รัฐอิสระจานบินสุดเหิมเกริม ไม่ยอมรับแม้แต่ตัวแทนองค์กรสงฆ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/257761

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.

ที่ผ่านมาฝ่ายเจ้าหน้าที่โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)พยายามใช้ความละมุนละม่อมในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อตรวจค้นหวังควบคุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าสำนักจานบินมาดำเนินคดีตามกฎหมายมาตลอด แต่พฤติการณ์ของธัมมชโยและสำนักจานบินกลับส่อไปในทางตั้งตัวเป็นรัฐอิสระขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของฝ่ายเจ้าหน้าที่อันเป็นการท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

การผ่อนปรนไม่อยากให้เกิดความรุนแรงสะท้อนเห็นชัดเจนว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งถูกขัดขวางจากเหล่าพระและสาวกสำนักจานบินจนต้องยอมถอย จนมีการตรวจค้นครั้งที่สองก็เจอการต่อต้านขัดขวางเหมือนเดิมจนต้องถอยมาตั้งหลักอีกครั้งทำให้ดีเอสไอและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องถูกประชาชนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์ว่าไร้น้ำยาหรือซูเอี๋ยกับรัฐอิสระจานบิน

แต่ผู้ที่ออกมาสะท้อนจุดยืนของรัฐได้อย่างจริงใจตรงไปตรงมาก็คือ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ที่กล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ปัญหาสำนักจานบินนั้นอย่าคิดแต่จะเอาสะใจ ต้องใจเย็นๆอาจใช้เวลาบ้างไม่จำเป็นต้องรีบร้อน การที่จะให้เรื่องจบเร็วไม่ยากแต่ต้องคำนึงถึงความสูญเสียที่จะตามมาด้วย โดยเฉพาะล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ใช่การทำสงครามกับอริราชศัตรู จึงไม่อยากให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อ ต้องพยายามเจรจาสร้างความเข้าใจกัน ขณะเดียวกันก็ต้องบังคับใช้กฎหมายด้วยเช่นกัน

ท่าทีจากผู้นำกองทัพสะท้อนชัดเจนว่า รัฐเองไม่ได้มีเจตนาจ้องอาฆาตมาดร้ายคิดถล่มธัมมชโย และสำนักจานบินให้ราบคาบ แต่การที่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจค้นและตามควบคุมตัว ธัมมชโยเป็นการทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มิฉะนั้นรัฐและเจ้าหน้าที่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ธัมมชโย นั้นถูกศาลออกหมายจับในข้อหาฟอกเงินและรับของโจรคดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและรุกป่าสงวนแห่งชาติรวมทั้งที่สาธารณะสร้างเป็นสาขาสำนักจานบินในหลายจังหวัดทั่วประเทศ และเมื่อรวมกับคดีของสำนักจานบินรวมแล้วกว่า 300 คดี

ความจริงตั้งแต่ก่อนเข้าตรวจค้นสำนักจานบินครั้งแรกเมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วซึ่งขณะนั้นมีเพียง ธัมมชโยที่ถูกออกหมายจับ โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามผ่อนปรนเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายด้วยดีโดยเสนอให้ ธัมมชโย ยอมมอบตัวเพื่อต่อสู้คดีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งหากมอบตัวจะได้รับการประกันตัวทันที ซึ่งหาก ธัมมชโย เห็นแก่วงการพุทธศาสนาและความสงบของชาติบ้านเมือง และหากเป็นสงฆ์แท้ที่ละแล้วซึ่งสิ่งทั้งปวงย่อมจะต้องมอบตัวสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองอย่างสง่าผ่าเผยเยี่ยงสงฆ์ผู้หลุดพ้น ซึ่งสถานการณ์คงคลี่คลายไปแล้วตั้งแต่แรก แต่ ธัมมชโยกลับดื้อดึงตั้งแง่บ่ายเบี่ยงด้วยความเชื่อมั่นในอิทธิพลของตัวเองคิดต่อสู้กับรัฐจนสถานการณ์บานปลายตึงเครียดมาจนทุกวันนี้

พฤติการณ์ของสำนักจานบินและธัมมชโยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาตั้งตนเป็นรัฐอิสระอันทรงอิทธิพลเหนือกฎหมายมาตลอด โดยเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว ธัมมชโย เคยถูกดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์สินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวราว 1,000 ล้านบาท รวมทั้งเผยแพร่ลัทธิที่ผิดเพี้ยนจากหลักพุทธศาสนา แต่ ธัมมชโย ก็อาศัยเหล่าพระและสาวกจานบินเป็นกำแพงมนุษย์ขัดขวางการถูกควบคุมตัว จนพระผู้ใหญ่ต้องเจรจาในที่สุด ธัมมชโย ได้รับการประกันตัวและภายหลังด้วยการช่วยเหลือของรัฐบาลเพื่อแม้วยุคเรืองอำนาจทำให้อัยการถอนฟ้อง ธัมมชโย เอาดื้อๆ ทั้งๆ ที่เดิมอัยการเป็นโจทก์ฟ้องธัมมชโย ทำให้ ธัมมชโย หลุดคดีไปอย่างพลิกล็อกลอยนวล

แต่ที่สำคัญ ธัมมชโย และสำนักจานบิน แสดงความเป็นรัฐอิสระโดยไม่ยอมสึกพ้นความเป็นพระทั้งๆที่ สมเด็จพระญาณสังวรฯ อดีตสมเด็จพระสังฆราช มีพระลิขิตให้ ธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นพระตั้งแต่เมื่อปี 2542 ฐานยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิอันผิดเพี้ยนจากหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนา

ในเหตุการณ์ปัจจุบันหลังจากที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอพร้อมด้วย พระเทพรัตนสุธี เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และตัวแทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ซึ่งทำหน้าที่ตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันในฐานะประธานมหาเถรสมาคม(มส.) ที่ทรงห่วงใยต้องการให้องค์กรสงฆ์มีส่วนช่วยคลี่คลายปัญหาของสำนักจานบิน โดยเมื่อตัวแทนดีเอสไอ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีและตัวแทนพศ.เจรจากับ พระทัตตชีโว รองเจ้าสำนักจานบิน ที่ปัจจุบันคุมอำนาจสูงสุดเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในสำนักจานบินเพิ่มเติม ปรากฏว่าการเจรจาล้มเหลวสิ้นเชิงเพราะ พระทัตตชีโว แสดงท่าทีแข็งกร้าวไม่ยอมให้มีการตรวจค้น ขณะที่เหล่าพระและสาวกจานบินทั้งภายในและนอกสำนักจานบินต่างปักหลักพยายามขัดขวางเจ้าหน้าที่ทุกรูปแบบจนหลายครั้งเกิดการปะทะระหว่างสาวกสำนักจานบินกับฝ่ายเจ้าหน้าที่

การที่ พระทัตตชีโว ไม่ยอมรับแม้กระทั่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีอันเป็นตัวแทนตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชในฐานะประธานมส.เท่ากับส่อเจตนาตั้งตัวเป็นรัฐอิสระเหนือกฎหมายและไม่ยอมรับแม้แต่องค์กรสูงสุดของสงฆ์ และที่น่าวิตกก็คือแผนของสำนักจานบินที่ต้องการยั่วยุให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วใช้เป็นข้ออ้างฟ้ององค์กรระหว่างประเทศเพื่อโยนความผิดทำลายความชอบธรรมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งนับว่าอันตรายมากทั้งต่อความมั่นคงของชาติ หลักนิติรัฐ และวงการพุทธศาสนา

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment