ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/196897
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในขนาดใหญ่ 4 เขื่อนว่า ยังมีพอใช้ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2559 เป็นช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัว โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ที่ 3.7 พันล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำตามแผนที่กรมชลประทาน ได้วางไว้ให้กับการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศผลักดันน้ำเค็ม เป็นภารกิจหลัก ได้จัดสรรไว้ตลอดช่วงฤดูแล้งประมาณ 2.9 พันล้านลูกบาศก์เมตร โดยปล่อยระบายวันละ 17.60 ล้าน ลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัด
“ปริมาณน้ำปีนี้ใน 4 เขื่อนใหญ่ ยืนยันมีเพียงพอแน่นอนไปจนถึงก.ค.ซึ่งการจัดสรรน้ำต้องให้เป็นไปตามแผนคืออุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำทะเล และการเกษตร สำหรับพืชไร่พืชสวนเท่านั้น ซึ่งไม่มีน้ำเพียงพอให้กับพื้นที่ปลูกข้าวกรมได้ชี้แจงให้ชาวนาปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกมาต่อเนื่องแล้ว”
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวต่อว่า ได้ทำหนังสือแจ้งผู้ว่าไปทุกจังหวัด ให้ขอความร่วมมืออบต.ทุกพื้นที่ ไม่ส่งน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งสถานีสูบน้ำทุกแห่ง 365 แห่งจะสูบน้ำเพื่อการปะปาเท่านั้น ทั้งนี้ได้ปิดระบบส่งน้ำเข้าคลองชลประทานทั้งหมดในลุ่มเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง
จากการสำรวจล่าสุดพบว่ามีพื้นที่ได้ปลูกข้าวนาปรังไปแล้ว 1.7 ล้านไร่ นับว่าอัตราการเพิ่มต่อสัปดาห์น้อยลง เมื่อเทียบกับปี 2558 ในช่วงเดียวกันปลูกไปถึง 3.2 ล้านไร่ เป็นผลจากการชี้แจงว่าจะไม่ส่งน้ำให้ และชาวนา ได้เห็นปริมาณน้ำในแม่น้ำ ลำคลองต่างๆ ลดลงไปอย่างรวดเร็วกว่าทุกปี
“การระบายน้ำจากเขื่อนมาตามลำคลองสายหลัก หากมีปัญหาลักสูบน้ำกลางทางหรือเกิดแย่งชิงน้ำกัน ต้องใช้มาตรการขอร้องกัน ซื่งเชื่อว่าทุกพื้นที่มีมาตรการควบคุมปัญหาได้ มั่นใจว่าเหตุการณ์จะดีกว่า ปี’58 เพราะปริมาณการปลูกข้าวน้อยลง ปี’58 ปลูกน้อยกว่าถึง 1.2 ล้านไร่ในเขตชลประทาน ซึ่งการบริหารน้ำปีนี้รอดแน่นอน แต่ช่วงข้าวตั้งท้อง อีกสองเดือนน่าห่วง รมว.เกษตรฯ
ได้สั่งการให้กรมชลร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำเร่งขุดบ่อ บ่อน้ำบาดาล ให้เกษตรกรที่ร่วมกลุ่มกันมาร้องขอในหลายพื้นที่ประสบภัยแล้งใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว” นายสุเทพ กล่าว