ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/creative/260724
วันศุกร์ ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
บรรดาแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปร่วมเวทีเสนอความเห็นเพื่อสร้างความปรองดองที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นธาตุแท้ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงนั้นคือส่อเจตนาเล่นลิ้นตะแบงบิดเบือนและไม่จริงใจที่จะสร้างความปรองดองด้วยการเสนอข้อเรียกร้องที่เป็นไปไม่ได้
10 แกนนำเสื้อแดงที่ร่วมเวทีเสนอแนวทางสร้างความปรองดองนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มเสื้อแดง นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานกลุ่มเสื้อแดง นพ.เหวง โตจิราการ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มเสื้อแดง นายนิสิต สินธุไพร นายธนาวุฒิ วิชัยดิษฐ นายศักดิ์ระพี พรหมชาติ นายอารี ไกรนรา นายก่อแก้ว พิกุลทอง และ นายเกริกมนตรี รุจโสตถิพัฒน์
แกนนำกลุ่มเสื้อแดงใช้สารพัดวาทกรรมสำนวนโวหารแบบฝ่ายซ้ายในอดีตอ้างข้อเสนอเกือบ 20 หน้า อาทิ การปรองดองจะเกิดได้ด้วยการสร้างประชาธิปไตยซึ่งสาเหตุของความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ในสังคมอันยาวนานนั้นเกิดจากความขัดแย้งหลักระหว่างผู้ปกครองในคณะรัฐประหารกับผู้ถูกปกครองที่ต้องการระบอบประชาธิปไตย ส่วนความขัดแย้งรองเกิดจากการแย่งชิงผลประโยชน์และอำนาจของชนชั้นนำในฝ่ายอนุรักษ์นิยมและทั้งฝ่ายนักการเมืองจากการเลือกตั้งกับพรรคอนุรักษ์นิยมด้วยกันเอง สิ่งสำคัญคือเมื่อชนชั้นนำและพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมยังปรับตัวไม่ทันกับระบอบเสรีประชาธิปไตยและยังไม่ได้ชัยชนะในกติกาประชาธิปไตยจึงร่วมมือกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมอื่นๆ รวมทั้งกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจเสมอมา
สารพัดข้ออ้างแบบตีขลุมของกลุ่มเสื้อแดงเจตนาที่จะบอกว่า ตัวเองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบอบแม้วคือฝ่ายประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยถูกปล้นโดยฝ่ายที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยถือเป็นการส่อเจตนาบิดเบือนปกปิดอำพรางตัวตนที่แท้จริงของระบอบแม้ว ซึ่งเป็นต้นตอหลักของความแตกแยกในชาติตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมานั้น จากการที่ระบอบแม้วซึ่งเป็นธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งเมื่อเป็นรัฐบาลใช้อำนาจทำสิ่งชั่วร้ายตามใจชอบอย่างย่ามใจ ทั้งโกงชาติปล้นแผ่นดินทุจริตคอร์รัปชั่นมโหฬาร และพยายามผูกขาดอำนาจยึดครองประเทศอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในระยะยาวถึงขั้นคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศเป็น “รัฐไทยใหม่”ระบอบธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมอาศัยอำนาจรัฐและผลประโยชน์รูปแบบต่างๆ ซื้อพรรคการเมือง ซื้อสส. ซื้อเสียง ซื้อประชาธิปไตย ซื้อประเทศ ขณะเดียวกันพยายามแทรกแซงผลักดันคนของตัวเองเข้าไปยึดครององค์กรอิสระเพื่อรักษาผลประโยชน์ปกปิดความชั่วร้ายของตัวเอง ขณะเดียวกันมีความพยายามบ่อนทำลายสถาบันเบื้องสูงจนทำให้มวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่กลายเป็นวิกฤตการณ์จนเป็นชนวนให้กองทัพต้องยึดอำนาจในที่สุด
สำหรับพรรคเพื่อแม้วนั้นก็เป็นแค่พรรคตระกูลชินซึ่งเหล่าสส.เป็นแค่พนักงานบริษัทหาใช่ตัวแทนปวงชนอย่างแท้จริง โดยการตัดสินใจทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าของบริษัทเพียงคนเดียว
