รับซื้อยางไม่คึก วันแรกเงียบเหงาทั่วประเทศ ติดปัญหาขึ้นทะเบียน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/199249

วันอังคาร ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
รับซื้อยางไม่คึก

วันแรกเงียบเหงาทั่วประเทศ

ติดปัญหาขึ้นทะเบียน

เล็งเปิดจุดย่อยรองรับ

เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมกล่าวถึงการรับซื้อยางพาราของรัฐบาล 100,000 ตัน ตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐวันแรก เพื่อนำไปทำผลิตภัณฑ์ใช้ประโยชน์ในแต่ละหน่วยงานว่า การรับซื้อยางพาราของรัฐบาลไม่ได้แบ่งสัดส่วนว่าจะซื้อยางสดหรือยางแผ่นเท่าไหร่ เกษตรกรมีเท่าไหร่ก็รับซื้อเท่านั้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายได้น้อยให้อยู่ได้ แต่ที่ต้องกำหนดว่าจำนวนคนละไม่เกิน 150 กิโลกรัม (กก.) เพราะห่วงว่าจะมีการสวมสิทธิ์ไปรับยางจากที่อื่นมา อย่างที่เคยทำกันมาในอดีต

“ยืนยันจะรับซื้อยางจนกว่าจะแก้ปัญหาให้คนยากจนอยู่ได้ ซึ่งคงไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลทำในภาพรวมครบวงจร เมื่อรับซื้อมาแล้ว โดยเฉพาะน้ำยางสดที่เก็บได้ 4-5 ชั่วโมง ต้องนำไปแปรรูปเป็นยางแท่ง ยางแผ่น ซึ่งกระทรวงเกษตรฯทำอยู่ ส่วนกระทรวงอื่นก็ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯนำยางที่ซื้อมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ประโยชน์ตามที่นายกฯให้นโยบาย ไม่ได้ซื้อมาเก็บไว้เฉยๆเหมือนข้าว”พล.อ.ประวิตรกล่าว

ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์มอบนโยบายผ่านไลน์”ฉัตรชัย สาริกัลยะ”ให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดรับซื้อยางพาราจากชาวสวนยางทั่วประเทศก่อนเปิดรับซื้อเป็นวันแรกว่า หากติดขัดในพื้นที่ใด สามารถแจ้งมาที่ตนโดยตรงผ่านไลน์นี้

ส่วนนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรฯเปิดเผยถึงบรรยากาศรับซื้อยางพาราวันแรกว่าเบื้องต้นเปิดในจุดที่มีความพร้อม 614 จุด ซึ่งรมว.เกษตรฯสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกจุดอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรสวนยางอย่างทั่วถึง เกษตรกรที่อยู่ห่างไกลไม่สะดวกให้เปิดจุดย่อยเพิ่มให้ครอบคลุมมากที่สุด ต้องทำให้เโปร่งใสไม่ให้มีข้อครหาการทุจริต และถ้าพบสิ่งผิดปกติให้รายงาน รมว.เกษตรฯทันที

“ตรวจสอบเบื้องต้นเกษตรกรยังนำยางมาขายไม่มากในสามจังหวัดภาคใต้ เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ยังไม่มาขี้นทะเบียนกับกยท.จึงใช้สิทธิไม่ได้ แต่ได้ให้มาขึ้นทะเบียนและนำหลักฐานบัตรประชาชน เอกสารสิทธิมาแสดงตนที่จุดรับซื้อได้ ซึ่งหลังปิดจุดรับซื้อเวลา 18.00 น. จะสรุปปริมาณรับซื้อยางทั่วประเทศ รวมทั้งประเมินภาพรวมปัญหาอุปสรรค”นายธีรภัทร กล่าว

สำหรับบรรยากาศการรับซื้อยางพาราของรัฐบาล 100,000 ตัน ตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐวันแรกแต่ละพื้นที่ ภาพรวมยังไม่คึกคัก เหตุผลส่วนใหญ่เพราะข้อจำกัดของการรับซื้อยางในโครงการรัฐ เรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการและการได้รับเงินล่าช้า

