ปัญหาเกษตร ที่นี่มีคำตอบ : ดินเปรี้ยวกับการปลูกไม้ผล

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/202508

วันอังคาร ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559, 06.00 น.
คำถาม ที่สวนของผมเป็นดินเปรี้ยว อยากจะปลูกไม้ผลจะทำอย่างไรดีครับ

สิริ ทองสลวย

อ.เมือง จ.นครนายก

คำตอบ ดินเปรี้ยว เป็นดินที่มีความเป็นกรดสูง ดินบนมีสีดำหรือเทาดำ ถัดลงไปจะพบสีสนิมเหล็กปะปนอยู่ และมีจุดประสีเหลืองอ่อนเหมือนฟางข้าว ในดินชั้นล่างลึกจากผิวดิน ประมาณ 25-150 เซนติเมตร

พื้นที่ดินเปรี้ยวที่มีปัญหามากที่สุด คือบริเวณภาคกลาง แถบจังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก อ่างทอง และสุพรรณบุรี ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ลุ่มน้ำขัง ใช้ทำนาเป็นหลัก ผลผลิตที่ได้ยังต่ำอยู่ เนื่องจากมีปัญหาในด้านเคมีของดิน ความเป็นกรดที่สูงมาก มีธาตุอาหารพืชบางชนิด เช่นอะลูมินัมและเหล็ก อยู่ในระดับค่อนช้างสูง ละลายออกมาจนเป็นพิษต่อพืชที่ปลูก ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำ และความเป็นประโยชน์ของธาตุฟอสฟอรัสจะลดลง

ปัญหาทางของดิน ส่วนใหญ่เมื่อดินเป็นดินเหนียวจับตัวกันแน่น ระบายน้ำไม่ดี เมื่อแห้งดินจะแข็ง ยังมีปัญหาทางด้านชีวภาพด้วย เพราะความเป็นกรดสูง จุลินทรีย์ในดินที่สร้างอาหารให้แก่พืชไม่สามารถทำงานได้

การใช้ประโยชน์ในดินเปรี้ยว ใช้ทำนาปลูกข้าว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาหว่าน สำหรับบริเวณที่มีแหล่งน้ำชลประทาน เกษตรกรจะปลูกไม้ผลยืนต้น เช่น ส้ม มะม่วง ฝรั่ง ที่เป็นพืชที่ทนต่อสภาพดินเปรี้ยว การปลูกไม้ผลในพื้นที่ดินเปรี้ยวนี้ จำเป็นต้องมีการจัดการที่ถูกต้อง และมีการปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ของดิน โดยลดความเป็นกรด ป้องกันการเกิดกรดเพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มธาตุอาหารพืชในดินให้เหมาะสมต่อชนิดของพืชที่ปลูกด้วย

การจัดการดินที่ถูกต้อง และเหมาะสมแก่การปลูกไม้ผล  นักวิชาการของกรมพัฒนาที่ดินได้ให้คำแนะนำและการจัดการดังนี้

1.คัดเลือกพืชที่มีความทนทานต่อสภาพดินเปรี้ยว เช่น ส้ม มะพร้าวฝรั่ง ละมุด มะกอก

2.ควรเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ และสามารถนำน้ำมาใช้ได้ตลอดปี

3.สร้างคันดินกั้นน้ำขนาดใหญ่ล้อมรอบแปลง เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังในฤดูฝน

4.ขุดยกร่องสวน โดยปาดเอาหน้าดินมาพูนเป็นสันร่องไว้ตรงกลาง ดินที่อยู่ลึกลงไปนำมาพอกไว้ด้านข้าง โดยทำการขุดยกร่องแบบเดียวกันนี้ จนทั่วทั้งแปลง เพื่อเพิ่มความลึกของหน้าดิน

5.ท้องร่องที่ขุดเอาหน้าดินออกไปแล้ว กลายเป็นร่องน้ำ น้ำในส่วนนี้จะเป็นน้ำเปรี้ยว จะช่วยระบายออกเมื่อเริ่มเปรี้ยวจัด แล้วจะระบายน้ำจืดเข้ามาแทนใหม่

6.ใส่หินปูนฝุ่นหรือปูนมาร์ลเพื่อลดความเป็นกรดของดิน โดยหว่านทั้งร่องที่ปลูก อัตรา 3 ตัน/ไร่ หรือตามผลวิเคราะห์ดิน

7.กำหนดระยะปลูก ตามความเหมาะสมของแต่ละชนิดพืช

8.ขุดหลุมปลูกขนาด กว้าง ยาว และลึก 50 เซนติเมตร แยกดินชั้นบนและดินดินชั้นล่างไว้ต่างหาก ตากผึ่งดินไว้เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วเอาส่วนที่เป็นหน้าดินผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก และบางส่วนของดินล่าง ผสมปูนมาร์ลหรือหินฝุ่น อัตรา 2.5 กิโลกรัม/หลุม แล้วกลบลงไปในหลุมให้เต็ม

9.ควรปลูกพืชในต้นฤดูฝน เนื่องจากอากาศชุ่มชื้น พืชตั้งตัวได้เร็ว พร้อมใส่ปุ๋ยเคมีตามความต้องการของพืชชนิดนั้น

นาย รัตวิ

Leave a comment