ยูเอ็นบังอาจหาเรื่องแทรกแซงไทย ให้ท้ายขบวนการหมิ่นเบื้องสูง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/255827

วันพฤหัสบดี ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นับเป็นความบังอาจเหิมเกริมอย่างยิ่งอีกครั้งเมื่อนายเดวิด เคย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ได้ทำหนังสือเรียกร้องให้ทางการไทยหยุดใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าด้วยโทษฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูงเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการปิดกั้นเสียงวิพากษ์วิจารณ์

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงและขบวนการล็อบบี้ยิสต์ผีโม่แป้งเคลื่อนไหวผ่านองค์การสหประชาชาติและนานาประเทศหวังกดดันให้ไทยยุติการใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูง แต่ยังพยายามเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่องโดยมีขบวนการหน้าเดิมๆ ในไทยเป็นตัวการชงเรื่องร้องเรียน

ยูเอ็นเอชซีอาร์อ้างเหตุผลที่เหิมเกริมและกวนโอ๊ยเป็นอย่างยิ่ง โดยต้องการคำตอบจากทางการไทยก็คือ คดีตามมาตรา 112 สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากลตรงไหน เหตุใดจึงมีการไต่สวนผู้ต้องหาทางลับสอดคล้องกับหลักสิทธิในการรับการไต่สวนอย่างเป็นธรรมอย่างไร ขอคำตอบในการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชนุภาพในการรักษาความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร กฎหมายข้อนี้เกี่ยวข้องอย่างไรกับการรักษาความอยู่รอดของประเทศหรือการปกป้องดินแดนจากการใช้กำลัง และอยากทราบว่าทางการไทยจะยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายเกี่ยวกับการเผยแพร่การแสดงความคิดเห็นทางคอมพิวเตอร์หรือไม่อย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนนานาชาติ

ท่าทีของยูเอ็นเอชซีอาร์ดังกล่าวถือเป็นความบังอาจเหยียบย่ำหัวใจคนไทยทั้งประเทศและเป็นท่าทีที่เลอะเทอะเหลวไหลเพ้อเจ้อแสดงความหยาบกร้านไม่เข้าใจมารยาททางการทูตและหลักแห่งอธิปไตยของทุกประเทศ แต่เที่ยวแทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ศึกษากฎหมาย วัฒนธรรมของไทยที่ประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์มีความผูกพันกันอย่างลึกซึ้งมาแต่โบราณกาลเกือบ 800 ปีนานยิ่งกว่าที่องค์การสหประชาชาติจะถือกำเนิดบนโลกใบนี้ยาวนานนัก

และที่สำคัญรัฐธรรมนูญของไทยทุกฉบับได้บทบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันอันเป็นที่เคารพเทิดทูนจะล่วงละเมิดมิได้ อีกทั้งพระมหากษัตริย์ยังทรงเป็นจอมทัพไทย

ด้วยเหตุนี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเพื่อสอนมวยดัดสันดานยูเอ็นเอชซีอาร์ดังนี้

1. สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยเป็นสถาบันหลักของชาติที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นประชาชนชาวไทยเคารพเทิดทูนและผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนานกว่า 700 ปีถึงปัจจุบัน ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์คงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการเป็นศูนย์รวมที่หล่อหลอมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชนในชาติ การที่ไทยหรือชาติใดๆ จะตรากฎหมายที่เหมาะสมเพื่อการปกป้องคุ้มครองสถาบันที่มีคุณุปการยิ่งต่อชาติบ้านเมืองจึงเป็นเรื่องปกติสามัญที่ชนในชาติพึงเคารพยึดปฏบัติ

2.กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือมาตรา 112 เป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายอาญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จากการกระทำฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายในลักษณะเดียวกับกฎหมายหมิ่นประมาทที่ให้ความคุ้มครองบุคคลทั่วไปเพื่อรักษาไว้ ซึ่งความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่อย่างใด นอกจากนั้นไทยยังมีความเป็นสากลในการให้ความคุ้มครองลักษณะคล้ายคลึงกันต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทของชาติอื่น รวมถึงผู้แทนของรัฐต่างประเทศประจำประเทศไทย ดังปรากฏตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 และมาตรา 134 ทั้งนี้การดำเนินคดีตามมาตรา 112 มิได้มีแรงจูงใจทางการเมืองแต่อย่างใด

3. ประเทศไทยเคารพและให้ความสำคัญกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ดีการใช้สิทธิดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อกฎหมายไม่กระทบความสงบเรียบร้อยและสันติสุขในสังคม และต้องไม่ละเมิดสิทธิหรือชื่อเสียงของผู้อื่นตามที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 19(3) ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ดังนั้นการบังคับใช้มาตรา 112 จึงไม่ได้ขัดแย้งกับกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

4.การดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมีกระบวนการพิจารณาคดีอันควรแห่งกฎหมาย(Due legal process) เหมือนกับคดีอาญาโดยทั่วไป ผู้ที่ถูกพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายดังกล่าวมีสิทธิเฉกเช่นเดียวกับความผิดอื่นๆ รวมถึงสิทธิในการอุทธรณ์และขอพระราชทานอภัยโทษ

5.สำหรับกรณีของ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ซึ่งถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น คดีดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของศาล ซึ่งเป็นกระบวนการอิสระที่รัฐบาลไม่อาจแทรกแซงได้ ทั้งนี้ นายจตุภัทร์ เคยได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2559 แต่ต่อมาถูกถอนประกันเนื่องจาก นายจตุภัทร์ ได้กระทำผิดซ้ำ ซึ่งขัดต่อเงื่อนไขการประกันตัว

นายดอน ตั้งข้อสังเกตถึงท่าทีของยูเอ็นเอชซีอาร์ที่กดดันไทยกรณีมาตรา 112 ว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มีความพยายามาตลอด แต่ลองคิดดูว่าคนไทย 67 ล้านคนไม่มีใครบ่นเรื่องมาตรา 112 มีแต่คนไม่กี่คนที่เดือดร้อนแสดงว่าเป็นขบวนการที่มีวาระซ่อนเร้น

สำหรับพฤติการณ์ของยูเอ็นเอชซีอาร์ส่อเจตนาหาเรื่องไทยโดยมีเบื้องหลังที่ไม่ชอบมาพากลแอบแฝง ดังนั้นขอให้หยุดแทรกแซงกิจการภายในและให้ท้ายขบวนการบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงของไทย มิฉะนั้นเท่ากับทำตัวเป็นศัตรูกับคนไทยทั้งประเทศและคงไม่มีประโยชน์ที่จะมียูเอ็นเอชซีอาร์ในไทยอีกต่อไป

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment