข้ามจังหวัดอย่างผิดกฎหมายอีกจำนวนมาก

ขณะที่เกิดเสียงร่ำลือและมีการตั้งข้อสังเกตถึงการรับเงินใต้โต๊ะของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตให้กับบรรดาผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะที่ไร้ความรับผิดชอบ หรือไม่ก็ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม

ทั้งนี้ จากโศกนาฏกรรม 25 ศพ โดยรถตู้นรกที่เกิดขึ้นทำให้มีการตั้งคำถามถึงความเห็นแก่ได้อย่างไร้สำนึกและความรับผิดชอบของผู้ประกอบการรถตู้ที่หวังกอบโกยรายได้โดยบังคับให้คนขับรถตู้ทำงานอย่างต่อเนื่องหลายวันอย่างไม่มีเวลาพักผ่อนจนหลับในกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งความเห็นแก่ได้ของนายทุนรถตู้ลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของกิจการรถตู้ในเมืองไทย

นอกจากนี้ยังมีคำถามในเรื่องการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบสภาพรถและระบบความปลอดภัยของรถ ซึ่งรถตู้มรณะคันที่เกิดเหตุโศกนาฏรรม 25 ศพ มีการติดตั้งถังแก๊สถึง 3 ถัง ขณะที่ไม่มีระบบดับเพลิงภายในรถหรือทางหนีฉุกเฉินแต่อย่างใดทั้งสิ้น

จากอุบัติภัยที่ยังตายเป็นเบือช่วงส่งท้ายปีวอกต้อนรับปีระกาทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงโดยพยายามชี้แจงว่า ที่ผ่านมารัฐพยายามทำทุกวิถีทางแล้วไม่ว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวยึดรถจับกุมพวกเมาแล้วขับหรือไร้วินัยจราจรเพื่อลดโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือ ซึ่งไทยได้ชื่อว่ามีอุบัติภัยบนท้องถนนเลวร้ายเป็นอันดับ 2 ของโลก

พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศขึงขังว่าจากนี้ไปภายใน 3 เดือนจะใช้ยาแรงขึ้นเพื่อเผด็จศึกโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือบนท้องถนนซ้ำซากให้เห็นผลก่อนถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยจะดำเนินคดีทุกอย่างไม่ว่าจะคนขับรถ รถไม่ได้มาตรฐาน รถตู้และรถโดยสารทั้งหมดที่บรรทุกเกินที่นั่งที่กำหนดโดยเบียดเสียดยัดเยียดผู้โดยสารบนรถ รถโดยสารประจำทางทั้งหมดที่ให้บริการจะต้องมีสมุดประจำรถ ลงชื่อคนขับรถ เวลาขับทุกเส้นทางโดยด่านตรวจทุกด่านจะต้องตรวจทั้งหมด ถ้าขับเกินเวลาต้องยึดรถ เอาคนลง แล้วหารถใหม่ คนขับใหม่

“ผมจะใช้มาตรการเข้มงวดนี้ใน 3 เดือนก่อนถึงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เพราะฉะนั้นอย่ามาโวยวาย ใครวิ่งไม่ได้เดี๋ยวผมจะหารถมาวิ่งเอง รถพวกนี้เป็นพวกรถร่วมทั้งสิ้น ถ้าทุกคนต้องการความปลอดภัยต้องร่วมมือกับผมถ้าไม่อยากให้มีการตายมาก ….เรื่องรถตู้ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลปล่อยให้รถตู้ผิดกฎหมายวิ่งอยู่ เพราะฉะนั้นต้องเอามาจดทะเบียนเป็นรถป้ายเหลืองไปก่อนในช่วงจัดระเบียบ วันหน้าต้องเป็นรถป้ายขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อไปนี้รถคันไหนไม่พร้อมไม่ให้ออกจากท่า”

ดูจากท่าทีของ นายกฯลุงตู่ ประชาชนเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา แต่ความตั้งใจหากไม่มีการติดตามประเมินผลงานและไม่คาดโทษลงแส้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือ โดยปล่อยให้ทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนที่ผ่านมาหรือซ้ำร้ายมีนอกมีในกับรับเงินจากผู้ประกอบการเดินรถโดยสาร โศกนาฏกรรมตายหมู่ซ้ำซากจะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

