กองกำลังชุดดำตราบาปตามหลอน จับโกหกเล่ห์ขบวนการเพื่อแม้ว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/255529

วันอังคาร ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

จากคำพิพากษาของศาลอาญาให้จำคุกนายกิตติศักดิ์หรืออ้วน สุ่มศรี และนายปรีชาหรือไก่เตี้ย อยู่เย็น สองจำเลยกองกำลังชุดดำคนละ 10 ปี ฐานร่วมปฏิบัติการใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่ทหารและประชาชนในเหตุการณ์ที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 จนเป็นเหตุให้ทหารและประชาชนเสียชีวิต 26 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้ง พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม กลายเป็นคดีตอกย้ำความมีอยู่จริงของกองกำลังชุดดำที่แฝงตัวปะปนอยู่ในม็อบเสื้อแดงเพื่อสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายเมื่อปี 2553 ขณะที่เหล่าแกนนำขบวนการเพื่อแม้วต่างร้อนตัวพยายามออกมาบิดเบือนและกลบเกลื่อนความมีอยู่จริงของกองกำลังชุดดำ

นพ.เหวง โตจิราการ อดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว แกนนำเสื้อแดง พยายามบิดเบือนว่าไม่มีกองกำลังชายชุดดำอยู่จริงและตอบโต้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ว่าแต่งนวนิยายเรื่องชายชุดดำ

ก่อนหน้านี้ พล.ท.สรรเสริญ เพียงออกมาชี้แจงว่า คำพิพากษาให้ลงโทษ 2 จำเลย ซึ่งเป็นกองกำลังชุดดำที่ร่วมปฏิบัติการยิงถล่มใส่ทหารเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ที่สี่แยกคอกวัวถือเป็นการพิสูจน์ว่ามีกองกำลังชุดดำอยู่จริง

นอกจาก นพ.เหวง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานคนเสื้อแดง อ้างว่ามีคนบางกลุ่มต้องการล้มการสร้างความปรองดองด้วยการยกกรณีการตายของ พ.อ.ร่มเกล้า ขึ้นมายั่วยุ

จากท่าทีของ นายจตุพร ส่อเจตนาต้องการกลบเกลื่อนเหตุการณ์กองกำลังชุดดำพร้อมอาวุธสงครามครบมือที่แฝงตัวปะปนอยู่ในม็อบเสื้อแดงที่เปิดฉากยิงถล่มใส่กำลังทหารที่เข้ารักษาความสงบบริเวณสี่แยกคอกวัวจนเป็นเหตุให้ทหารเสียชีวิตทันที 5 นาย ซึ่งรวมทั้ง พ.อ.ร่มเกล้า ขณะที่ประชาชนเสียชีวิตอีก 21 ราย โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นทหารและประชาชนอีกเกือบ 1,000 ราย โดยการสร้างสถานการณ์ดังกล่าวเป็นแผนการของขบวนการเพื่อแม้วที่ต้องการจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองเพื่อช่วงชิงอำนาจรัฐ โดยพยายามประโคมบิดเบือนอ้างว่าทหารฆ่าประชาชน

นายจตุพร ยังส่อเจตนาตีปลาหน้าไซอาศัยเรื่องการสร้างความปรองดองเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องกองกำลังชุดดำ

ประวัติศาสตร์และข้อเท็จจริงนั้นไม่มีทางที่จะถูกบิดเบือนได้ซึ่งในกรณีกองกำลังชุดดำ นอกจากคำพิพากษาของศาลที่มีการตรวจสอบซักถามพยานหลักฐานต่างๆ จนเป็นที่แน่ชัดแล้ว ยังมีทั้งหลักฐานภาพถ่ายทั้งของสื่อไทยและสื่อต่างชาติหลายสำนักยืนยันชัดเจน รวมทั้งการตรวจสอบของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)ที่มีดร.คณิต ณ นคร เป็นประธาน ที่ระบุเหตุการณ์ที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 ว่า พบหลักฐานมีกองกำลังชุดดำใช้อาวุธสงครามโจมตีเจ้าหน้าที่บนถนนตะนาวและถนนข้าวสารบริเวณสี่แยกคอกวัวโดยใช้ระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหารจนมีทหารเสียชีวิต และจากการตรวจสอบพบว่า กองกำลังชุดดำได้รับการสนับสนุนจากการ์ดเสื้อแดงบางคน