นอกจากนี้ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาศัยพวกมากหักดิบลักหลับผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่มีเป้าหมายแอบแฝงลบล้างโทษความผิดให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุกคดีทุจริต เพื่อให้กลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกตามคำพิพากษาศาลอันเป็นการทำลายหลักนิติรัฐอย่างสิ้นเชิงจนเป็นชนวนให้มวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมแสดงพลังต่อต้านและขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบแม้วครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ถึงเกือบ 10 ล้านคน และนำไปสู่การรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ในที่สุด
จากพฤติการณ์ของระบอบแม้วทั้งหมดที่กล่าวมาตรงกันข้ามกับระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงอย่างสิ้นเชิง แม้แต่กลุ่มเสื้อแดงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบอบแม้วที่ผ่านมาเคยใช้ความรุนแรงสร้างสถานการณ์ก่อจลาจลทั่วกทม. บุกกระทรวงมหาดไทยหมายสังหารผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้งและบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอาซียนและผู้นำชาติมหาอำนาจคู่เจรจาที่พัทยาเมื่อปี 2552 รวมทั้งร่วมก่อการร้ายเผาบ้านทำลายเมืองในปี 2553 จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก อีกทั้งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงเคยประกาศจุดยืนคิดเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศเป็นรัฐไทยใหม่ด้วยแก้ว 3 ประการคือพรรคการเมืองอันได้แก่ พรรคเพื่อแม้ว มวลชนคือกลุ่มเสื้อแดง และกองกำลังติดอาวุธใต้ดิน ซึ่งพฤติการณ์ทั้งหมดตรงกันข้ามกับระบอบประชาธิปไตยที่กลุ่มเสื้อแดงพยายามอ้างอย่างสิ้นเชิง
กลุ่มเสื้อแดงนอกจากส่อเจตนาบิดเบือนอ้างตัวเป็นฝ่ายประชาธิปไตยแล้วยังยื่นเงื่อนไขในลักษณะหาเรื่องตีรวนด้วยการเรียกร้องให้คสช.เลิกมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว รวมทั้งยกเลิกคำสั่งและประกาศของคสช.ทั้งหมด จน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ออกมาสวนกลับว่าเป็นไปไม่ได้
ทั้งนี้นับตั้งแต่คสช.เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ได้ออกคำสั่ง ประกาศ และใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาของประเทศมาแล้วมากมาย จนบ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย และหลายเรื่องเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรและคนยากจน อาทิ คำสั่งให้จ่ายเงินค่าจำนำข้าวมูลค่ามหาศาลซึ่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ค้างจ่ายชาวนาทั่วประเทศ หรือการทำให้คดีทุจริตสำคัญเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ดังนั้นการที่กลุ่มเสื้อแดงเสนอแนวคิดที่ส่อเจตนาบิดเบือนและเป็นไปไม่ได้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเหมือนเป็นการกดดันตีรวนมากกว่าความจริงใจที่จะปรองดองในภาวะที่คนของตระกูลชินอยู่ในสถานหลังพิงฝาจากคดีทุจริตต่างๆ ที่กำลังทยอยนับถอยหลังสู่การชี้ชะตาโดยเฉพาะคดีโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์และพวกเป็นจำเลยคนสำคัญ รวมทั้งสดๆ ร้อนๆ ก็คือคดีเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ปอเรชั่นที่อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างเมื่อคดีจะหมดอายุความในสิ้นเดือนนี้ แต่ถูกรัฐบาลชุดนี้รื้อฟื้นเพื่อเก็บภาษีกว่า 1 หมื่นล้านบาทจากคนตระกูลชินอันเป็นการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน
ทีมข่าวการเมือง