การที่มีคนตายเป็นจำนวนมากซ้ำซากช่วงเทศกาลแสดงว่ามาตรการป้องกันไม่ได้ผล พวกเมาแล้วขับยังออกมาท้าทายความตายและกฎหมายขณะที่ด่านตรวจพวกเมาแล้วขับโดยเฉพาะบนถนนสายรองซึ่งเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น

ส่วนปัญหารถโดยสารสาธารณะที่ทำผิดฎหมายจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมตายเป็นเบือสะท้อนให้เห็นว่ามีการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบอย่างจริงจังเสม่ำเสมอ รวมทั้งออกใบอนุญาตแก่รถโดยสารสาธารณะที่ไร้ความรับผิดชอบ

ที่ผ่านมาเมื่อเกิดโศกนาฏกรรมผู้ที่ถูกดำเนินคดีมักเป็นคนขับรถ ทั้งๆ ที่บางครั้งสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากผู้ประกอบการรถโดยสารที่เห็นแก่ได้ไร้ความรับผิดชอบอย่างกรณีรถตู้มรณะ 25 ศพ ผู้ประกอบการโลภมากบังคับให้คนขับรถทำงานต่อเนื่องจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักจนเกิดการหลับในนำไปสู่โศกนาฏรรมสยอดสยอง ซึ่งคนขับรถก็เสียชีวิตด้วยดังนั้นต้องมีการเพิ่มโทษเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ไร้ความรับผิดชอบให้หนักขึ้นทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ขณะเดียวกันหากเกิดโศกนาฏกรรม หน่วยงานที่เกี่ยข้องซึ่งมีหน้าที่ป้องกันอุบัติภัยหรือตรวจสอบดูแลรถโดยสารสาธารณะถือว่ามีความผิด

จากปัญหาโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือซ้ำซากช่วงเทศกาลประชาชนคงต้องรอดูผลงานของนายกฯลุงตู่หลังประกาศกร้าวจะใช้ยาแรงแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 3 เดือน ตลอดจนรอดูความกระตือรือร้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นวัวหายล้อมคอกและกลายเป็นไฟไหม้ฟางอีกตามเคยหรือไม่

ทีมข่าวการเมือง

เหตุการณ์รถตู้นรกสายจันทบุรี-กรุงเทพฯ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันรถที่ขับมาด้วยความเร็ว โดยที่คนขับซึ่งเชื่อว่าหลับในเสียหลักวิ่งข้ามเลนมายังถนนคู่ขนานอีกเส้นหนึ่งแล้วพุ่งเข้าชนรถกระบะซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคันจนไฟลุกท่วมกลายเป็นโศกนาฏรรมย่างสดหมู่ผู้เคราะห์ร้ายที่บริเวนถนนสายบ้านบึง-แกลงอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 25 รายเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในโศกนาฏกรรมร้ายแรงต้อนรับปีใหม่อย่างที่ไม่ควรจะเกิดทั้งๆ ที่ประเทศอยู่ภายใต้อำนาจพิเศษของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ขณะที่สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วันอันตราย (29 ธ.ค.2559-3 ม.ค. 2560) เกิดอุบัติเหตุรวมถึง 3,579 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต426 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,761 คน และจากมาตรการ “ดื่มไม่ขับจับยึดรถ” มีการตรวจพบผู้กระทำผิดคือ รถจักรยานยนต์ 14,143 ครั้ง ยึดรถไว้ 458 คัน ส่งผู้กระทำผิดดำเนินคดี 7,370 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคลพบกระทำผิด 10,536 ครั้ง ยึดใบขับขี่ไว้ 562 คน ยึดรถยนต์ 132 คัน ส่งดำเนินคดี 3,924 คน โดยตลอด 6 วันอันตรายยึดรถไว้ทั้งสิ้น 4,208 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ 2,965 คันและรถยนต์ 1,243 คัน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในส่วนรถจักรยานยนต์ 38,168 คน รถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล 20,889 คน

สำหรับประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดกว่าครึ่งคือรถจักรยานยนต์ ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือเมาแล้วขับและขับรถโดยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

