ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/258118
วันจันทร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.
ยิ่งนานวันเหล่าพระและสาวกภายในสำนักจานบินที่พยายามขัดขวางการเข้าตรวจค้นเพื่อคุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าสำนัก ก็ยิ่งอ่อนล้าและอยู่ในภาวะใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะด้วยมาตรการบีบจากเบาไปหาหนัก ทั้งการปิดล้อมและตัดกำลังโดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเสบียงอาหารและการสื่อสาร และต่อไปอาจไปถึงการตัดน้ำตัดไฟหากยังดื้อดึงตั้งตัวเป็นรัฐอิสระปกป้องผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล
การที่ล่าสุดมีการใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเด้ง นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาประจำสำนักนายกฯนั้นมีข้อน่าสังเกตว่ามีเสียงสนับสนุนจำนวนมากและบางเสียงเห็นว่าควรย้ายมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ เพราะภาพพจน์ของนายพนม ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสงสัยกันมานานแล้วว่าเป็นคนของสำนักจานบินและระบอบแม้วจึงไม่แปลกที่พฤติการณ์ พศ.ช่วงที่ผ่านมา ส่อไปในทางให้การปกป้องดึงเกมเพื่อช่วย ธัมมชโย มาตลอด
ทั้งนี้ พศ.ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคระบอบแม้วครองเมือง ซึ่งระบอบแม้วนั้นเป็นพันธมิตรที่จับมือแนบแน่นกับสำนักจานบินมานานแล้ว โดยสองพันธมิตรถูกตั้งข้อสังเกตว่าวางแผนที่จะยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยฝ่ายหนึ่งยึดครองฝ่ายอาณาจักร ขณะที่อีกฝ่ายยึดครองศาสนจักร
หลังคำสั่งเด้ง นายพนม พ้นพศ.ก็มีคำสั่งจากผู้บริหารพศ.คนใหม่ทันทีให้พระเณรทั่วประเทศงดเดินทางร่วมชุมนุมที่สำนักจานบิน ซึ่งถือเป็นมาตรการรุกคืบตัดกำลังสำนักจานบินที่ขณะนี้มีแต่จะเข้าตาจนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหลังจากที่มีคำสั่งตามมาตรา 44 ตัดสัญญาณการสื่อสารบริเวณสำนักจานบินอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่จะต้องจับตาจากนี้ในภาวะที่สำนักจานบินกำลังใกล้จนตรอกเข้าไปทุกขณะก็คือการสู้แบบเลือดเข้าตาของขบวนการสำนักจานบิน โดยการหนุนช่วยจากขบวนการเพื่อแม้วโดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง
การเดินเกมของสำนักจานบินในช่วงหลังเห็นได้ชัดว่าพยายามบิดเบือนข้อเรียกร้องจากการปกป้อง ธัมมชโย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับของศาล มาเป็นเรื่องการที่อำนาจรัฐคุกคามศาสนา และละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการประกาศใช้มาตรา 44 ให้พื้นที่บริเวณสำนักจานบินเป็นเขตควบคุมพิเศษซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจค้นหรือดำเนินการใดๆได้โดยไม่ต้องอาศัยหมายค้นจากศาล
สำนักจานบินยังพยายามใช้แผนโลกล้อมไทยนั่นคืออาศัยสาขาสำนักจานบินทั้งในและนอกประเทศสร้างกระแส รวมทั้งการร้องเรียนต่อองค์การสหประชาชาติรวมทั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนสากล ตลอดจนพยายามจุดกระแสให้องค์กรพุทธศาสนาทั่วโลกเข้ามาแทรกแซงกดดันอำนาจรัฐไทย
แต่ดูเหมือนว่าองค์การระหว่างประเทศจะไม่เล่นตามเกมของสำนักจานบิน โดยเฉพาะการที่ก่อนหน้านี้ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรสำนักจานบิน บิดเบือนแถลงอ้างดื้อๆว่า แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล แถลงจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของสำนักจานบิน จนแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลต้องรีบออกมาแถลงปฏิเสธทันควันว่า ไม่เคยมีจุดยืนตามที่สำนักจานบินกล่าวอ้าง แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลเพียงแต่ห่วงใยและกำลังติดตามสถานการณ์ปัญหาสำนักจานบินอย่างใกล้ชิดเท่านั้น
เมื่อแผนโลกล้อมไทยส่อเค้าจุดไม่ติด ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐรู้ทันไม่ตกหลุมพรางของสำนักจานบินที่พยายามยั่วยุทุกวิถีทางเพื่อให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้กำลังจนเกิดความรุนแรงหวังใช้เป็นข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมและโหมไฟความรุนแรงให้ลุกโชนมากขึ้นจนอำนาจรัฐต้องหยุดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นรัฐอิสระสำนักจานบินเพื่อจับตัว ธัมมชโย ช่วง 10 กว่าวันที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้ความละมุนละม่อมกับพระและสาวกจานบินมาตลอด ตรงกันข้ามกลับเห็นภาพพระและสาวกจานบินแสดงพฤติการณ์ดุจอันธพาลยั่วยุและพยายามหาเรื่องชวนทะเลาะกับฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงสื่อมวลชน
ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐนอกจากรู้ทันไม่ทะเลาะด้วยแล้ว ยังเดินเกมรุกด้วยการตัดกำลัง ตัดเสบียง ตัดการสื่อสาร และอาจถึงขั้นตัดน้ำตัดไฟ ทำให้สำนักจานบินขณะนี้อยู่ในสภาพที่จนตรอกเข้าไปเรื่อย ดังนั้นทางเดียวของสำนักจานบินคือสู้แตกหักแบบเลือดเข้าตาด้วยการร่วมมือกับขบวนการเพื่อแม้ว โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่ก่อนหน้านี้ยกกำลังหลายร้อยคนมาป้วนเปี้ยนผสมโรงร่วมชุมนุมกับสาวกจานบินบริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี หน้าประตูทางเข้าสำนักจานบิน โดยแกนนำกลุ่มเสื้อแดงที่นำกำลังมาพบว่ามีใบหน้าคล้ายกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ที่เคยยกพวกถล่มยิงการชุมนุมของ กปปส. เมื่อปี 2557 จนมีแกนนำ กปปส. เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ก่อนหน้านี้ พระธรรมศักดิ์ จารุธัมโม ซึ่งบวชอยู่สำนักจานบินมานานถึง 30 ปี ออกมาแฉอย่างสุดทนเนื่องจากทนไม่ได้ที่พระผู้บริหารสำนักจานบินประชุมกันวางแผนที่จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วโยนความรับผิดชอบให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น
พระธรรมศักดิ์ ก็เหมือนพระสำนักจานบินอีกหลายต่อหลายรูปที่หันหลังให้กับสำนักจานบิน หลังพบธาตุแท้ความเลวร้ายที่ซ่อนอยู่ภายในอาณาจักรรัฐอิสระแห่งนี้
เพราะด้วยต้องจับตาอย่ากะพริบภายใต้สถานการณ์ที่เข้าตาจนของสำนักจานบินซึ่งพร้อมที่จะสู้แตกหักแบบเลือดเข้าตาด้วยการเป็นฝ่ายเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งอาจมีการสร้างสถานการณ์ร้ายแรงใส่การชุมนุมของพระและสาวกจานบินแล้วโยนความผิดให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่จากนั้นจะเดินเกมสุมไฟให้ลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติทั้งในและจากนอกประเทศ
ทีมข่าวการเมือง
