ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/198789
(ซ้าย) พิธีกรรายการ ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์ และ ทัก มันตาภรณ์
สร้างชื่อให้กับวงการแฟชั่นไทย เมื่อ “บูซาร์ดิ” ห้องเสื้อแบรนด์ไทยแบรนด์แรก ของ 2 แม่ลูก ผุสดี-ทัก มันตาภรณ์ทายาท “ยศวดี บุญ-หลง” เจ้าของห้องเสื้อดังในอดีตนามว่า “ยศวดี” ได้แสดงความสามารถทั้งการออกแบบและตัดเย็บ ไปโชว์บนรันเวย์แฟชั่นระดับโลกทั้ง 2 เวที ที่ลอนดอน แฟชั่น วีค ประเทศอังกฤษ และแฟชั่น โอต์กูตูร์ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนเป็นที่ยอมรับ โดยผลงานได้ถูกนำลงตีพิมพ์ในแมกกาซีนที่ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นทั้ง VOGUE UK และ L’OFFICIEL ปารีส ทางรายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 โดยพิธีกร “ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” พาไปพูดคุยกับ ทัก มันตาภรณ์ ถึงที่มาที่ไปของความสำเร็จนี้
ทัก มันตาภรณ์ เล่าว่า “ไปเรียนที่บอสตันคอลเลจ อยู่ที่เมืองบอสตัน ประเทศอังกฤษ จากนั้นไปเรียนปริญญาตรีที่คลาสปริ้นเซสสคูล เรียนทางด้านธุรกิจ แล้วก็เริ่มมาดูแลเรื่องแบรนด์บูซาร์ดิ ของคุณแม่ผุสดี นี่แหละครับ
บูซาร์ดิ เกิดขึ้นในปี 2009 โดยทักกับคุณแม่ อยากจะตอบสนองการตลาดในตอนนั้น เพราะว่าขณะนั้นคุณแม่ทำงานให้แบรนด์ของคุณยายชื่อ ยศวดี ซึ่งได้รับการถ่ายทอดมาตั้งแต่ปี 2000 ที่คุณแม่มาทำด้านการออกแบบอย่างเต็มตัว

ทัก มันตาภรณ์ และ คุณแม่ผุสดี กับผลงานการแสดงแบบเสื้อของ บูซาร์ดิ
แบรนด์ยศวดีในสมัยนั้น ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ดังมาก คุณยายก็จะตัดชุดทุกคนในยุค 1950 กับ 1960 ตัดให้กับหลายๆ คนมาก ในสมัยนั้นผู้ที่มีชื่อเสียงจะมาตัดกับยศวดีหมดเลย ตอนนั้นแบรนด์เริ่มตั้งแต่ประมาณปี 1949 คุณยายก็เริ่มจากเล็กๆ เริ่มจากที่บ้าน คุณยายเริ่มเรียนรู้เรื่องการตัดเย็บเอง แล้วก็เริ่มการทำแพทเทิลเองด้วย ส่วนใหญ่คุณยายจะบินไปปารีส ไปดูงานตรงนั้น แล้วก็เอาไอเดียกลับมาใส่ในผลงานที่เมืองไทย แล้วธุรกิจก็เริ่มเติบโตไปเรื่อยๆ ช่วงแรกก็มาจากการตัดให้เพื่อนๆ แต่ละคน แล้วก็เริ่มใหญ่ขึ้น ออเดอร์ก็มากขึ้น ประมาณต้น 90 ก็จะเริ่มมีร้านแรก เป็นร้านชื่อ ยศวดี
ในปี 2009 เราเห็นว่าตลาดในการเมดทูออเดอร์ น้อยลง ทุกคนหันมาซื้อชุดที่เป็นไซส์มากขึ้น เพราะจะมีราคาที่ย่อมเยามากขึ้นด้วย เราก็เลยอยากสร้างแบรนด์ที่ว่าเราจะเก็บงานแฟชั่นชั้นสูง แล้วก็งานดีเทล งานปัก ยังเก็บไว้อยู่ เราก็อยากสร้างแบรนด์ที่ว่าสามารถวางขายได้เลย คืออาจจะไม่ได้ทำด้วยมือทั้งชิ้น แต่ว่าก็จะมีส่วนที่ทำด้วยมือ
เรียกว่าจากคุณยาย ก็มาเป็นคุณแม่ จากคุณยศวดี บุญ-หลง มาเป็น ผุสดี กับ ทัก มันตาภรณ์ ก็เลยสร้างแบรนด์ บูซาร์ดิ ขึ้นมาเพื่อที่จะตอบสนองการตลาดนี้ แล้วก็ยังอยากสร้างแบรนด์ใหม่ ที่จะสามารถพาไปโกอินเตอร์ได้ด้วย
สำหรับคาแร็กเตอร์และจุดเด่นของแบรนด์ บูซาร์ดิ ก็จะอยู่ที่ว่าเราเป็นแบรนด์เดียวเป็นแบรนด์กลุ่มน้อยที่จะมีงานปักด้วยมือกับการดีเทลชั้นสูงอยู่ในตัว แล้วก็เป็นแบรนด์ที่คิดเรื่องลูกค้า ก็คือถ้าสมมุติว่าไซส์นี้ไม่ได้ ก็อาจจะเอาบล็อกเดิมไปเพิ่มเติม ทำให้เข้ากับลูกค้ามากขึ้นตามแบบ

