ดื้อด้านไปใครได้เสีย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ทีมข่าวการเมือง 19 ม.ค. 2560 05:01

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/839054

ครู “แพะ” หรือครู “แกะ” กลายเป็นวาระระดับชาติไปแล้ว

เมื่อคนระดับ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ยังต้องออกมาร่วมวงเสวนา

ประเด็นปัญหาของอดีตข้าราชการครูที่ต้องติดคุกเพราะโดนข้อหาขับรถชนคนตาย แต่ภายหลังมีการพลิกคดีว่าเป็นแพะติดคุกฟรี

เพราะฝีมือการทำสำนวนของตำรวจ

โดยให้ยึดหลัก คนเราต้องพูดด้วยหลักฐานและกฎหมาย อย่าพูดด้วยความรู้สึก

เรื่องของเรื่อง คดีครูแพะส่อเค้าสถานการณ์ไหลลึก เมื่อตำรวจไล่บี้เป็นครูแกะ อยู่ในขบวนการดิสเครดิต “ตบหน้า”

วงการสีกากี และกำลังลามเป็นชนวนศึกระหว่างตำรวจกับกระทรวงยุติธรรมโดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ต่อจิ๊กซอว์โยงไปถึงเครือข่ายขบวนการลุยปฏิรูปใหญ่ตำรวจ

มหากาพย์รามเกียรติ์ไม่จบง่ายๆแน่

แต่เบื้องต้นเลย นี่คือ ปรากฏการณ์ที่สะท้อนอิทธิพลของโลกโซเชียลมีเดีย ที่ครอบงำ “จริต” ของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่นิยมเสพข้อมูลสั้นๆอ่านข่าวอย่างผิวเผิน

อิงความรู้สึกส่วนตัวในการตัดสินโดยไม่ยึดถือข้อเท็จจริง

เกิดเป็นกระแสร้อนๆพวกที่เชื่อครู “แพะ” กับฝ่ายที่ติดใจครู “แกะ” แบ่งข้าง

วิจารณ์ด่ากันแหลกในโลกออนไลน์ ลักษณะเดียวกับหลายๆประเด็นก่อนหน้าที่

พวกเสพข้อมูลโลกโซเชียลจุดชนวนขัดแย้งให้ปะทุขึ้นเป็นกระแสสังคม

ตามอารมณ์แบบนี้ย่อมไม่ส่งผลดีแน่นอน

โดยเฉพาะกับเงื่อนสถานการณ์ที่กำลังเข้าสู่โหมดปรองดอง แนวโน้มต้องเจอแรงหน่วงจากพวกที่มีความคิดอิงแอบอยู่กับแกนนำหัวขั้วขัดแย้ง ฝังใจอยู่กับสีเสื้อ เลือกเชื่อในตัวของผู้นำจิตวิญญาณมากกว่าจะประเมินสถานการณ์บนพื้นฐานข้อเท็จจริง

สิงสถิตอยู่ในโลกโซเชียล กดแชร์ กดไลค์ โดยไม่สนอะไร

มองในมุมนี้ ก็หมายถึงท่าทีของ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำขาใหญ่ กปปส. ที่ประกาศแต่หัววันไม่ร่วมลงนามใน “เอ็มโอยูปรองดอง” ที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมปรองดองของรัฐบาล คสช.โยนธงออกมา

ย่อมมีผลต่อสถานการณ์ของฝ่ายแนวร่วม กปปส.

เช่นเดียวกับที่มีการอ้างแหล่งข่าวคนใกล้ชิดอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่ตั้งแง่กังขาในเรื่องความจริงใจของรัฐบาลทหาร คสช. ที่จะสร้างความปรองดอง ทำไมจึงเพิ่งจะมาดำเนินการในช่วงที่ใกล้จะถึงโรดแม็ป หรือเป็นเพราะหวังยื้อการเลือกตั้งให้ช้าออกไป

นี่ก็คงกระตุกลูกข่าย “นายใหญ่” ให้ฝั่งกลุ่มเสื้อแดงเกิดความระแวง

โหมไฟขัดแย้งกันต่อไปในโลกโซเชียล ฝั่งใครฝั่งมัน

ยังไม่ทันเริ่มตั้งไข่ ปรองดองส่อเค้าล่มปากอ่าวตามฟอร์ม

แต่อย่างไรก็ตาม ประเมินสัญญาณคลื่นความถี่ในการปรองดองรอบนี้ต่างจากทุกครั้ง

จากอาการเอาจริงเอาจังของรัฐบาล คสช. เล่นเกมเร็วตามสไตล์ทหาร ผ่านไปไม่กี่วัน ตอนนี้คณะกรรมการการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) กำเนิดเป็นรูปเป็นร่าง

เช่นเดียวกับคณะกรรมการอำนวยการเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ของฝ่ายกลาโหม ก็มีชื่อทีมงานครบ พร้อมรูปแบบโครงสร้างการทำงานที่ชัดเจน

เป็นอะไรที่สะท้อนความจริงใจของทหาร ชัดเจนกว่าข้อครหาที่ว่า คสช.เดินมุกปรองดองแบบขายผ้าเอาหน้ารอดตามที่รับปากไว้ในการยึดอำนาจ

ประกอบกับปัจจัยเสริมสำคัญนั่นคือ บรรยากาศพระราชพิธีสำคัญทางประวัติศาสตร์

ในอาการแนวร่วมม็อบล้าอ่อนแรง นักการเมืองก็โหยหาเลือกตั้ง

ตามแนวโน้มสถานการณ์ฝ่ายคุมเกมอำนาจ “จ่ายยาแรง” ห้วงเวลาสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศ ถ้าแกนนำหัวขั้วอำนาจยังสนุกกับธุรกิจค้าความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์

ก็มีลุ้นไปนั่งปรับความเข้าใจกันในเรือนจำ

ขณะที่ทหาร คสช.ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากมาย ตราบใดที่นักการเมืองยังไม่เข้าโหมดปรองดอง อำนาจพิเศษก็ยื้อออกไปได้อย่างชอบธรรม

ยึกยักดื้อด้านไป ใครได้ใครเสียก็เห็นๆอยู่.

ทีมข่าวการเมือง

 

Leave a comment