ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/200044
วันอาทิตย์ ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2559, 10.04 น.
31 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านพระครูน้อย ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลายครัวเรือน พลิกวิกฤตช่วงที่ภาครัฐประกาศงดทำนาปรังเนื่องจากปีนี้มีฝนตกน้อย เกรงจะเกิดปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ได้หันมาปลูกพืชผักสวนครัว อาทิ ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม พริก กระเทียม มะเขือ และพืชผักอื่นๆ ที่ใช้น้ำน้อย และปลอดสารพิษ ตามทุ่งนาในหมู่บ้าน โดยใช้มูลสัตว์ที่หาได้จากท้องถิ่น เช่น มูลไก่ สุกร หรือมูลวัวควายใส่เป็นปุ๋ยแทนสารเคมี นำไปวางขายตามตลาดผัก ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
โดยแต่ละครัวเรือนมีรายได้จากการปลูกผักขายเฉลี่ยวันละกว่า 800 -1,000 บาท ซึ่งสามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องอพยพไปทำงานต่างถิ่น ส่วนน้ำที่ชาวบ้านใช้ในการปลูกผักก็สูบขึ้นมาจากสระน้ำและน้ำบาดาล
นางสมพร ดวงนิล ชาวบ้านพระครูน้อย บอกว่า ครอบครัวมีที่นาอยู่ทั้งหมด 50 ไร่ หลังเสร็จจากการทำนาได้ปรับพื้นที่นาหันมาปลูกผักสวนครัว ประมาณ 2 ไร่ โดยแต่ละวันจะเก็บผักที่ปลูกไว้ไปวางขายตามตลาด โดยผักที่ปลูกเป็นผักปลอดสารพิษเพราะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดบางวันไม่พอขาย มีรายได้เลี้ยงครอบครัวในช่วงหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้องเคลื่อนย้ายไปทำงานอกพื้นที่