นอกจากนี้วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรในอดีตก็เคยตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นตรวจสอบความจริงเหตุการณ์รุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิต 92 ราย ซึ่ง นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งเป็นกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงยืนยันว่า มีข้อมูลหลักฐานที่แน่ชัดชี้ว่ากองกำลังชุดดำก่อการร้ายมีอยู่จริงโดยมีรายละเอียดทุกแง่มุมในแผนก่อการร้ายที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553

ล่าสุด นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาจับโกหก นพ.เหวง โดยกล่าวว่า ตัวเองในฐานะที่เคยเป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชนของสภาผู้แทนราษฎรได้ศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชายชุดดำจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งจากการตรวจสอบปรากฏพยานหลักฐานชัดเจนว่า มีชายชุดดำใช้อาวุธสงครามยิงทหารและประชาชนจริง อาวุธสงครามของทหารถูกการ์ดกลุ่มเสื้อแดงยึดไปเป็นจำนวนมากทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนทราโว่ ปืนลูกซอง พร้อมกระสุนจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรมช.คมนาคม พรรคเพื่อแม้ว ก็ยังรับปากต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่า จะช่วยติดตามอาวุธปืนของทหารคืนให้ทางราชการ

นอกจากนี้ในคำสั่งฟ้องของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ในคดีก่อการร้ายเมื่อปี 2553 ยังปรากฏคำว่า “ชายชุดดำ” อยู่ในคำฟ้อง ทั้งยังปรากฏหลักฐานว่า นพ.เหวง ปราศรัยบนเวทีคนเสื้อแดงสดุดีชายชุดดำที่สะพานผ่านฟ้าเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.2553 โดยพยายามบิดเบือนว่า “ชายชุดดำนั้นเข้ามาตอนที่ทหารยิงประชาชนแล้ว เปรียบได้กับสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่เดินเข้าไปในซอยเปลี่ยวแล้วเห็นผู้หญิงกำลังถูกข่มขืน แล้ววิ่งเข้าไปไล่เตะโจรที่ข่มขืนเพื่อช่วยผู้หญิงคนนั้นเอาไว้”

ขณะที่ นายจตุพร ก็ปราศรัยบนเวทีเสื้อแดงยกย่องคนชุดดำในลักษณะเดียวกัน

นพ.เหวง พูดสรรเสริญชายชุดดำว่ามาช่วยประชาชนในคืนนั้น แล้วมาวันนี้กลับบอกว่าชายชุดดำเป็นการแต่งนวนิยาย ทั้งๆ ที่มีคำพิพากษาปรากฏ จึงสงสัยในจริยธรรมของการเป็นแพทย์ของนพ.เหวง และขอเรียกร้องให้แพทยสภาตรวจสอบคุณธรรมจริยธรรมและสุขภาพจิตของ นพ.เหวงว่า พูดโกหกประชาชนกลับไปกลับมาเช่นนี้สมควรที่จะเป็นแพทย์ต่อไปหรือไม่ ส่วนอาวุธสงครามที่กลุ่มเสื้อแดงยึดไปขอให้กองทัพรีบติดตามนำกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะหากยังซุกซ่อนอาวุธไว้การปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร”

เพราะฉะนั้นกองกำลังชุดดำจึงเป็นตราบาปที่จะตามหลอนและจับโกหกขบวนการเพื่อแม้วที่พยายามใช้การสร้างความปรองดองเป็นเครื่องมือกลบเกลื่อนต่อรอง ขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นธาตุแท้ขบวนการเพื่อแม้วและทำให้นึกถึงพุทธพจน์ที่ว่า“คนพูดเท็จไม่ทำชั่วเป็นไม่มี”

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment