จับได้ให้ประจาน?

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/589301

โดย ตติกานต์ เดชชพงศ 12 มี.ค. 2559 05:01

 

ในยุคที่มีผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนจำนวนมากต้องการประหยัดเวลา ขณะที่เว็บไซต์ผู้บุกเบิกธุรกิจซื้อขายออนไลน์อย่าง amazon.com ยังคงครองความเป็นเจ้าตลาดไว้ได้ ทั้งยังมีการตั้งโกดังจัดเก็บและกระจายสินค้าในหลายประเทศทั่วโลก

แต่ทุกๆการเติบโตก็ต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดา และปัญหาที่เกิดกับ amazon คือการ “ขโมยสินค้า” โดยพนักงานของตัวเอง และวิธีการขโมยก็มีตั้งแต่ระดับธรรมดา เช่น ซุกซ่อนข้าวของไว้กับตัวเพื่อเอาออกไปนอกโกดัง รวมถึงระดับก้าวหน้าที่พนักงานเปลี่ยนที่อยู่จัดส่งสินค้าไปให้ตัวเองหรือผู้สมคบคิด ซึ่งผู้ที่ถูกจับได้จะถูกดำเนินคดีและไล่ออกไปตามระเบียบ ทำให้การว่าจ้างพนักงาน amazon มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กของอังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ปัญหาลักขโมยสินค้าทำให้ amazon หันมาใช้วิธีป้องปรามไม่ให้พนักงานขโมย ของ โดยผู้บริหารโกดังบางแห่งจะเผยแพร่ข้อมูลการขโมยสินค้า ซึ่งแม้จะไม่มีการระบุชื่อหรือเปิดเผยใบหน้าผู้ก่อเหตุ แต่มีรายละเอียดชัดเจนว่าสินค้าที่ถูกขโมยอยู่แผนกใด รวมถึงเวลาที่ก่อเหตุ, ประเภทและมูลค่าของสินค้า ซึ่งพนักงานแต่ละแผนกย่อมรู้ดีว่าเพื่อนร่วมงานที่หายหน้าไปนั้นมีสาเหตุจากอะไร ทำให้มีผู้วิจารณ์ว่าวิธีการดังกล่าวก็คือ “การประจานให้อับอาย” เข้าข่ายดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

อย่างไรก็ตาม “แพท เมอร์ฟี” ผู้บริหารบริษัทรักษาความปลอดภัยในสหรัฐอเมริกา ระบุเพิ่มเติมว่า การประจานไม่ได้ช่วยลดสถิติการลักขโมยในหมู่พนักงานมากนัก เพราะคน บางประเภทแม้จะมีโอกาสก็ไม่มีวันขโมย ขณะที่คนอีกบางประเภทที่เคยขโมยก็จะขโมยอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าจะถูกจับได้หรือถูกประจานเพียงใด การป้องกันง่ายๆ เช่น ค้นตัวพนักงานก่อนออกจากโกดังยังจะมีผลชัดเจนมากกว่า แต่วิธีนี้ก็อาจจะใช้ไม่ได้กับ amazon ซึ่งมีพนักงานจำนวนมาก หากค้นตัวหมดทุกคนก็คงเสียเวลามหาศาล และสถิติที่สำรวจในปี 2558 พบว่า amazon มีพนักงานมากกว่าสองแสนคน (เฉพาะในสหรัฐฯ).

ตติกานต์ เดชชพงศ

Leave a comment