แจก3.5หมื่นล. อัดฉีดเข้ากองทุนหมู่บ้าน 7หมื่นแห่งเฮทั่วประเทศ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/199412

วันพุธ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

แจก3.5หมื่นล.

อัดฉีดเข้ากองทุนหมู่บ้าน

7หมื่นแห่งเฮทั่วประเทศ

ยอดรับซื้อยางสองวันเฉา

ปชช.ไม่ปลื้มขนไปขายเอง

เมื่อวันที่ 26 มกราคม นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แถลงสรุปความคืบหน้าการรับซื้อยางจากเกษตรกรสวนยางจำนวน 100,000 ตัน ผ่านโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเริ่มดำเนินการวันแรกเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา

นายธีรภัทรเปิดเผยว่าขณะนี้มียอดปริมาณยางจากทุกจุดรับซื้อทั่วประเทศ 200 จุด จำนวน 72.65 ตัน เกษตรกร 722 ราย เป็นยางแผ่นดิบ 48.56ตัน น้ำยางสด 4.4 ตัน ยางก้อนถ้วย 19.69 ตัน ซึ่งวันแรกที่เปิดรับซื้อมีฝนตกบางพื้นที่ภาคใต้และภาคเหนือ เป็นอุปสรรค ส่วนวันนี้ฝนเบาลงมีเกษตรกรทยอยเข้ามาขายมากขึ้น ทั้งนี้ ปกติชาวสวนยางไม่ได้ขายยางกันทุกวัน ซึ่งจุดรับซื้อเป็นตลาดท้องถิ่น โดยเจ้าหน้าที่และเกษตรกรจะรู้ว่าพอรวมยางได้ครบจะนัดวันขายเป็นรอบๆ ทำให้บางจุดไม่มีคนมาขาย

บิ๊กฉัตรสั่งปรับแผนเพิ่มจุดรับซื้อ

ปลัดกระทรวงเกษตรฯกล่าวต่อว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯติดตามการรับซื้อตลอด โดยย้ำให้ปรับแนวทางทำงานอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกร ควบคุมการซื้อไปตามหลักเกณฑ์ และจะประชุมทุกกระทรวงสอบถามปริมาณความต้องใช้ยางเพิ่ม คาดจะได้ยอดใช้ครบ 1 แสนตันตามที่รับซื้อ แม้ปริมาณซื้อไม่สูง แต่ขณะนี้ราคายางในตลาดห่างกันไม่กี่บาท และระยะทางไม่ต่างกันมากเกษตรกรก็ขายจุดเดิม แต่ยังเร่งประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ เป็นเพราะสภาพอากาศที่กรีดยางไม่ได้และใกล้ปิดกรีด เราพยายามรับซื้อไปตลอดจนครบ1 แสนตัน รวมทั้งเพิ่มจุดรับซื้ออำนวยสะดวกแก่เกษตรกร พร้อมให้มาขึ้นทะเบียนที่จุดรับซื้อได้

ราคายางแผ่นดิบขยับขึ้น41บ./กก.

นายธีรภัทรกล่าวอีกว่า จะทยอยเปิดจุดรับซื้อยางจนครบ 834 จุด .และเปิดจนกว่าจะครบ 1 แสนตัน ขณะนี้ราคายางในตลาดปรับขึ้นทุกวัน ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 41 บาท/กิโลกรัม (กก.) ทำให้เกษตรกรบางรายไปขายให้พ่อค้า เพราะระยะาทางใกล้กว่า ดังนั้น โครงการแทรกแซงราคายางจึงเป็นตัวเลือกให้เกษตรกร และเพื่ออำนวยความสะดวกจะเปิดจุดรับซื้อย่อยในท้องถิ่นเพิ่มอีก

รมว.กษ.พอใจรับซื้อยางวันแรก

ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.เกษตรฯส่งข้อความผ่านไลน์ขอบคุณเจ้าหน้าที่ประจำจุดรับซื้อ พร้อมระบุ พอใจภาพรวมการรับซื้อยางวันแรกทั่วประเทศ ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเชิญชวนประชาชน และเกษตรกร ติดตามความคืบหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น “ยาง1500 “ สำหรับโครงการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรสวนยางติดตามความคืบหน้าโครงการใหม่ ผ่านแอพพลิเคชั่น “ยาง45” แบบนาทีต่อนาที

รับปชช.ไม่ปลื้มขั้นตอนเยอะ

พล.อ.ฉัตรชัยให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมเรื่องนี้ว่า ด้วยเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดไว้ ทำให้เกษตรกรไม่ค่อยพอใจ คิดว่ามีขั้นตอนยุ่งยาก เช่น การจ่ายเงิน รัฐบาลจะจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งชาวสวนยางไม่ชอบต้องการรับเงินสดทันทีมากกว่า และบางส่วนก็เก็บยางไว้รอราคาที่อาจสูงขึ้น ทำให้ภาพรวมไม่ค่อยคึกคัก ทั้งนี้สั่งให้ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)รวบรวมข้อมูลทั้งหมดไปชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ

ยอดไม่วิ่งเหตุชาวสวนขายเอง

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาราคายางว่า การรับซื้อยางขณะนี้ยังมีน้อย แต่ราคาตลาดขึ้นมาที่กก.ละกว่า 40 บาท ก็ต่างกันไม่มากนักจากราคาที่รัฐรับซื้อ เพราะเกษตรกรก็ขายเองด้วย เพราะไม่อยากรับภาระขนมาขายที่จุดรับซื้อ แต่ไม่ว่ากัน เพราะรัฐบาลซื้อเพื่อนำราคา ส่วนการนำไปผลิตก็ทำต่อ เพื่อสร้างความเข้มแข็งระยะยาว

