จับตาสาวกจานบินอยู่ในอันตราย อาจเป็นศพต่อไปถูกใช้เป็นเหยื่อปลุกระดม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/258694

วันศุกร์ ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2560, 02.00 น.

หนึ่งในภาษิตจีนมีว่า “วิกาลยิ่งยาวนาน ฝันยิ่งยุ่งเหยิง” ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันกรณีที่อำนาจรัฐพยายามที่จะจับกุมธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิจานบินที่ยังคงยืดเยื้อมานาน 2 สัปดาห์ และมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไปอย่างไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะจบลงอย่างไร ทั้งๆ ที่มีการประกาศใช้มาตรา 44 ให้พื้นที่รอบสำนักจานบินเป็นเขตควบคุมพิเศษ ขณะที่ฝ่ายที่ทำผิดกฎหมายกลับยังคงทำตัวเป็นรัฐอิสระท้าทายอำนาจรัฐเย้ยกฎหมาย ไม่สนใจองค์กรสูงสุดของสงฆ์อย่างมหาเถรสมาคม(มส.) ซ้ำยังพยายามโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนสร้างสถานการณ์ให้เกิดความระส่ำระสายในบ้านเมืองเข้าข่ายบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ

นี่ขนาดใช้มาตรา 44 ก็ยังเอาไม่อยู่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลฤทธิ์เดชของสำนักจานบินที่ฝังรากลึกในแทบทุกองคาพยพของประเทศ แม้แต่ในหน่วยราชการทั้งสีกากีและสีเขียว ไม่อย่างนั้นพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คงไม่ถึงกับออกปากอย่างเหนื่อยใจว่า การที่ปัญหาจับ ธัมมชโย ยืดเยื้อมาจนวันนี้ก็เพราะมีคนสีกากีเป็นหนอนบ่อนไส้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเด้งผู้กำกับสภ.อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หรือไม่คงต้องคิดกันเอาเอง การที่สำนักจานบินทรงอิทธิพลเหนือกฎหมายมาได้จนทุกวันนี้สอดคล้องกับภาษิตจีนอีกบทหนึ่งที่ว่า “เงินสามารถแม้แต่จ้างผีให้โม่แป้ง”

หรือแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยังพูดทีเล่นทีจริงว่า นี่ขนาดใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาสำนักจานบิน แต่ก็ยังมีการต่อต้านขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจค้น หากเป็นเช่นนี้สงสัยต้องใช้มาตรา 88ที่เข้มข้นเป็นสองเท่า

การที่สำนักจานบินยังแสดงความเหิมเกริมท้าทายอำนาจรัฐ ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย และไม่ใส่ใจแม้แต่ มส. ก็เพราะถือดีว่ามีพันธมิตรที่แนบแน่นอย่างขบวนการเพื่อแม้วคอยให้ท้ายในการสู้กับอำนาจรัฐ ซึ่งนอกจากอดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว ดาหน้าออกมาปกป้อง ธัมมชโย โจมตีอำนาจรัฐแล้ว ยังมีอดีตสส.และกลุ่มเสื้อแดงร่วมชุมนุมกับพระและสาวกจานบินเพื่อขวางการจับ ธัมมชโย

อย่างออกหน้าออกตา อาทิ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันทน์และ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ สองอดีต สส.เพื่อแม้วโดยเฉพาะ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ก่อนหน้านี้ถูกจับกุมพร้อมเสื้อเกราะ 2 ตัว และอาวุธมีดอีกหลายเล่ม รวมทั้งแผ่นโปสเตอร์ข้อความปกป้อง ธัมมชโย บ่อนทำลายอำนาจรัฐ

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า กลุ่มอดีตนักการเมืองและกลุ่มเสื้อแดงราว 30-40 คน เตรียมเข้าร่วมกับสำนักจานบินเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความระส่ำระสายในบ้านเมือง ซึ่งล่าสุดมีการออกหมายเรียกกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ หลายคนเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เพราะมีหลักฐานว่าพยายามปลุกปั่นยุยงให้เกิดการกระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ

เพราะฉะนั้นขณะนี้อำนาจรัฐไม่ได้ต่อสู้กับสำนักจานบิน แต่สู้กับขบวนการพันธมิตรที่มีทั้งกลุ่มการเมืองและนายทุนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังสำนักจานบินอันทรงอิทธิพลที่พร้อมจะเปิดศึกขั้นแตกหักแบบไม่มีอะไรจะเสียเพราะทั้งสำนักจานบินและขบวนการเพื่อแม้วขณะนี้ต่างอยู่ในภาวะหลังพิงฝารอการล่มสลายด้วยกันทั้งคู่