อย่างที่จ.นราธิวาส สำนักงานการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตั้งจุดรับซื้อ 4 จุดใน 4 อำเภอคือ รือเสาะ ระแงะ เมืองนราธิวาสและสุไหงโกลก โดยวันนี้จะรับซื้อเฉพาะยางแผ่นดิบราคากก.ละ 45บาท ส่วนน้ำยางสดและยางก้นถ้วยจะรับซื้อได้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ จากการสำรวจพื้นที่สำนักงาน กยท.อ.สุไหลโกลกที่รับซื้อยางแผ่นดิบวันแรก บรรยากาศเงียบเหงา ไม่มีเกษตรกรนำยางแผ่นดิบมาขายแม้แต่รายเดียว

สอบถามนายนิคม ณ สงขลา หัวหน้าสำนักงาน กยท.อ.สุไหงโกลกทราบว่า ส่วนใหญ่ชาวบ้านอยู่ในขั้นตอนขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร เพื่อใช้เป็นหลักฐานนำยางแผ่นดิบมาขาย ปัญหาดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักที่ล่าช้า ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ต้องกรอกรายละเอียดในเอกสารแทนตัวเกษตรกรที่เขียนหนังสือไม่ได้ อีกทั้ง ปริมาณยางแผ่นดิบเกษตรกรผลิตเพียง 10% แต่ถ้าเป็นน้ำยางสดจะมีมากถึง 60% ส่วนยางก้นถ้วยมี 30%

เช่นเดียวกับจ.สงขลา ที่เปิดจุดรับซื้อยางตามโครงการรัฐบาลที่จะช่วยเหลือชาวสวนยางทั้งหมด 46 แต่ละจุดค่อนข้างเงียบเหงา เพราะเกษตรกรบางส่วนอยู่ในพื้นห่างไกลจุดรับซื้อ และปัญหาขายน้ำยางแล้วจะได้รับเงินหลังจาก 2 วันไปแล้ว จึงหันไปขายให้เอกชน เพราะได้เงินทันทีและไม่ต้องเดินทางไกล

ขณะที่จุดรับซื้อน้ำยางสดของเอกชนในจ.สงขลา โดยเฉพาะรายย่อยค่อนข้างเงียบเหงาบางแห่งต้องหยุดรับซื้อชั่วคราว เช่น ที่จุดรับซื้อน้ำยางสดที่บ้านหูแร่ หมู่3 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ของนางสุภาพร สาสุนี มีลูกค้าลดลง ส่วนหนึ่งนำน้ำยางสดไปขายกับสหกรณ์การยางในพื้นที่ที่ร่วมโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ที่รับซื้อน้ำยางสดกก.ละ 42 บาท ส่วนจุดรับซื้อน้ำยางสดของเอกชนอยู่ที่กก.ละ 37 บาท มีส่วนต่างราคา 5 บาท ซึ่งนางสุภาพรเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น เพราะโครงการรับซื้อยางรัฐมีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ต้องขึ้นทะเบียนก่อน ต้องมีบัตรประจำตัวเกษตรกร ได้รับเงินช้า จำกัดปริมาณรับซื้อ นอกจากนี้ ยังมีชาวสวนยางจำนวนมากไม่มีเอกสารสิทธิ์ จึงเข้าร่วมโครงการไม่ได้

ที่สกย.ควนกบ จำกัด อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ยังไม่ได้เปิดรับซื้อน้ำยางสดในราคากก.ละ 45 บาท เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มาติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ให้ใหม่ จึงรับซื้อในราคาเดิมอยู่ที่ กก.ละ 37-38 บาท

ที่จ.สตูล กำหนดรับซื้อน้ำยางในราคากก.ละ 45 บาททั้งหมด 22 จุด แต่ส่วนใหญ่ไม่ให้ความร่วมมือ

 

อ้างว่าไม่เข้าใจ และกลัวขาดทุน โดยระบุว่ายังไม่ได้ทำสัญญาเป็นกิจลักษณะเรื่องโครงการรับซื้อ ถ้าซื้อมาแล้วจะนำไปขายที่ไหน ใครรับผิดชอบ จึงยังไม่เปิดรับซื้อเพื่อรอดูท่าทีสกย.จ.สตูลก่อน ส่วนกลุ่มชาวสวนยางพาราที่กรีดยางและอยู่ในกลุ่มของสหกรณ์ ก็ยังสับสนว่าราคารับซื้อน้ำยางสดอยู่ที่เท่าใดกันแน่ นอกจากนี้ พบมีเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์กว่า 3,000 ราย ที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ มีจุดที่ให้ความร่วมมือรับซื้อ 1 จุดคือหมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง และมีชาวสวนยางมาขายแล้วกว่า 10 ราย

Leave a comment