ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 29 มิ.ย. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/649497

และที่ไม่ค่อยรู้กัน “นวลจันทร์ทะเล” ถือเป็นปลาชนิดแรกและชนิดเดียว ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสรับสั่งให้กรมประมงเพาะพันธุ์ เพื่อส่งเสริมให้เป็นปลาเศรษฐกิจ มาตั้งแต่ปี 2508 หลังมกุฎราช กุมารประเทศญี่ปุ่นได้ทูลเกล้าฯถวาย ปลานิล เมื่อ 25 มี.ค. 2508

26 เม.ย. 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรลูกปลานวลจันทร์ทะเล ที่สถานีประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับจากทะเลมาเลี้ยงไว้ในบ่อดิน (ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์)
“ทรงมีกระแสรับสั่ง ให้กรมประมงทำการศึกษาขยายพันธุ์ปลานวลจันทร์ จึงได้มีการนำปลาส่วนหนึ่งไปทดลองเลี้ยงในอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อ.หัวหิน โครงการพระราชดำริ โครงการแรกที่ได้สร้างเมื่อปี 2506”

นายธเนศ พุ่มทอง ผอ.ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีขันธ์ เล่าว่า แต่ด้วยขณะนั้นความก้าวหน้าด้านวิชาการประมงของไทยยังไม่ดีพอ ปลาที่เอาไปปล่อย ไม่รู้หายไปไหนหมด ชาวบ้านก็ไม่ให้ความสนใจ พลอยทำให้การเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ซาตามไปด้วย…กระทั่ง 4 ธ.ค.2544 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสถึงเรื่องปลานวลจันทร์อีกครั้ง
ศูนย์วิจัยฯรื้อฟื้นโครงการขึ้นมาใหม่ คราวนี้ไม่เหมือนก่อน เพราะองค์ความรู้มีเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยมากกว่า…นำปลาที่เลี้ยงไว้มาผสมเทียมเป็นผลสำเร็จ นำลูกพันธุ์ไปเลี้ยงในแหล่งน้ำเพื่อศึกษา จนได้องค์ความรู้มากพอ ปี 2553 เริ่มถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกร จัดฝึกอบรมหลักสูตรการเลี้ยงปลานวลจันทร์

“แต่เลี้ยงแล้ว ไม่รู้จะเอาไปขายใคร ไม่มีใครอยากกิน เนื่องจากก้างเยอะ เราต้องส่งคนไปเรียนวิธีแกะก้างปลาและแปรรูปที่ฟิลิปปินส์ เขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้ เพราะเป็นปลาประจำประเทศ ประชาชนนิยมบริโภคมาก”
ผอ.ธเนศ บอกว่า เมื่อได้ความรู้มาถ่ายทอดให้กับชาวบ้าน ปี 2556 จัดตั้งกลุ่มแปรรูปปลานวลจันทร์ทะเลบ้านคลองวาฬ ตามแนวพระราชดำริ รับปลาจากเกษตรกรมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ มีทั้งปลานวลจันทร์ทะเลถอดก้าง, ปลานวลจันทร์ทะเลแดดเดียว, ปลานวลจันทร์ทะเลรมควันก้างนิ่ม, ปลานวลจันทร์ทะเลหมักสูตรฟิลิปปินส์, ปลานวลจันทร์ทะเลต้มเค็ม, เบอร์เกอร์ปลานวลจันทร์ทะเล นอกจากนั้น เนื้อปลายังสามารถนำมาแปรรูปเป็นน้ำยาขนมจีน ไส้กรอก ลูกชิ้น ปลา กระป๋อง ได้สารพัด


ที่สำคัญเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงร่วมกับกุ้งได้ เพราะเป็นปลาที่กินพืช ต้นทุนการเลี้ยงต่ำ ปลาหนัก 1 กก. มีต้นทุน 30 บาท ในขณะที่ปลากะพงขาวอยู่ที่ 50–60 บาท…สนใจสอบถามได้ที่ 0–3266–1398.
ชาติชาย ศิริพัฒน์