ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย สะ-เล-เต 28 ก.ค. 2559 05:01
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/674018

ชาวนาญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะทำนาหยอด ปลูกข้าวคุณภาพในที่ดินของตัวเอง ได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 1,080 กก. มีต้นทุนการผลิตไร่ละ 105,000 เยน หรือราว 34,700 บาท แต่มีรายได้ จากการขายข้าวเฉลี่ยไร่ละ 300,000 เยน หรือประมาณ 99,000 บาท…เหลือกำไรไร่ละ 64,300 บาท
ช่วงหลังนาก็จะปลูกพืชชนิดอื่นเช่นเดียวกับชาวนาไทย
แต่สิ่งที่ทำให้ชาวนาญี่ปุ่นยืนหยัดในสังคมได้อย่างภาคภูมิคือ “ความมีวินัยและเข้มแข็งตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงชุมชน” ทุกพื้นที่จะมีการรวมตัวเป็นสหกรณ์ นำข้าว ผลผลิตการเกษตร ปัจจัยการผลิต ซื้อขายผ่านระบบสหกรณ์ทั้งหมด โดยสหกรณ์เป็นผู้กำหนดราคาทุกอย่างเอง รัฐไม่จำเป็นต้องเข้ามาแทรกแซงใดๆ
เมื่อเกิดการรวมตัวเป็นสหกรณ์ การรวมตัวกันคล้ายสมาพันธ์เกิดตามมา และร่วมกันเปิดเป็นบริษัท ซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรทันสมัย ราคาแพง เข้ามาใช้ร่วมกันในชุมชน
สิ่งที่รัฐบาลและคนไทยควรเอาอย่าง…รัฐบาลญี่ปุ่นจะสนับสนุนเรื่องต่างๆ เฉพาะกับเกษตรกรที่มีการรวมกลุ่มกันเท่านั้น หากทำเดี่ยวๆ รัฐอาจมีแค่เงินกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ ที่สำคัญคนญี่ปุ่นนิยมอุดหนุนสินค้าจากสหกรณ์ เพราะเขาถือว่าเป็นของที่ผลิตจากคนในประเทศ
อีกอย่างที่ชาวนาญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในอาชีพ ผลผลิตข้าวออกมาสม่ำเสมอ…ชาวนาจะมีปฏิทินปลูกข้าวใช้เป็นคู่มือการปลูก ปฏิทินจะมีค่ามาตรฐานของข้าวทุกสายพันธุ์ ในทุกระยะการปลูกเมื่อข้าวอายุเท่านี้ ต้องสูงเท่าไร ออกกี่รวง แต่ละรวงมีข้าวกี่เมล็ดจึงจะเหมาะสม เพื่อให้ได้ข้าวสมบูรณ์ที่สุด
และด้วยเป็นประเทศเกิดวาตภัยบ่อย แต่ละปีมีไต้ฝุ่นกระหน่ำมิใช่น้อย ชาวนาญี่ปุ่นมีเทคนิคปลูกข้าวเอาชนะภัยพิบัติ เมื่อมีคำเตือนพายุจะมาเยือน จะมีการปล่อยน้ำเข้านาให้สูง พยุงต้นข้าว เมื่อเจอลมพัดแรง ข้าวจะไม่เสียหาย เมื่อพายุผ่านพ้นจะสูบน้ำออกไปตุนเก็บไว้ใช้ต่อไป… แล้วเราล่ะรู้ทันภัยธรรมชาติแค่ไหน.
“สะ–เล–เต”