ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/257997
วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 02.00 น.
บรรดาตัวแทนพรรคการเมืองทั้งใหญ่และเล็กราว 70 พรรค และกลุ่มพลังการเมืองต่างๆ พากันตบแถวร่วมขบวนการรถไฟเพื่อการปรองดองซึ่งจัดขึ้นที่กระทรวงกลาโหมตามเทียบเชิญของรัฐบาลที่กำกับโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกองทัพมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้การสร้างความปรองดองสำเร็จเพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศ
แผนสร้างความปรองดองครั้งนี้ดูเหมือนรัฐบาลและคสช.จะให้ความมั่นใจมากว่าจะประสบความสำเร็จโดยนอกจากตัวแทนพรรคการเมืองแล้วมีการเชิญบุคคลสำคัญในทุกวงการเข้าร่วมให้ข้อเสนอแนะ อาทิ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกฯและอดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าหรือการพัฒนา หรือ อังค์ถัด นายบัญฑูร ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารกสิกรไทยจำกัด นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพจำกัด ดร.เทียนฉาย กีระตินันท์ อดีตประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ นักวิชาการชื่อดัง
ความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาคือท่าทีของ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะท่าทีของพรรคเพื่อไทยซึ่งที่ผ่านมาส่อเจตนาตั้งแง่ส่งสัญญาณต่อรองการร่วมขบวนการสร้างความปรองดองโดยซ่อนเงื่อนไขอันเป็นเป้าหมาย
ที่แท้จริงคือ การนิรโทษกรรมแบบสุดซอยฟอกโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหุ่นเชิด ผู้เป็นน้องสาวและเป็นจำเลยสำคัญคดีโครงการรับจำนำข้าว รวมไปถึงบรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่เป็นผู้ต้องหาก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553
ในบรรดาพรรคขนาดเล็กและขนาดกลางที่ร่วมขบวนการรถไฟปรองดองที่น่าสนใจคือพรรคความหวังใหม่ที่นำโดย นายชิงชัย มงคลธรรมซึ่งเสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติหลังการเลือกตั้งเพื่อความปรองดอง ขณะที่ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) แสดงความมั่นใจว่าแผนสร้างความปรองดองครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ พร้อมกับยื่นข้อเสนอแนวทางสร้างความปรองดอง 7 ข้อคือ 1.ช่วงเลือกตั้งทุกพรรคต้องลงสมัครรับเลือกตั้งไม่มีการบอยคอตต์ไม่ลงเลือกตั้ง 2.ทุกพรรคต้องปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตเป็นธรรม 3.ทุกพรรคต้องช่วยกันคัดคนดีๆ มีความารู้ความสามารถมาทำงานให้ประชาชน รวมถึงเสนอนโยบายที่เหมาะสม 4.ทุกพรรคต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง 5.เมื่อจัดตั้งรัฐบาลอยากเห็นการทำงานร่วมกันตามบทบาทหน้าที่อย่างสร้างสรรค์ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน 6.อยากให้ทุกพรรคลืมอดีตความขัดแย้งให้อภัยกันแล้วคิดถึงส่วนรวมด้วยการลดเงื่อนไขต่างๆ 7.หากในอนาคตเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองใดๆ วิธีที่ดีที่สุดคือนำประเด็นความขัดแย้งมาอยู่ในเวทีสภาผู้แทนราษฎรโดยใช้
หลักการประชาธิปไตย
จากท่าทีของพรรคการเมืองส่วนใหญ่ดูเหมือนมุ่งแต่ต้องการให้มีการเลือกตั้งและแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือเลื่อนลอยมากกว่าที่จะพูดถึงการปฏิรูปละลายพฤติกรรมอันเลวร้ายของตัวเองซึ่งเป็นต้นตอสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาธิปไตยต้องสะดุดล้มลุกคลุกคลานจากการยึดอำนาจนั่นคือ พฤติกรรมของระบอบธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมที่เต็มไปด้วยการทุจริตคอร์รัปชั่น ซื้อ สส. ซื้อเสียง ซื้อประเทศ ซื้อประชาธิปไตยเพื่อให้ได้อำนาจรัฐเป็นรัฐบาลจากนั้นโกงชาติปล้นแผ่นดินถอนทุนบวกกำไรมหาศาลเพื่อใช้เป็นทุนยึดครองประเทศอย่างยาวนานจนทำให้มวลมหาประชาชนออกมาขับไล่รัฐบาลชั่วร้ายในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมกลายเป็นวิกฤติความรุนแรงจนถึงทางตันทำให้กองทัพต้องออกมายึดอำนาจกลายเป็นวังวนของวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด
จากแผนสร้างความปรองดองที่ผลักดันโดยคสช.ครั้งนี้ถือเป็นไฟท์บังคับที่เหล่าพรรคการเมืองและกลุ่มพลังการเมืองต่างๆ ยากจะปฏิเสธ เพราะทุกพรรคการเมืองต่างตกงานมานานเกือบ 3 ปี จึงมุ่งมั่นอยากให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด อีกทั้งเหล่านักลากตั้งทั้งหลายจำเป็นต้องโหนขบวกรถไฟเพื่อความปรองดองเที่ยวนี้ เพราะหากปฏิเสธเท่ากับสูญเสียความชอบธรรมจากการถูกมองว่าเป็นตัวถ่วงขัดขวางการเดินหน้าสร้างความปรองดองและทำตัวสวนทางกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจนอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
ทีมข่าวการเมือง
