ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/197751
วันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้ เป็นวันคล้ายวันพิราลัยของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในรัชกาลที่ 5 สามัญชนผู้สร้างคุณูปการให้กับแผ่นดินมากมายซึ่งทุกปีนั้นมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาฯได้จัดงานรำลึกแสดงกตัญญุตาถึงสมเด็จเจ้าพระยาฯ เจ้าของสถานที่ผู้เป็นศูนย์รวมใจของสถาบันฯ เพื่อให้บุคคลแห่งสกุล “บุนนาค”และศิษย์ ”ลูกสุริยะ” ทุกคนได้น้อมเคารพนับถือและตั้งใจที่จะประกอบคุณความดีทั้งปวง สร้างความสามัคคีอันดีต่อกันเพื่อเทิดทูนเกียรติคุณแห่งสมเด็จเจ้าพระยาฯตลอดไป

อนุสาวรีย์สมเด็จเจ้าพระยาฯ

เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์

สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ผู้นี้สมรสกับท่านผู้หญิงกลิ่น มีบุตรและธิดารวมกัน 4 คน บั้นปลายชีวิตของท่านมักจะพักอยู่ที่เมืองราชบุรี ในระหว่างการเดินทางนั้นท่านได้ถึงแก่พิราลัยด้วยโรคลมบนเรือที่ปากคลองกระทุ่มแบน ราชบุรี เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2425รวมอายุ 74 ปี สำหรับชีวประวัติของท่านนั้นเป็นที่รู้กันว่าท่านได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมัยรัชกาลที่ 2 และรับราชการตลอดมาในรัชกาลที่ 4จนถึงรัชกาลที่ 5 มีตำแหน่งรับราชการตามชั้นยศมาจนถึงระดับสูงคือ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์อัครมหาเสนาบดี ที่สมุหกลาโหมในสมัยรัชกาลที่ 4และดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเมื่อครั้งรัชกาลที่ 5 ยังทรงพระเยาว์ ภายหลังท่านได้ลาออกจากราชการกลับไปใช้ชีวิตในบั้นปลายอยู่ที่เมืองราชบุรี ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ที่ปรึกษาราชการแผ่นดินอยู่จนถึงแก่พิราลัย นับเป็นมหาบุรุษคนสำคัญของประเทศผู้ประกอบคุณงามความดีจนเป็นที่ประจักษ์แก่คนทั้งปวง ดังปรากฏในบันทึกของ เซอร์จอห์น เบาว์ริ่ง ทูตอังกฤษที่เข้ามาติดต่อกับไทยในสมัยรัชกาลที่ 4ซึ่งได้กล่าวไว้ว่า “เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์คนนี้ ถ้าไม่เป็นคนเจ้ามารยา หรือคนรักบ้านเมืองของตนก็ตาม ต้องยอมรับว่าฉลาดล่วงรู้การล้ำคนทั้งหลายที่เราได้พบในที่นี้ ทั้งมีกิริยาอัชฌาสัยอย่างผู้ดี และรู้จักพูดจาเหมาะแก่การ” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้นทรงตระหนักในพระทัยเป็นอย่างดีและได้ยกย่องเกียรติคุณของท่านไว้ว่า “ครั้นถึงราชกาลปัจจุบันได้รับตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ฉลองพระเดชพระคุณโดยอัธยาศัย เที่ยงธรรม ซื่อตรงมิได้แลเกรงผู้ใด จะว่ากล่าวตัดสินการสิ่งใดจะเป็นคุณประโยชน์โดยทั่วกัน และเป็นแบบอย่างต่อไปภายหน้า สิ้นกาลนาน”

สมเด็จเจ้าพระยาฯ นั้นมีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกันรวม 9 คน ด้วยเหตุที่บรรพบุรุษของตระกูลบุนนาคนั้นเป็นเสนาบดีผู้มีบทบาททางการค้าต่างประเทศมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา เมื่อลูกหลานเข้ารับราชการแผ่นดินจึงสืบทอดวิชาความรู้ต่อกันมาคือได้ทำหน้าที่ในกรมเจ้าท่าและการค้ากับชาวต่างประเทศ เรียกว่าดูแลด้านเศรษฐกิจของประเทศ สนองพระราชกิจมาตลอดจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นบรรดาลูกหลานโดยเฉพาะสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง) จึงมีความรู้และฝึกฝนวิชาการต่างๆ เป็นอย่างดีโดยเจริญรอยตามบิดาซึ่งเป็นเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) เสนาบดีว่าการต่างประเทศและว่าการปกครองหัวเมืองชายฝั่งทะเลมาก่อน ด้วยความสนใจภาษาอังกฤษจึงทำให้สมเด็จเจ้าพระยาฯสามารถพูดและอ่านตำราภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังได้คบหาสมาคมกับชาวตะวันตกที่เข้ามาในประเทศสยามตั้งแต่รัชกาลที่ 3-รัชกาลที่ 5 จึงทำให้ท่านเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างมิตรไมตรีกับต่างประเทศเป็นอย่างดีอันทำให้เกิดแนวทาง “สันติวัฒนธรรมนำสยามประเทศสู่ประชาคมโลก” โดยเป็นผู้แทนในการเจรจาและทำสัญญากับชาติตะวันตกที่เดินทางเข้ามาติดต่อกับสยาม สนองพระราชกิจในสมัยรัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 มาตลอด ทำให้ประเทศสยามรู้ทันและสามารถพัฒนาบ้านเมืองไปในรูปแบบการเจรจา ประนีประนอมยอมรับเพื่อให้เกิดความสุขสันติให้เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ท่านยังมีความสามารถในการต่อเรือแบบฝรั่งจนสามารถต่อเรือกำปั่นขนาดใหญ่เป็นจำนวนหลายลำ โดยเฉพาะการมีความรู้ในเชิงช่างสมัยใหม่จนก่อสร้างถนนหนทาง สะพาน และอาคารตามแบบอย่างตะวันตก นอกจากนี้ท่านยังมีความสนใจในวิชาความรู้อื่นๆ เช่น วรรณคดี การค้าการปกครอง ดนตรี เป็นต้น สำหรับทางดนตรีไทยนั้นท่านได้ให้แต่งเพลง “พระอาทิตย์ชิงดวง” ซึ่งเป็นเพลงสำคัญที่ทำให้ระลึกถึงบุคคลท่านนี้อย่างไม่เสื่อมคลายและคงได้ยินกันในวันคล้ายวันพิราลัยวันนี้อีกครั้ง





