ลัทธิจานบินถ้าเป็นพุทธจริง ต้องไม่บิดเบือนป้องโจรหนีหมายจับ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/creative/258565

วันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ถ้าจะทำโพลล์วัดปฏิกิริยาของมหาชนว่าพระรูปไหนที่ประชาชนเบื่อหน้าที่สุดขณะนี้เชื่อได้เลยว่า พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร สำนักจานบินซึ่งออกมาจ้อเป็นกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อรายวันน่าจะได้แชมป์จากเสียงด่าท่วมท้น

พฤติการณ์ที่ผ่านมา ซึ่งส่อไปในทางโฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนของ พระสนิทวงศ์ หลายคนถึงขนาดตั้งข้อสังเกตว่าหลุดพ้นจากสถานะความเป็นพระไปแล้ว

อย่างกรณีที่มีการขี้นป้ายขนาดใหญ่บนหอคอยสูงภายในสำนักจานบินด้วยข้อความว่า “We need food”และต่อมาก็เปลี่ยนเป็น “We need food & drug” เมื่อบรรดานักข่าวไปถาม พระสนิทวงศ์ ได้รับคำตอบแบบเล่นลิ้นว่า “ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร” พร้อมกล่าวว่าได้สั่งให้คนไปเอาป้ายออกแล้ว แต่พอคล้อยหลังสื่อไม่นานก็มีการนำป้ายข้อความเดิมขึ้นไปติดบนหอคอยสูงอีก

การที่อ้างว่าไม่รู้เป็นฝีมือใครแม้แต่เด็กอมมือก็ยังรู้ว่าจริงหรือโกหก เพราะพื้นที่ภายในสำนักจานบินขณะนี้ก็รู้กันอยู่ว่า ถูกควบคุมโดยเหล่าพระและสาวกจานบินจำนวนนับพันคนที่ตั้งป้อมไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นเพื่อจับ ธัมมชโย อดีตเจ้าลัทธิจานบิน ที่เชื่อกันว่ายังหนีหมายจับหลบซ่อนอยู่ในห้องลับใต้ดินของอาคาร 100 ปี แม่ชีจันทร์ หางนกยูง เพราะฉะนั้นคงไม่มีพวกสารเลวที่ไหนสามารถนำป้ายขึ้นไปติดบนหอคอยสูงโดยที่พระและสาวกจานบินไม่มีส่วนรู้เห็น และด้วยข้อความบนป้ายก็บอกชัดอยู่แล้วว่าใครทำเพื่อเป้าหมายอะไร

ก่อนหน้านี้ พระสนิทวงศ์ ยังส่อเจตนาบิดเบือนอ้างว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ปิดล้อมไม่ยอมให้นำอาหารเข้าไปภายในสำนักจานบินซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งๆที่ความจริงไม่ได้มีการห้ามนำอาหารเข้าไปภายในสำนักจานบินแต่อย่างใดทั้งสิ้น โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่ร่วมกับตัวแทนฝ่ายสงฆ์มีการให้นำอาหารเข้าไปภายในสำนักจานบินเท่าที่จำเป็นป้องกันการกักตุนเพื่อระดมพระและสาวกเข้าไปภายในสำนักจานบินเพื่อต่อต้านการเข้าตรวจค้นของฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งเสี่ยงที่จะนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรง

พระสนิทวงศ์ยังอ้างว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจค้นสำนักจานบินอย่างละเอียดแล้ว แต่กลับไม่ยอมยกเลิกมาตรา 44 ที่กำหนดให้พื้นที่รอบสำนักจานบินเป็นเขตควบคุมพิเศษและเลิกปฏิบัติการตรวจค้นเสียที ทั้งๆที่ความจริงพื้นที่อาณาจักรรัฐอิสระจานบินครอบคลุมอาณาบริเวณถึงกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจค้นได้อย่างละเอียด แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจ
ฝ่าย เจ้าหน้าที่เดิมพันด้วยการขอตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยว่า ธัมมชโย และพวกหลบซ่อนตัวอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งหากไม่พบอะไรก็พร้อมที่จะยุติการตรวจค้นและยกเลิกมาตรา 44 แต่เหล่าพระและสาวกจานบินกลับขัดขวางส่อพิรุธเหมือนซ่อนความลับอะไรอยู่