เอกลักษณ์หลักของแบรนด์ก็คือ เราได้ถ่ายทอดความรู้มาจากคุณยาย จนมาถึงคุณแม่ แล้วก็มาถึงทักนะครับ ช่างเย็บของเราบางคนหรือช่างแพทเทิลของเราบางคนก็คือฝึกมาตั้งแต่สมัยคุณยายนะครับ ก็จะมีประสบการณ์สูง แล้วก็เป็นแบรนด์เดียวในเมืองไทยที่สามารถไปโชว์ที่ต่างประเทศได้
ถามว่า บูซาร์ดิ ในวันนี้ไปในระดับอินเตอร์แล้ว ไปได้อย่างไร เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปที่ไหนมาบ้าง ตอนนั้นเราเริ่มก่อนนะครับ ที่ทักอยู่ลอนดอน เราก็เลยเริ่มที่ลอนดอนแฟชั่นวีค ก็จะมีคอลเลคชั่น ออทั่ม/วินเทอร์ 2014 ซึ่งเป็นแฟชั่นวีคแรกในระดับสากล แล้วก็ได้รับการตอบรับดีมาก อันนั้นเป็นครั้งแรกที่เราสามารถลงนิตยสารโว้คในประเทศอังกฤษ
หลังจากนั้น ทัก มาคิดว่า งานของแม่อาจจะไม่เหมาะกับลอนดอน น่าจะเหมาะกับทางปารีสมากกว่า เลยติดต่อไปทางปารีส ในเวทีแฟชั่นโอต์กูตูร์ แต่เป็นอะไรที่ยากไปกว่าลอนดอนอีก เราก็เลยเป็นดีไซเนอร์ไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ เพราะว่าเป็นแฟชั่นวีคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกเลย
กับเรื่องที่ว่าเจนเนอเรชั่นที่ 3 มีส่วนร่วมผลักดันทำให้แบรนด์ บูซาร์ดิ ไปสู่ระดับสากลนั้น ถามว่าทักมีหน้าที่ดูแลอะไรบ้าง ตรงนี้ทักก็ดูหลายอย่าง ก็ดูแลเรื่องเซลล์ส่วนใหญ่ ก็จะดูแลทั้งดีเทลที่ร้าน กับดูเรื่องการซื้อ-ขายกับต่างประเทศในการขายส่ง แล้วก็ดูแลเรื่องมาร์เก็ตติ้งด้วย ดูแลเรื่องพีอาร์

พีอาร์ส่วนใหญ่ก็เน้นเป็นพีอาร์ที่กรุงเทพฯ กับเมืองไทยมากกว่า แล้วก็ดูแลเรื่องโซเชียลมีเดียแมเนจเม้นท์กับการสื่อสารของแบรนด์ทางเว็บไซต์ของเรา ดูแลเรื่องของโปรดักชั่นของทุกโชว์ รวมทั้งแคสติ้งนางแบบเองหมดเลยนะครับที่ต่างประเทศ ทั้งสปริง-ซัมเมอร์ 2015
แล้วตอนนี้ก็หันมาดูเรื่องผ้าที่หาได้ยาก ที่เราดีไซน์กับโรงทอที่อิตาลีกับที่ฝรั่งเศสเอง ก็มีผ้าที่เริ่มดีไซน์เองแล้วครับ เริ่มอาจจะเขามีแบบมา แล้วเราก็มาดีไซน์เรื่องสี หรือการประกอบของผ้า ให้มันเอ็กซ์คลูซีฟ
สำหรับเสียงตอบรับที่ต่างชาติเห็นงานของคนไทยที่มีรายละเอียดทั้งงานปัก งานลูกไม้ ฟีดแบ๊กดีมากครับ เราได้ลงหลายแมกกาซีนเลย อย่างคอลเลคชั่นออทั่ม-วินเทอร์ 2015 ก็ได้รับการตอบรับดีมาก แล้วก็เป็นดีไซเนอร์คนแรกของเมืองไทยที่ลงนิตยสาร แล้วก็ยังมีบทสัมภาษณ์ลงนิตยสาร LOFFICIEL ปารีส แล้วก็อีกหลายๆ เล่ม ก็ถือว่าได้สร้างชื่อให้กับประเทศไทย เพราะเป็นแบรนด์แรกของคนไทยที่ไปได้ถึงขนาดนี้
สำหรับแผนในอนาคตของบูซาร์ดิ ตอนนี้เราว่าเราจะเอาพีอาร์บัสเจ็ทไปลงที่แอลเอในอนาคต เพื่อที่จะไปครองงานพรมแดง แล้วก็มีเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังระดับโลกมาใส่ชุดของบูซาร์ดิ ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะไปช่วงไหนดี
กับเรื่องหลักการในการประกอบสายอาชีพนี้ ข้อคิดในการดำเนินชีวิตและประกอบธุรกิจนี้ให้มาถึงจุดนี้ได้ ต้องทำอะไรด้วยใจรักของเรา ใช้พลังของความรักในทุกอย่างที่เราทำแล้วเวลาที่เราทำทุกอย่างจะมีแต่แสงสว่างไม่ควรทำอะไรที่ไม่มีความรัก คือจะทำไม่ได้สำเร็จตรงนี้เป็นเคล็ดลับเลย”