จากสถิติตายเป็นเบือท้าทายกฎหมายและคำสั่งคสช.ของเหล่านักขับขี่ทั้งหลายด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอาการดื้อยาของเหล่านักขับขี่ไทย แต่อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนความล้มเหลวในมาตรการป้องกันของหน่วยงานภาครัฐเช่นกันที่ยังไร้ประสิทธิภาพเพียงพอโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย

เมื่อย้อนกลับมาวิเคราะห์ปัญหาโศกนาฏกรรมจากรถตู้นรก 25 ศพ ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก แต่มีบทเรียนอุทาหรณ์ซ้ำซากมาแล้วมากมาย แต่ดูเหมือนว่ารัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมักจะออกมาชี้แจงแบบวัวหายล้อมคอกอย่างขายผ้าเอาหน้ารอดรอให้เกิดโศกนาฏรรมครั้งใหม่ขึ้นอีก

ข้อน่าสังเกตก็คือทั้งๆ ที่บ้านเมืองอยู่ภายใต้อำนาจพิเศษของคสช.ที่ก่อนหน้านี้มีการประกาศสงครามจัดระเบียบรถตู้วินมอเตอร์ไซค์และรถรับส่งผู้โดยสารสาธารณะประเภทต่างๆแต่ดูเหมือนว่าจะจริงจังแค่ระยะเริ่มแรกเหมือนทำแบบไฟไหม้ฟางเพราะขณะนี้ยังมีรถรับส่งผู้โดยสารสาธารณะที่ยังทำผิดกฎหมายและเห็นแก่ได้เอาเปรียบผู้โดยสารจำนวนมากทั่วประเทศ นี่ยังไม่พูดถึงรถตู้เถื่อนหรือรถตู้ที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่วิ่งข้ามจังหวัดอย่างผิดกฎหมายอีกจำนวนมาก

ขณะที่เกิดเสียงร่ำลือและมีการตั้งข้อสังเกตถึงการรับเงินใต้โต๊ะของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบในการออกใบอนุญาตให้กับบรรดาผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะที่ไร้ความรับผิดชอบ หรือไม่ก็ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม

ทั้งนี้ จากโศกนาฏกรรม 25 ศพ โดยรถตู้นรกที่เกิดขึ้นทำให้มีการตั้งคำถามถึงความเห็นแก่ได้อย่างไร้สำนึกและความรับผิดชอบของผู้ประกอบการรถตู้ที่หวังกอบโกยรายได้โดยบังคับให้คนขับรถตู้ทำงานอย่างต่อเนื่องหลายวันอย่างไม่มีเวลาพักผ่อนจนหลับในกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ซึ่งความเห็นแก่ได้ของนายทุนรถตู้ลักษณะเช่นนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติของกิจการรถตู้ในเมืองไทย

นอกจากนี้ยังมีคำถามในเรื่องการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบสภาพรถและระบบความปลอดภัยของรถ ซึ่งรถตู้มรณะคันที่เกิดเหตุโศกนาฏรรม 25 ศพ มีการติดตั้งถังแก๊สถึง 3 ถัง ขณะที่ไม่มีระบบดับเพลิงภายในรถหรือทางหนีฉุกเฉินแต่อย่างใดทั้งสิ้น

จากอุบัติภัยที่ยังตายเป็นเบือช่วงส่งท้ายปีวอกต้อนรับปีระกาทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงโดยพยายามชี้แจงว่า ที่ผ่านมารัฐพยายามทำทุกวิถีทางแล้วไม่ว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวยึดรถจับกุมพวกเมาแล้วขับหรือไร้วินัยจราจรเพื่อลดโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือ ซึ่งไทยได้ชื่อว่ามีอุบัติภัยบนท้องถนนเลวร้ายเป็นอันดับ 2 ของโลก

พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศขึงขังว่าจากนี้ไปภายใน 3 เดือนจะใช้ยาแรงขึ้นเพื่อเผด็จศึกโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือบนท้องถนนซ้ำซากให้เห็นผลก่อนถึงช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง โดยจะดำเนินคดีทุกอย่างไม่ว่าจะคนขับรถ รถไม่ได้มาตรฐาน รถตู้และรถโดยสารทั้งหมดที่บรรทุกเกินที่นั่งที่กำหนดโดยเบียดเสียดยัดเยียดผู้โดยสารบนรถ รถโดยสารประจำทางทั้งหมดที่ให้บริการจะต้องมีสมุดประจำรถ ลงชื่อคนขับรถ เวลาขับทุกเส้นทางโดยด่านตรวจทุกด่านจะต้องตรวจทั้งหมด ถ้าขับเกินเวลาต้องยึดรถ เอาคนลง แล้วหารถใหม่ คนขับใหม่