สาวกคนสำคัญของสำนักจานบินอีกคนหนึ่งที่ส่อพฤติการณ์บิดเบือนก็คือ ดร.ลีลาวดี วัชโรบล อดีตสส.พรรคเพื่อแม้ว ที่ล่าสุดโพสต์ข้อความว่า “ลีเดินทางไปต่างประเทศมาหลายประเทศ เวลาที่โดนต่างชาติถามว่าประเทศยูใช่ไหมที่นายกรัฐมนตรีทำกับข้าวออกทีวีแล้วโดนไล่ออก ตอนนั้นได้แต่ทำตาปริบๆ ตอบในใจไปว่า“Thailand Only คะ” มาวันนี้ถ้ามีต่างชาติมาถามว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธจริงรึ หรือเมืองไทยเป็นศูนย์กลางชาวพุทธทั่วโลกจริงรึ บอกตรงๆ นะคะไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไงดีกับคำสั่งมาตรา 44 ของคสช. แล้วพวกอ้างตัวว่าเป็นพุทธแท้ทั้งหลายคะ มีคำสอนตรงไหนของชาวพุทธที่สอนให้ขาดเมตตา ปิดกั้นพระเณรไม่ให้เข้าออกวัดของเขา วัดพระธรรมกายเป็นวัดในพระพุทธศาสนาคือบ้านของพระเณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชนชาวพุทธ พวกท่านมีสิทธิ์อะไรมาไล่เจ้าของออกจากบ้าน แล้วผู้นำประเทศที่ขาดจิตสำนึกให้ความเคารพพระรัตนตรัยเช่นนี้ ออกจากแผ่นดินไทยไปเตรียมคำตอบให้ชาวพุทธทั่วโลกด้วยนะคะ หรือเพราะนี่คือ Thailand Only จริงๆคะ”

จากข้อความของสาวกคนสำคัญของลัทธิจานบินดังกล่าว ดร.ลีลาวดี แกล้งหรือสมองไม่มีหยักกันแน่ เพราะล่าสุดองค์กรระหว่างประเทศ และองค์กรชาวพุทธโลก ต่างไม่เล่นด้วยเพราะรู้ทันเกมชักศึกเข้าบ้านใช้โลกล้อมไทยของสำนักจานบินเนื่องจากรู้ว่าปฏิบัติการของฝ่ายเจ้าหน้าที่ครั้งนี้เป็นการจับโจรที่หนีหมายจับที่ออกโดยศาล

และหาก ดร.ลีลาวดี อยากรู้ว่า ธัมมชโย และสำนักจานบินเป็นพระและวัดตามพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง หรือเป็นลัทธิลวงโลกให้กลับไปทบทวนพระลิขิตของ สมเด็จพระญาณสังวร อดีตสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน ตั้งแต่เมื่อปี 2542 ที่ระบุชัดเจนให้ ธัมมชโย ปาราชิกพ้นความเป็นพระเพราะยักยอกเงินวัดมาเป็นสมบัติส่วนตัวและเผยแพร่ลัทธิอันผิดเพี้ยนจากพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างร้ายแรง

หรือไม่ก็ไปศึกษาความเห็นของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ประยุทธ์ ประยุทธโต ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์สำนักจานบินอย่างตรงไปตรงมาว่า เป็นลัทธิที่ทำให้พุทธศาสนาวิปริตโดยพยายามชักจูงให้คนทั่วไปเข้าใจว่า บุญเหมือนสินค้าชนิดหนึ่งและสามารถก่อให้เกิดปาฏิหาริย์ต่างๆนานาซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติและพระพุทธศาสนา

ส่วนที่ ดร.ลีลาวดี อ้างเรื่องความเมตตาและอ้างว่าเหล่าโล้นห่มเหลืองและสาวกจานบินที่รวมตัวกันขวางเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ภายในสำนักจานบินเหมือนเจ้าของบ้านที่กำลังถูกไล่ออกจากบ้านนั้นเป็นการบิดเบือนเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งความจริงก็คือ ธัมมชโย เป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับที่ออกโดยศาล ฝ่ายเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจค้นสำนักจานบินเพื่อตามจับ ธัมมชโย มิฉะนั้นเท่ากับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมา ตั้งแต่เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วในการเข้าตรวจค้นสำนักจานบินเพื่อจับกุม ธัมมชโย ครั้งแรก ฝ่ายเจ้าหน้าที่พยายามใช้ความละมุนละม่อมหาทางคลี่คลายปัญหาแบบรอมชอมโดยเสนอเงื่อนไขว่า หาก ธัมมชโย ยอมมอบตัวแต่โดยดีก็จะให้ประกันตัวทันที แล้วไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาล แต่ธัมมชโย กลับถือดีในอิทธิพลของสำนักจานบินที่ทำตัวดุจรัฐอิสระเหนือกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐไม่ยอมมอบตัว ซ้ำใช้พระและเหล่าสาวกตั้งเป็นกำแพงมนุษย์ปักหลักสู้อำนาจรัฐมาจนกระทั่งปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาชวนเชื่อบ่อนทำลายอำนาจรัฐให้ข้อมูลที่บิดเบือนทั้งผ่านกระบอกเสียงสำนักจานบินและทางโซเชียลมีเดีย

เพราะฉะนั้นหากสำนักจานบินยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนของพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ต้องไม่โฆษณาชวนเชื่อบิดเบือนลวงโลก ทั้งนี้ปรัชญาคำสอนของพุทธศาสนาระบุว่า คนโกหกลวงโลกไม่ทำชั่วเป็นไม่มี หรือคนที่ช่วยเหลือสนับสนุนคนเลวก็ไม่ต่างอะไรกับทำเลวเสียเอง

ทีมข่าวการเมือง

Leave a comment