สถานการณ์จากนี้ไปจึงต้องจับตาอย่ากะพริบเพราะจะแหลมคมและดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการสร้างสถานการณ์จากขบวนการป้อง ธัมมชโย ที่วางแผนทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายแล้วโยนความผิดให้อำนาจรัฐเหมือนเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองเมื่อปี 2553

เหตุการณ์ล่าสุดที่ น.ส.พัฒนา เชียงแรง สาวกจานบินเสียชีวิตด้วยโรคหอบหืด ภายในสำนักจานบินมีความพยายามที่จะบิดเบือนจาก พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส และ พระนพพร ปัญญชโยสองกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อสำนักจานบิน ว่าเป็นเพราะมาตรา 44 และฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ยอมให้รถกู้ชีพเข้ามาช่วยเหลืออย่างทันเวลาทำให้ น.ส.พัฒนา เสียชีวิต

ขณะที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมืองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รู้ทันเกมป้ายผิดของสำนักจานบินจึงออกมาแถลงจับโกหกทันควันว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ประสานขอรถพยาบาลกู้ชีพเข้าไปภายในสำนักจานบินทันทีหลังได้รับแจ้ง และเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุมีตำรวจสภ.อ.คลองหลวง เจ้าของคดีและแพทย์กำลังชันสูตรพลิกศพอยู่ก่อนแล้ว โดยจากการสอบถามแพทย์ผู้ชันสูตรศพระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง นั่นแสดงว่าภายในสำนักจานบินดึงเกมไว้หลายชั่วโมงทั้งๆที่รู้ว่าคนตายแล้วจึงสร้างสถานการณ์ทำทีเป็นแจ้งให้เจ้าหน้าที่ส่งหน่วยกู้ชีพไปช่วย จากนั้นก็บิดเบือนว่าเจ้าหน้าที่ไปช่วยไม่ทันเวลา ทำให้ น.ส.พัฒนาเสียชีวิต

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ยังชี้พิรุธว่าหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินชุดแรกซึ่งไปถึงตึกซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุกลับพบว่าประตูถูกล็อกทุกด้านทำให้เจ้าหน้าที่ต้องพังประตูเข้าไปจนพบว่าน.ส.พัฒนา เสียชีวิตแล้ว

ทันทีหลังการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา สำนักจานบิน ส่อเจตนาโหนศพคนตายเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อทันที โดยการชูประเด็นว่าศพที่ 2 แล้วจากการประกาศใช้มาตรา 44 หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดเหตุชายชราซึ่งเป็นโรคซึมเศร้าแขวนคอตายเพื่อให้ยกเลิกมาตรา 44 เกมหากินกับศพ น.ส.พัฒนา ของสำนักจานบิน ถูกตั้งข้อสังเกตว่าคล้ายคลึงกับการเสียชีวิตอย่างปริศนา 6 ศพ ในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์ก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมือง ปี 2553 โดยมีการโยนความผิดว่าเป็นฝีมือของฝ่ายเจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่พื้นที่วัดปทุมวนารามก่อนเกิดการฆาตกรรมหมู่อยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มเสื้อแดง ขณะที่ฝ่ายทหารยังไม่ได้เข้ากระชับพื้นที่

สำนักจานบินนอกจากส่อพฤติการณ์บิดเบือนการตายของ น.ส.พัฒนา แล้วยังโหนศพคนตายกลบเกลื่อนผู้ที่เป็นต้นเหตุซึ่งต้องรับผิดชอบอย่างแท้จริงนั่นคือ ธัมมชโย ซึ่งหากยอมมอบตัวตั้งแต่แรกก็คงไม่เกิดเหตุการณ์ 2 ศพ

แต่ที่น่าวิตกก็คือสำนักจานบินและพันธมิตรนั้นพร้อมที่จะใช้สารพัดวิชามารเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เพราะฉะนั้นเหล่าสาวกจานบินขอให้ระวังตัวให้ดีเพราะตกอยู่ในอันตรายเพราะอาจกลายเป็นเหยื่อสร้างสถานการณ์รายต่อไปตามแผนทรมานสังขารเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสุมไฟให้เกิดการลุกฮือประท้วงรัฐคล้ายบทเรียนเหตุการณ์ 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ของพวกเดียวกันเอง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment