ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/588245
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 10 มี.ค. 2559 05:01

พฤหัสบดีวันนี้ ประธาน กรรมการ ฝ่ายจัดการของสหกรณ์การเกษตรจากกรุงเทพฯ ชัยนาท ปทุมธานี นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สมุทรปราการ และอ่างทอง 250 คน จะไปที่ โรงแรมศุภาลัยป่าสักรีสอร์ท แอนด์ สปา สระบุรี ฟังนิติภูมิพูดถึงเศรษฐกิจเกษตรภูมิภาค และตลาดเกษตรโลก 15.00-17.00 น. เชิญโดยนายศิริชัย ออสุวรรณ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด
สมัยก่อน สิงคโปร์มีปัญหาเรื่องหาบเร่แผงลอย รัฐบาลนายลีกวนยิวต้องการให้บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องดูแลเศรษฐกิจปากท้องของคนยากคนจน นายลีกวนยิวสั่งการให้ซื้อตึกร้างที่มีอาคารติดต่อกัน ตีทะลุเข้าหากัน และก็ให้พ่อค้าแม่ขายหาบเร่แผงลอยหลบเข้าไปขายอยู่ในอาคาร แต่ว่ายังอยู่ในทำเลที่ค้าขายได้ดีเหมือนเดิม บ้านเมืองสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น เศรษฐกิจรากหญ้าก็ไม่ถูกทำลาย
กรุงโซลของเกาหลีใต้ก็เคยมีปัญหาอย่างนี้มาก่อน รัฐบาลในสมัยนั้นเลือกทำอุโมงค์และสะพานลอยให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกลางเมือง และแบ่ง 2 ซีกของทางเดินใต้อุโมงค์และสะพานลอยให้เป็นที่ทำมาค้าขายของคนรากหญ้า และได้ผลอย่างเดียวกับสิงคโปร์ครับ บ้านเมืองสะอาด เศรษฐกิจรากหญ้าไม่ถูกทำลาย
ใครไปเยือนกรุงมอสโกสมัยก่อนตอน พ.ศ.2535—2540 จะเห็นว่า ผู้คนเอาโต๊ะมาตั้งขายของริมทาง บางคนก็ยืนถือสินค้า ยืนกันทั้งวัน นอกจากพวกตั้งโต๊ะขาย ยืนขายแล้ว ก็ยังมีคีออสซึ่งเป็นซุ้มขายของเล็กๆ วางระเกะระกะ ไม่เป็นระเบียบ เดี๋ยวนี้ใครไปกรุงมอสโก จะเห็นว่าพวกยืนขายหายไปเลย คีออสที่ระเกะระกะเหลือน้อยเต็มที คนรากหญ้าพวกนี้หลบไปขายตามทางเดินใต้ดินที่เป็นร้าน 2 ข้างทาง ซึ่งทางรัฐบาลท้องถิ่นจัดหาไว้ให้
โอกาสการทำมาหากินของคนจนมีไม่มากเหมือนคนรวย ที่ยืนขายนั่งขายตามริมฟุตปาท บางคนต้องดูแลปากท้องของมนุษย์ อีกหลายชีวิต ผมเข้าใจรัฐบาลท้องถิ่นของไทยครับ ที่ท่านต้องการจัดระเบียบ บางครั้งท่านกรุณาไปหาสถานที่ให้พ่อค้าแม่ขายได้ไปขายยังสถานที่ใหม่ที่ได้เตรียมไว้ แต่ท่านจัดเอาไว้ซะไกล ไม่ใช่ทำเลที่คนจะเดิน พ่อค้าแม่ขายลงทุนไปแล้วก็ขาดทุน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่มีกิน หนี้สินบาน ลำบากกันทั้งครอบครัว น่าเวทนาสงสารมากครับ
ท่านมีนโยบายเตะพ่อค้าแม่ขายรากหญ้าออกไปจากทำเลทอง คนซื้อของก็ต้องวกเข้าห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ นอกจากร้านสะดวกซื้อแล้ว เดี๋ยวนี้ยังมีการปล่อยปละละเลยให้คนจีนและคนต่างชาติชาติอื่นเข้ามาทำมาค้าขายแข่งกับคนไทย แทบไม่น่าเชื่อครับ ไปเดินตามช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ คนขายเดี๋ยวนี้ เป็นคนจีน คนเกาหลีใต้ พูดจาภาษาไทยได้บ้างไม่ได้บ้าง ไม่ได้มากันคนสองคน นะครับ แต่มากันทั้งตลาดและเกือบทุกตลาด เมื่อก่อน เราสั่งสินค้าจากจีน เกาหลีใต้ มาขาย วันนี้ คนเหล่านั้น เข้ามาขายกันเอง
คนจีน คนเกาหลี ที่มาค้าขายแข่งกับคนรากหญ้าไทยเมื่อได้เงินแล้ว ก็ส่งเงินกลับไปยังประเทศของตน เงินไม่กระจัดพลัดพรายในไทย เรื่องนี้นี่แหละครับที่รัฐบาลต้องจัดการด่วน รวมทั้งรัฐบาลต้องหาคนเก่งไปเจรจาเพื่อสร้างความยุติธรรมหลายเรื่อง
อย่างเช่นเรื่องรถไทย รถจีน ทุกวันนี้ รถไทยจะไปเมืองจีน ทำเรื่องราวยากเย็นแสนเข็ญ เสียสตางค์กันเป็นพันเป็นหมื่น รออนุมัติกันเป็นเดือน แต่พอรถจีนจะเข้ามาประเทศไทย เสียสตางค์แค่หลักร้อย แถมยังไม่ต้องรอ มีกลุ่มนายหน้าร่วมมือกับราชการบางหน่วยอำนวยความสะดวกให้ คนจีน รถจีนประหยัดได้ทุกอย่าง แต่คนไทย รถไทย กลับต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ไม่แฟร์เลยครับ
ตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ส่งคนไทยกลับปีละเป็นหมื่นโดยไม่ให้เหตุผล เดินออกจากงวงช้างที่สนามบิน แล้วก็ไปติดตรง ตม.เกาหลีใต้ ถูกปฏิเสธการเข้าเมือง ต้องนั่งรอเที่ยวบินกลับประเทศ เสียเงินเปล่า เป็นจำนวนมาก นี่มันอะไรกันครับ ทำไมไม่มีใครไปเจรจากับรัฐบาลเกาหลีใต้ให้ปฏิบัติต่อคนไทยอย่างเสมอเกียรติ คุณจะลงโทษว่าคนไทยเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้ ผมก็เห็นคนเกาหลีใต้เยอะแยะเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย อยู่กันเป็นถนน ชุมนุมสุมกันอยู่เป็นย่าน มีคลินิกที่ใช้หมอเกาหลี ทันตแพทย์เกาหลี ผมก็เห็นผิดกฎหมายทั้งนั้น แต่เจ้าหน้าที่ไทยละเลย ปล่อยให้คนพวกนี้รังแกเราอยู่ฝ่ายเดียว
คนไทยโชคร้ายเหลือเกินครับ เศรษฐกิจก็ไม่ดี ศักดิ์ศรีก็หดหาย.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand