‘สุพจน์’ชี้พื้นที่ขาดน้ำมีกว่า500อ. จ่อหนุนเจาะบ่อบาดาลสู้วิกฤตแล้ง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/196891

วันจันทร์ ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559, 15.49 น.
11 ม.ค. 59 เวลา 12.30 น. ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมด้วย นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1 / 2559 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม

โดยนายสุพจน์ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้หารือกันในเรื่องผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์น้ำที่มีอยู่ 6 ยุทธศาสตร์ โดยมีการดำเนินงานทั้งหมด 12 กิจกรรม ว่า มีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว และอีกเรื่องคือการเตรียมการรับมือสถานะการณ์ภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ว่าน้ำจะมีเหลือเท่าไหร่ ซึ่งยังตรวจสอบไปถึงในเรื่องของอำเภอที่ขาดแคลนน้ำ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการรักษาระบบนิเวศ นอกเหนือจากนี้ในมาตรการระยะยาวเขื่อนต่างๆ ก็ยังมีปัญหาในการที่จะก่อสร้าง ซึ่งเขื่อนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีช่องว่างของเขื่อนอยู่ทุกปี เพราะว่าน้ำเติมไม่เต็ม อย่างเช่น เขื่อนภูมิพลยังมีช่องว่างที่จะเติมน้ำได้อีก เราสามารถที่หาน้ำจากที่ต่างๆ มาเติมตรงนี้เพื่อให้ใช้การได้ โดยสถานะการณ์น้ำในปัจจุบัน พื้นที่ทั้งหมดที่มีความต้องการน้ำทั้งหมด เมื่อแยกเป็นอำเภอจะเห็นว่า บางครั้งน้ำอยู่ที่อำเภอนี้มาก แต่ความต้องการไม่ได้อยู่ตรงนั้นกลับอยู่อีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้นก็เกิดการขาดแคลนน้ำ ซึ่งในอนาคตเราจะมีการเสริมระบบการกระจายน้ำเข้าไป โดยเราสรุปได้ว่า การแบ่งพื้นที่การดำเนินการ แบ่งเป็นเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน โดยในเขตชลประทานมีอำเภอทั่วประเทศไทยทั้งหมด 928 อำเภอ อำเภอที่ขาดแคลนน้ำ 59 อำเภอ ส่วนนอกเขตชลประทานที่เป็นเกษตรน้ำฝน มีอำเภอที่ขาดแคลนน้ำ 410อำเภอ ซึ่งในส่วนที่ซ้อนทับกันทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทานขาดน้ำทั้งคู่ 79 อำเภอ รวมแล้วอำเภอที่ขาดแคลนน้ำในปัจจุบันมีทั้งหมด 548 อำเภอ หรือคิดเป็นประมาณ 59เปอร์เซ็นต์

นายสุพจน์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจะมีการดำเนินการโครงการต่างๆ ที่จะลงไปช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นโครงการในส่วนที่เป็นพื้นที่กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งเขื่อนขนาดใหญ่จะกำหนดมาตรการการระบายน้ำ เพื่อให้ใช้ได้จนถึงสิ้นฤดูแล้ง ในขณะเดียวกันปริมาณน้ำที่มีอยู่นั้น เนื่องจากในบางอำเภอมีน้ำไม่เพียงพอ จำเป็นที่จะต้องสนับสนุนในเรื่องของการเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเติม หรือสูบน้ำจากที่ๆ มีน้ำอยู่นำมาเพิ่มเติม ในส่วนนี้จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไป

ด้านนายสุเทพ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ใช้อยู่ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทางกรมชลประทานยืนยันว่า มีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะใช้ตลอดในฤดูแล้งนี้ และยังป้องกันความเสี่ยงในช่วงรอยต่อระหว่างฤดูแล้งไปถึงฤดูฝนของปี 2559 ซึ่งข้อเป็นห่วงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ให้กรมชลประทานคอยตรวจสอบคือเรื่องค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีน ซึ่งในปีที่ผ่านมาเคยมีปัญหาที่ปากคลองสำแล ว่าค่าความเค็มค่อนข้างสูง ซึ่งทางกรมชลประทานยืนยันว่าค่าความเค็มของน้ำที่ปากคลองสำแลอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน วันนี้อยู่ที่ประมาณ 0.61 กรมต่อลิตร ซึ่งคาดว่าตลอดฤดูแล้งนี้เราจะสามารถควบคุมได้ แต่ต้องมีมาตรการที่จะต้องดำเนินการ ส่วนในเรื่องของการเกษตรที่ใช้น้ำมากนั้นคงไม่ได้ โดยเฉพาะสถานีสูบน้ำที่มีอยู่ 361 สถานี ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนตอนล่าง ต้องหยุดสูบน้ำเพื่อทำการเกษตร สำหรับลุ่มน้ำท่าจีนปัจจุบันกรมชลประทานพยายามควบคุมน้ำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งในปีที่ผ่านมามีปัญหาบริเวณปากคลองจินดาที่มีค่าความเค็มค่อนข้างสูง ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2557 โดยในเดือนธันวาคม 2558 ผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งคุมค่าความเค็มไม่เกิน0.3 กรัมต่อลิตร โดยเรายืนยันว่าจะดูแลให้เป็นพิเศษเพราะมีมารตรการที่นำน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาระบาย และปีนี้ในลุ่มน้ำแม่กลองทั้งหมดไม่ได้มีแผนงดการส่งน้ำ เรายังมีแผนการส่งน้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะเรื่องการทำพืชไร่ พืชผัก ในลุ่มน้ำแม่กลอง

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า โดยในวันนี้ประเด็นสำคัญที่เห็นชอบในหลักการ คือ เรื่องของการผันน้ำจากแม่น้ำสาละวินเข้าสู่เขื่อนภูมิพล ซึ่งกนช. ได้เห็นชอบในหลักการที่จะให้กรมชลประทานเข้าไปดำเนินการศึกษานำน้ำจากแม่น้ำยวม ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำสาละวินเข้ามาสู่เขื่อนภูมิพล โดยร่วมกันระหว่างกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และกระทรวงมหาดไทย โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะต้องร่วมมือกันที่จะดำเนินการ โดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะต้องดำเนินการเรื่องสายส่งต่างๆ ด้วย ในการที่จะไปพัฒนาต่อยอดในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ในส่วนของแม่น้ำโขง แม่น้ำชี แม่น้ำมูล ซึ่งกรมชลประทานได้ศึกษาเบื้องต้นในการนำน้ำจากแม่น้ำโขงผ่านประตูระบายน้ำห้วยหลวง ซึ่งกรมชลประทานสร้างไว้แล้ว ปีนี้กรมชลประทานจะสร้างสถานีสูบน้ำชั่วคราว เพื่อจะนำน้ำจากแม่น้ำโขงบางส่วนมาใช้ ส่วนหนึ่งเราต้องสร้างผนังกั้นน้ำในลำน้ำห้วยหลวงให้ครอบคลุมเพื่อป้องกัน เมื่อเรานำน้ำจากแม่น้ำโขงเข้ามาจะได้ไม่เข้าท่วมในพื้นที่

Leave a comment