เตือนชาวสวนยางเร่งขึ้นทะเบียน กยท.ขีดเส้นถึง29กพ.ย้ำไม่ช่วยเหลือคนกรีดต่างด้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/197448

วันศุกร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
นายเชาว์ ทรงอาวุธ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยท.แต่ละจังหวัด กำลังเร่งตรวจสอบสิทธิเกษตรกรสวนยาง เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้นเกษตรกรเจ้าของสวนยาง ผู้เช่าสวนยาง และคนกรีดยาง ที่ประสงค์ขอรับเงินช่วยเหลือ ต้องเร่งแจ้งความประสงค์ที่สำนักงานกยท.ในพื้นที่ภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ มิฉะนั้นจะถือว่า ไม่ประสงค์เข้าร่วม

สำหรับเงินช่วยเหลือนั้นจะได้รับเฉพาะสวนยางที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 15 ไร่ เป็นจำนวนเงิน 1,500 บาทต่อไร่ แบ่งเป็นเงินช่วยเหลือเกษตรกรเจ้าของสวนยางหรือผู้เช่าสวนยาง 900 บาทต่อไร่ เพื่อใช้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปัจจัยการผลิตและปรับปรุงคุณภาพการผลิต ส่วนที่เหลืออีก 600 บาท ต่อไร่จะจ่ายเป็นค่าครองชีพให้คนกรีดยาง

อย่างไรก็ตามผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางหรือผู้เช่าสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรปี 2557/2558 จำนวน 850,000 ครัวเรือนเท่านั้น แต่ถ้าเกษตรกรที่เปลี่ยนแปลงที่อยู่ ขายสวนยางไปแล้ว หรือย้ายถิ่นประกอบอาชีพ จะยึดชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งในครัวเรือนนั้นๆเป็นผู้รับสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ ส่วนเกษตรกรที่เคยมีรายชื่อ แต่ชื่อกลับหายหรือตกหล่นให้ประสานกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อตรวจสอบโดยเร่งด่วน

ส่วนคนกรีดยางที่จะได้รับเงินช่วยเหลือ ต้องเป็นคนกรีดยางของเกษตรกรเจ้าของสวนยางหรือผู้เช่าสวนยาง 850,000 ครัวเรือนดังกล่าว ซึ่งมี 3 ประเภท คือ ประเภทแรก เป็นคนไทยที่รับจ้างกรีดยางโดยตรงจากเจ้าของหรือผู้เช่าสวนยาง ประเภทที่สอง เจ้าของสวนหรือผู้เช่าเป็นคนกรีดยางเอง ซึ่งทั้ง 2 ประเภทนี้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 600 บาทต่อไร่ แต่มีคนกรีดมากกว่า 1 คน ให้มอบอำนาจให้คนกรีดยางคนใดคนหนึ่งเป็นผู้แทนเข้าร่วมโครงการเพื่อขอรับเงิน ส่วนประเภทที่สาม คือ แรงงานต่างด้าว ตามมติ ครม. คนกรีดยางที่จะได้รับเงินช่วยเหลือ จะต้องมาขึ้นทะเบียนกับ กยท. และมีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ดังนั้นแรงงานต่างด้าวจึงไม่มีสิทธิ์

โดยการจ่ายเงินเหลือเกษตรกรครั้งนี้ น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาราคายางตกต่ำได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามเพื่อให้การความมั่นคงและยั่งยืนในการทำสวนยาง เกษตรกรจะต้องช่วยเหลือตนเองด้วย โดยการปรับเปลี่ยนการทำสวนยางมาเป็นรูปแบบการเกษตรผสมผสาน ปลูกยางร่วมกับพืชชนิดต่างๆ หรือปศุสัตว์ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

Leave a comment