ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย สะ-เล-เต 5 ก.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/654199

โรคกุ้งแห้ง มักพบอาการบนผลพริกที่เริ่มสุกหรือผลพริกก่อนจะเปลี่ยนสี เริ่มแรกมีแผลจุดช้ำสีน้ำตาลบุ๋มยุบตัวลึกลงเล็กน้อยในผิวผลพริก ต่อมาแผลขยายออกเป็นวงรีหรือวงกลมซ้อนกันเป็นชั้นๆ ถ้าอากาศชื้นบริเวณแผลจะมีเมือกเยิ้มสีส้มอ่อนๆ
แต่หากแสดงอาการที่ผลอ่อนจะทำให้ผลพริกโค้งงอบิดเบี้ยวลักษณะคล้ายกุ้งแห้ง เชื้อราก่อโรคกุ้งแห้งสามารถติดไปกับเมล็ดได้…ถ้าเกษตรกรต้องการเก็บเมล็ดพริกไว้ทำพันธุ์ กรมวิชาการเกษตร แนะให้เลือกเก็บเฉพาะผลที่ปลอดโรค การปลูกไม่ควรปลูกต้นพริกให้ชิดกันเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความชื้นสูง อากาศไม่ถ่ายเท ที่สำคัญยังทำให้เชื้อราแพร่กระจายเกิดการระบาดได้อย่างรวดเร็ว
หากสำรวจพบพริกแสดงอาการโรค ควรเก็บผลพริกเป็นโรคออกจากแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที…หากเริ่มพบการระบาดให้ฉีดพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดเชื้อรา อะซอกซีสโตรบิน 25% เอสซี อัตรา 5-10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ สารแมนโคเซบ 75% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ สารโพรคอลราซ 45% อีซี อัตรา 20-30 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และพ่นทุก 7-10 วัน
โรครากเน่าโคนเน่า มักเกิดในระยะพริกโตเต็มที่ ช่วงออกดอกติดผล อาการเริ่มแรกจะมีใบเหลืองและร่วง หากระบาดรุนแรง ต้นพริกจะเหี่ยวและยืนต้นตาย…โคนต้นจะพบเชื้อราเส้นใยสีขาวรวมเป็นก้อนกลมจากนั้นจะเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลดำคล้ายเมล็ดผักกาด (ราเม็ดผักกาด)
หากเริ่มพบระบาดให้รีบถอนต้นพริกและเก็บเศษซากพืชส่วนที่เป็นโรคออกจากแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูกทันที และใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา อีไตรไดอะโซล 24% อีซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ สารควินโตซีน 75% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 30 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ราดบริเวณโคนต้น หรือดินในหลุมที่ขุดเอาดินเก่าออกแล้ว
และหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิต ใส่ปูนขาวปรับสภาพดินก่อนปลูกพืชฤดูถัดไป…แต่แปลงที่มีการระบาดรุนแรงควรปลูกพืชชนิดอื่นสลับหมุนเวียนอย่างน้อย 5 ปี.
สะ-เล-เต