“ผมจะใช้มาตรการเข้มงวดนี้ใน 3 เดือนก่อนถึงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เพราะฉะนั้นอย่ามาโวยวาย ใครวิ่งไม่ได้เดี๋ยวผมจะหารถมาวิ่งเอง รถพวกนี้เป็นพวกรถร่วมทั้งสิ้น ถ้าทุกคนต้องการความปลอดภัยต้องร่วมมือกับผมถ้าไม่อยากให้มีการตายมาก ….เรื่องรถตู้ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลปล่อยให้รถตู้ผิดกฎหมายวิ่งอยู่ เพราะฉะนั้นต้องเอามาจดทะเบียนเป็นรถป้ายเหลืองไปก่อนในช่วงจัดระเบียบ วันหน้าต้องเป็นรถป้ายขนส่งที่ถูกต้องตามกฎหมายร้อยเปอร์เซ็นต์ ต่อไปนี้รถคันไหนไม่พร้อมไม่ให้ออกจากท่า”

ดูจากท่าทีของ นายกฯลุงตู่ ประชาชนเข้าใจและเห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา แต่ความตั้งใจหากไม่มีการติดตามประเมินผลงานและไม่คาดโทษลงแส้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการป้องกันโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือ โดยปล่อยให้ทำงานแบบเช้าชามเย็นชามเหมือนที่ผ่านมาหรือซ้ำร้ายมีนอกมีในกับรับเงินจากผู้ประกอบการเดินรถโดยสาร โศกนาฏกรรมตายหมู่ซ้ำซากจะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

การที่มีคนตายเป็นจำนวนมากซ้ำซากช่วงเทศกาลแสดงว่ามาตรการป้องกันไม่ได้ผล พวกเมาแล้วขับยังออกมาท้าทายความตายและกฎหมายขณะที่ด่านตรวจพวกเมาแล้วขับโดยเฉพาะบนถนนสายรองซึ่งเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากยังไม่ได้ผลอย่างที่ควรจะเป็น

ส่วนปัญหารถโดยสารสาธารณะที่ทำผิดฎหมายจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมตายเป็นเบือสะท้อนให้เห็นว่ามีการปล่อยปละละเลยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบอย่างจริงจังเสม่ำเสมอ รวมทั้งออกใบอนุญาตแก่รถโดยสารสาธารณะที่ไร้ความรับผิดชอบ

ที่ผ่านมาเมื่อเกิดโศกนาฏกรรมผู้ที่ถูกดำเนินคดีมักเป็นคนขับรถ ทั้งๆ ที่บางครั้งสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากผู้ประกอบการรถโดยสารที่เห็นแก่ได้ไร้ความรับผิดชอบอย่างกรณีรถตู้มรณะ 25 ศพ ผู้ประกอบการโลภมากบังคับให้คนขับรถทำงานต่อเนื่องจนแทบไม่มีเวลาหยุดพักจนเกิดการหลับในนำไปสู่โศกนาฏรรมสยอดสยอง ซึ่งคนขับรถก็เสียชีวิตด้วยดังนั้นต้องมีการเพิ่มโทษเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ไร้ความรับผิดชอบให้หนักขึ้นทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ขณะเดียวกันหากเกิดโศกนาฏกรรม หน่วยงานที่เกี่ยข้องซึ่งมีหน้าที่ป้องกันอุบัติภัยหรือตรวจสอบดูแลรถโดยสารสาธารณะถือว่ามีความผิด

จากปัญหาโศกนาฏกรรมตายเป็นเบือซ้ำซากช่วงเทศกาลประชาชนคงต้องรอดูผลงานของนายกฯลุงตู่หลังประกาศกร้าวจะใช้ยาแรงแก้ปัญหาให้ได้ภายใน 3 เดือน ตลอดจนรอดูความกระตือรือร้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะเป็นวัวหายล้อมคอกและกลายเป็นไฟไหม้ฟางอีกตามเคยหรือไม่

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment