สองหนุ่ม Dr.Park Won Jin และ ณัฐวุฒิ์ มโนสุทธิ ยกโรงพยาบาล Won Jin จากเกาหลีมาเมืองไทย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/197694

วันเสาร์ ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
มีเรื่องราวดีๆ มาให้แฟนรายการอีกแล้ว สำหรับรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จะพาไปพูดคุยกับ “Dr.Park Won Jin” และ “ณัฐวุฒิ์ มโนสุทธิ” แห่งโรงพยาบาล WonJin ที่จะมาดูแลความสวยความงามให้กับคนไทย โดยไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงประเทศเกาหลีอีกแล้ว

Dr.Park Won Jin เล่าว่า “โรงพยาบาล WonJin เริ่มก่อตั้งในปี 1990 ปัจจุบันก็25 ปีแล้ว ซึ่งในตอนแรกเริ่มจากการศัลยกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันได้พัฒนามาเป็นการดูแลความงามแบบครบวงจร ทั้งด้านผิวพรรณ ความสวย ความงามต่างๆ สำหรับสาขาต่างประเทศนอกเหนือจากในเกาหลีแล้ว จะมีอยู่ 5 สาขา คือในประเทศจีน 2 สาขา ในไทย 1 สาขา อีก 1 สาขาอยู่ในมอสโก ประเทศรัสเซีย และอีก 1 สาขาในประเทศอินโดนีเซีย

เรื่องของรางวัลที่เราได้รับนั้น ในปี 2010 รางวัลที่สร้างความภาคภูมิใจอย่างมากสำหรับวอนจิน คือรางวัล Prime Minister Award ซึ่งวัดกันจากทั่วทุกมุมโลก เป็นรางวัลระดับสากล วอนจินได้คะแนนสูงที่สุด ในด้านสาขาอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ

สำหรับเรื่องศัลยกรรมที่บอกว่า มันเปลี่ยนแปลงชีวิต สำหรับผมมองเป็น 2 แบบครับ อย่างแรกคือ คนที่สวยหรือดูดีอยู่แล้ว
แต่อยากเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ก็มาปรับเสริมเติมแต่ง สร้างความมั่นใจให้มากกว่าเดิมและสำหรับคนที่มีจุดบกพร่องต่างๆ เช่นริ้วรอย ไม่ตึงกระชับ จุดด่างดำ แผลเป็นต่างๆ หรือส่วนไหนก็แล้วแต่ ที่ทำให้ขาดความมั่นใจ และช่วยให้กล้าแสดงออกมากขึ้น

เมืองไทยเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าเที่ยว และเป็นที่รู้จักทั่วโลก ปัจจุบันคนไทยหันมาสนใจแฟชั่น เรื่องสุขภาพ ความสวยความงาม
และเรื่องการศัลยกรรมมากขึ้น เมืองไทยเสมือนศูนย์รวมนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ที่มาตั้งสาขาในไทย เพราะหวังจะให้ช่วยเป็นแหล่งกระจายไปยังประเทศแถบ AEC ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจในด้านนี้มาใช้บริการง่ายขึ้น และอำนวยความสะดวกมากขึ้นครับ”

ด้าน ณัฐวุฒิ์ มโนสุทธิ บอกว่า “ตอนนี้คนไทยก็มีโอกาสได้เข้ามาปรึกษา และสามารถไปทำศัลยกรรมได้อย่างถูกต้อง เฟสแรกก็คือการเปิดคลินิกที่เอ็มบาสซี่ เราเรียกว่า WonJin เอ็มบาสซี่ เฟสที่สองที่กำลังทำคือแผนการสร้างโรงพยาบาล WonJin ในเมืองไทยเต็มรูปแบบ เพื่อที่จะรองรับลูกค้าหรือว่าคนไข้ในภูมิภาคเออีซี คราวนี้คนไทยไม่ต้องบินไปถึงเกาหลีแล้ว

เรื่องทีมแพทย์ก็จะเป็นความร่วมมือกัน ระหว่างแพทย์ไทยกับแพทย์เกาหลี จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ จะมีการถ่ายทอดเทคนิค เทคโนโลยีที่คนไทยเองอยากจะได้สัมผัสจากเกาหลี และก็ยังมีหลายอย่างที่แพทย์ไทยเก่ง เกาหลีเองก็ต้องเรียนรู้จากแพทย์ไทย คือในวงการแพทย์ศัลยกรรมผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะมีความภูมิใจว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดองค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ๆ ร่วมกัน ซึ่งเป็นผลงานร่วมกันระหว่างไทยกับเกาหลี ตอนนี้เรากำลังทำการศึกษาความเป็นไปได้ในแง่การดีไซน์พื้นที่อยู่นะครับ ก็กำลังจะเริ่มออกแบบ ซึ่งเราคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปีนี้ครับ

อีกทั้ง WonJin ก็เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศเกาหลีด้วย เพราะว่าฐานลูกค้าจากข้อมูลที่ได้รับจะมาเป็นกรุ๊ป ลูกค้าปีหนึ่งประมาณหลายหมื่นท่าน เรามีแพทย์ในโรงพยาบาลเป็นร้อยท่าน มีห้องผ่าตัดเป็นร้อยห้อง