ยังไม่อนุมัติงบอุ้มยางเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการขออนุมัติงบเกี่ยวกับเรื่องยางเพิ่ม เพราะเงินเก่ายังใช้ไม่หมด ตอนนี้เพิ่งซื้อมา 70 ตัน การรับซื้อรัฐมองด้านการหางบประมาณเพื่อให้เกิดการแปรรูปในท้องถิ่น ก่อนนำมาขาย ถ้าขายเป็นน้ำยางดิบเป็นปัญหาเก็บรักษาและขนส่ง สำหรับการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำจะใช้งบ กยท.ซึ่งกรอบวงเงินอนุมัติล่วงหน้าไว้แล้ว ถ้าไม่พอจะขอเพิ่มขึ้นมา จากนี้ไปจะดูเรื่องการกรีดยางไม่ใช้คน อย่างที่จ.บึงกาฬนำมาโชว์ แต่ต้องดูผลกระทบทำให้คนตกงานหรือไม่ แต่การใช้เครื่องทำให้เร็ว ลดต้นทุน ก็ต้องปรับให้สมดุลกัน

อัดฉีดงบ4หมื่นล.ลงหมู่บ้านทั่วปท.

นายกฯกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงงบช่วยเหลือชาวสวนยางและสั่งแก้ปัญหาที่ติดขัด อีกทั้ง ได้พูดคุยถึงการใช้จ่ายงบผ่านกองทุนสร้างความเข้มแข็ง เพราะโครงการกองทุนหมู่บ้านตำบลละ 5 ล้านบาทมีปัญหาขั้นตอนราชการและระหว่างนี้จะมีงบอีก 4 หมื่นล้านบาท ลงไปยัง 7 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ หมู่บ้านละไม่เกิน 5 แสนบาทเพื่อสร้างความเข้มแข็งโดยประชาชนเสนอโครงการเข้ามา

ทุ่ม1.5หมื่นล.ปล่อยกู้ธุรกิจยางต่อ

วันเดียวกัน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบผลิตภัณฑ์ยางวงเงิน 15,000 ล้านบาท ระยะเวลาใหม่ตั้งแต่ปี 2559-2569 รวม 10 ปี จากเดิมคสช.เคยมีมติเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 เป็นโครงการลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ปรับแก้หลักเกณฑ์ใหม่ วงเงินสินเชื่อเท่าเดิมคือ 15,000 ล้านบาท แต่เพิ่มผู้ปล่อยสินเชื่อเป็น 7 ธนาคารคือ

ออมสิน กรุงไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทย กรุงเทพ กสิกรไทย และซีไอเอ็มบี

ไม่กังวลซื้อยางกร่อยแค่70ตัน

พล.ต.สรรเสริญกล่าวต่อว่า รมว.เกษตรฯรายงานปริมาณรับซื้อยางวันแรกมีทั้งสิ้น 70.6 ตัน เป็นยางดิบ 47.3 ตัน น้ำยาง 4.2 ตัน และยางก้นถ้วย 19.3 ตัน ถือว่าน้อยมาก เพราะฝนตก เกษตรกรอาจนำมาขายน้อย ด้านพ่อค้าคนกลางพอเห็นว่ารับซื้อราคาสูง ก็ขยับราคาขึ้นมาใกล้เคียงกับรัฐบาล ส่วนต่างเพียง 1-2 บาท แต่รัฐบาลไม่กังวล เพราะเป้าหมายคือทำให้เกษตรกรได้ราคาที่เหมาะสม

ใจป้ำแจกกองทุนหมู่บ้าน3.5หมื่นล.

นอกจากนี้ ครม.มีมติเห็นชอบโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเพิ่มปริมาณการลงทุนระดับชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง โดยรัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจำนวน 79,556 กองทุน ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) กองทุนละไม่เกิน 5 แสนบาท วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในชุมชน โดยดำเนินการเร่งด่วนเบิกจ่ายภายใน 6 เดือน

รับซื้อวันที่2ทั่วปท.เฉาต่อเนื่อง

สำหรับบรรยากาศการรับซื้อางจากเกษตรกรตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐวันที่ 2 แต่ละพื้นทีทั่วประเทศยังคงเงียบเหงา เช่น จ.สงขลา เพราะมีฝนตก ชาวสวนยางหยุดกรีด ทำให้จุดรับซื้อน้ำยางปิดรับซื้อ แต่บางจุดที่เปิดรับซื้อได้ เช่น ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านควนกบ จำกัด ใน อ.คลองหอยโข่ง แต่ก็ไม่สามารถรับซื้อในราคา 42 บาทต่อกก.เพราะระบบข้อมูลยังไม่พร้อม ขณะที่จุดรับซื้อน้ำยางสดของเอกชน มีชาวสวนยางนำน้ำยางไปขาย แม้ราคารับซื้อที่กก.ละ 35 บาท มีส่วนต่างราคาของจุดรับซื้อของรัฐบาลถึง7 บาทก็ตาม เพราะต้องการรับเงินสดทันที ปัญหาระยะทาง และบางส่วนไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ กยท.

 

เช่นเดียวกับที่จ.บุรีรัมย์ มีเกษตรกรนำยางมาขายเพียงรายเดียว เพราะชาวสวนยางหยุดกรีดยาง และนำไปขายที่จุดรับซื้อใกล้บ้าน เพราะการจำกัดปริมาณรับซื้อทำให้ไม่คุ้มค่าขนส่ง นอกจากนี้ ยังต้องรอรับเงินอีก 2 วัน

Leave a comment