ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/200590
แพทย์นรีเวชจากทั่วโลกร่วมประชุม
สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ร่วมกับ สมาพันธ์แพทย์นานาชาติด้านมะเร็งนรีเวช (GCIG : Gynecologic Cancer Intergroup) จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติด้านมะเร็งนรีเวช“Cervical Cancer : Educational Symposium and Clinical Trials Workshop” รวมแพทย์มะเร็งนรีเวชทั่วโลกหวังยกระดับการพัฒนาองค์ความรู้เพื่อนำไปสู่พัฒนาการด้านการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกอย่างมีประสิทธิภาพ ด้านนายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทยเน้นย้ำรณรงค์ให้ความรู้เร่งหนุนเด็กหญิงตั้งแต่อายุ 10 ปี รับวัคซีนเอชอีพีวี โดยให้เป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กไทยควรได้รับ รวมถึงการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีเป็นสิ่งที่ผู้หญิงควรให้ความสำคัญ ยืนยันมะเร็งปากมดลูก รู้เร็ว หายได้ ณ อาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี ซอยศูนย์วิจัย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพฯ
ศ.พญ.สฤกพรรณ วิไลลักษณ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย เผยว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งเต้านมและมีแนวโน้มที่จะลดลง เพราะในปัจจุบันเราทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรคนั่งคือ เชื้อไวรัส HPV และมีวัคซีนป้องกัน แต่ที่ทำให้ยังพบว่ามีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูก สาเหตุสำคัญคือ ความอายไม่กล้าที่จะไปตรวจคัดกรอง รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยและไม่มีการป้องกันที่ถูกต้อง
ทั้งที่จริงมะเร็งปากมดลูกหากเข้ารับการตรวจคัดกรองและพบว่ามีอาการของโรคที่เรียกว่าระยะก่อนเป็นมะเร็งหรือเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้น แพทย์สามารถทำการรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งในส่วนของวัคซีน HPV สมาคมได้พยายามผลักดันให้เด็กไทยอายุตั้งแต่ 10 ปี ได้รับวัคซีนดังกล่าวโดยจัดให้เป็นหนึ่งในวัคซีนพื้นฐานที่เด็กไทยควรจะได้รับ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2560 เราคงจะได้รับข่าวดีจากรัฐบาล

ศ.พญ.สฤกพรรณ วิไลลักษณ์ และผู้บริหาร GCIG ศ.นพ.เดวิด แกฟนีย์ และศ.นพ.วิลเลียม สมอล
ศ.นพ.วิลเลียม สมอล Chairman Department of Radiation Oncology กล่าวว่า ในประเทศแถบอเมริกาและยุโรป เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา เม็กซิโกบราซิล ได้จัดให้วัคซีน HPV เป็นวัคซีนพื้นฐานที่ประชาชนทั้งชายและหญิงต้องได้รับ จึงทำให้อัตราประชากรผู้หญิงที่จะเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกลดต่ำลงมาก และโดยส่วนใหญ่เกือบ 100% เมื่อตรวจคัดกรองแล้วสามารถรักษาให้หายได้ก่อนมะเร็งจะลุกลาม ดังนั้นการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรับวัคซีน
รวมถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะช่วยลดอัตราผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกให้หมดไปได้ ซึ่งการรับวัคซีน HPV ไม่เฉพาะแต่เด็กหญิงเท่านั้น เด็กผู้ชายก็ควรจะได้รับด้วยเช่นกัน เพราะเชื้อ HPV เป็นสาเหตุของการเป็นโรคหูดหงอนไก่และโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ในผู้ชาย อันจะนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงได้ ซึ่งเราหวังว่าประเทศไทยจะสามารถลดอัตราผู้หญิงที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกได้ในที่สุด

รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ
รศ.นพ.วิชัย เติมรุ่งเรืองเลิศ เลขาธิการสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า การจัดประชุมวิชาการนานาชาติด้านมะเร็งนรีเวช ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดีทางการแพทย์มะเร็งนรีเวชของไทย โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเมื่อเทียบอัตราอุบัติการณ์ของโลกและจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูกนั้น ประเทศไทยยังถือว่าน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกอายุน้อยลงเรื่อยๆ เพราะเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยมีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรจะให้เด็กหญิงและเด็กชายได้รับวัคซีน HPV ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไปเพื่อเป็นการป้องกันก่อนรับเชื้อ หรือผู้ที่มีอายุมากกว่านี้และผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วก็สามารถรับวัคซีน HPV ได้จนถึงอายุ 55 ปี
รวมกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย หรือ Save Sex และการเข้ารับการตรวจคัดกรองเป็นประจำทุกปี เนื่องจากหากแพทย์ตรวจพบกลุ่มอาการที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก ก็สามารถทำการรักษาได้ทันท่วงที และมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก และมีโอกาสหายขาด ดังนั้นอย่าอายที่จะพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรอง หรือหากอายก็สามารถขอรับคำแนะนำจากแพทย์ในการตรวจด้วยตัวเองด้วยวิธีง่ายๆ ซึ่งปัจจุบันก็มีชุดตรวจมะเร็งปากมดลูกจำหน่ายแล้ว ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองและส่งไปยังโรงพยาบาลหรือห้องแล็บเพื่อขอรับผลได้เช่นกัน
ทั้งนี้ งานประชุมวิชาการนานาชาติด้านมะเร็งนรีเวช “Cervical Cancer: Educational Symposium and Clinical Trials Workshop” จัดโดยสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย ร่วมกับสมาพันธ์แพทย์นานาชาติด้านมะเร็งนรีเวช (GCIG : Gynecologic Cancer Intergroup) ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2559 ที่ผ่านมาเป็นการผนึกความร่วมมือด้านการวิจัยในระดับนานาชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อนำไปสู่พัฒนาการด้านการรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงกระตุ้นให้หญิงทั่วโลกตระหนักถึงสาเหตุอันตรายและการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งการประชุมในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติจะได้มารวมตัวกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงสามารถรับมือกับมะเร็งปากมดลูกได้อย่างมีประสิทธิผล นำไปสู่สังคมโลกที่ดีขึ้นพร้อมด้วยประชากรที่สุขภาพดีขึ้น