ในเมืองไทยเราเปิดมาประมาณสักไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ส่วนจุดเริ่มต้นที่โรงพยาบาล WonJin มาเปิดที่เมืองไทย เดิมแบ๊กกราวนด์ทางพวกเราก็มีความคุ้นเคยในอุตสาหกรรมเฮลท์แอนด์บิวตี้ เราคิดว่าเรื่องของความงามมันสามารถที่จะเชื่อมโยงหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างในกลุ่มพวกเราได้

เราจึงมองหาธุรกิจที่คิดว่าเป็นดาวเด่นเพื่อที่จะมารองรับตัวเออีซี เราไม่ได้มองเฉพาะไทยแลนด์ หรือว่าประเทศไทยเท่านั้น อะไรที่จะเป็นเบสของเออีซีได้ เราก็มองว่าเกาหลีเขาดังเรื่องโรงพยาบาลศัลยกรรม ทำไม Won Jin ถึงได้สเตออนท็อปของ
โรงพยาบาลศัลยกรรม ทั้งๆ ที่เกาหลีมีเป็นพันๆ แห่งได้ เราจึงได้ติดต่อช่องทางไป ก็ได้ทำการศึกษาอยู่ประมาณ 1 ปี

เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองไทย ผมเชิญแพทย์หลายท่านไปศึกษาดูงาน ที่โรงพยาบาลหลายแห่งที่เกาหลี ซึ่งผลการดูงานก็ปรากฏว่า เราเลือกที่จะจ้อยเวนเจอร์กับทาง Won Jin เพราะว่าเป็นที่มีความน่าเชื่อถือสูงที่สุดในบรรดากลุ่มที่เราไปดูกัน

สำหรับโรงพยาบาล WonJin ที่เปิดในเมืองไทย ตอนนี้ถือว่าเป็นเฟสแรกของโครงการเรา จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1
ก็คือการให้บริการให้คำปรึกษาศัลยกรรมแบบครบวงจร เพื่อที่จะส่งคนไข้หรือลูกค้าไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลี เรื่องที่ 2 ก็คือ การสักคิ้ว สักตา สักปาก ซึ่งเราให้บริการที่นี่เต็มรูปแบบ

เรื่องของความแตกต่างถามว่าแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ในประเทศไทยเท่าที่เรามีข้อมูล เครื่องไม้เครื่องมือส่วนมากที่ต่างๆ ใช้กันจะเป็นจากยุโรป ซึ่งเราก็ค้นพบว่าเขามีข้อดีมาก แต่ว่าการสักในบางเรื่อง เช่น สักขอบตา เพื่อให้เข้าประชิดขอบตาที่สุด แล้วออกมาดูธรรมชาติที่สุดเครื่องมือของเกาหลีถือว่าทำได้ดี เราจะดูสภาพของลูกค้าหรือคนไข้ ว่าเหมาะสำหรับเครื่องมือแบบไหนมากกว่ากัน เพราะฉะนั้นผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะเหมาะกับคนไข้มากกว่า รวมถึงหมึกอะไรต่างๆ ที่เราใช้จะธรรมชาติมาก แล้วก็ปลอดภัย

ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราเรียกว่าเวชสำอาง ในอดีตโรงพยาบาล WonJinมีฐานคนไข้มาก คนไข้มาทำศัลยกรรมเสร็จแล้วออกไปต้องดูแลตัวเอง ปกติแล้วคนไข้ผู้หญิงจะต้องทาครีมรักษาตัวเองต่อไปหลายเรื่อง รวมถึงสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

บางท่านก็อาจจะไปซื้อจากคำโฆษณา บางท่านก็อาจจะซื้อจากคำเพื่อนๆ บอกต่อๆ กันแต่พอเราใช้เราอาจจะไม่ชอบ เพราะฉะนั้นเราก็เลยเริ่มที่จะพัฒนาคิดค้นอาร์แอนด์ดีขึ้นมา สินค้าหรือเวชสำอางที่สามารถดูแลคนไข้ของเราได้ เพราะว่าเราเป็นโรงพยาบาลที่มีความเข้าใจในสภาพผิว สภาพคนไข้มาก เราก็เลยพัฒนาสินค้าเหล่านี้ ให้ตรงกับสิ่งที่คนไข้ต้องการ เพื่อเขาจะได้ดูแลตัวเองต่อไป

กลุ่มโปรดักที่มีอยู่ 2 แบรนด์ปัจจุบัน ก็คือแบรนด์ Dr.JIN กับ เจอร์เรี่ยม จะมีบางกลุ่มที่สามารถมาใช้หลังศัลยกรรมสำหรับดูแลตัวเองต่อไป บางกลุ่มก็สามารถที่จะใช้ต่อไปเรื่อยๆ บางกลุ่มก็เป็นกลุ่มปกป้องเช่น ยูวีอะไรต่างๆ”

Leave a comment