โปรดให้โอกาสผู้ต้องราชทัณฑ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/590070

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 14 มี.ค. 2559 05:01

 

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “มิติใหม่ของไทยภายใต้บริบทประชาคมอาเซียน” รับใช้ข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม ข้าราชการศาลยุติธรรม ลูกจ้างในศาลอุทธรณ์ภาค 7 และผู้สังเกตการณ์ 120 คน ที่ห้องประชุมสัตตภาคพิจารณ์ ชั้น 6 ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ถ.รัชดาภิเษก เขตจตุจักร กทม. 09.00-12.00 น. จันทร์วันนี้

พุธของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิไปพูดให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งชายหญิงจำนวนรวมหลายพันคน ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี เป็นครั้งที่ 2 การไปเยือนเรือนจำครั้งนี้ทำให้ได้ข้อมูลว่า ผู้ต้องราชทัณฑ์จำนวนไม่น้อย เมื่อพ้นโทษแล้ว ก็ออกไปสู่สังคมเดิม คบเพื่อนกลุ่มเดิม กลับ ไปใช้ชีวิตแบบเดิม สุดท้ายทำความผิดซ้ำ กลับเข้าเรือนจำเหมือนเดิม

หลังจากสนทนากับนายไพฑูรย์ อำพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรีอยู่หลายครั้ง ก็ได้ความคิดว่า จะต้องมี “หลักสูตรอบรมสำหรับอาชีพสมัยใหม่” เข้าไปสอนในเรือนจำ โดยเริ่มสอนผู้ต้องราชทัณฑ์ต้นแบบชายที่ใกล้พ้นโทษ 30 คน และหญิง 30 คน เมื่อพ้นโทษแล้ว ก็จะช่วยกันหางาน เพื่อให้พ้นจากสังคมเดิม และไม่ให้กลับมาสู่เรือนจำอีก

เบื้องต้น พ่อผมตั้งใจจะเข้าไปสอนการถ่ายทำสารคดี การเขียนบท การตัดต่อภาพยนตร์ การตัดต่อคลิป และการทำโฆษณาเพื่อลงโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันโลกเข้าสู่ระบบดิจิทัล โทรทัศน์มีหลายพันนับหมื่นช่องทั่วโลก ทั้งโลกจึงต้องการคนที่อยู่ในกระบวนการการผลิตภาพยนตร์ คลิปข่าวและคลิปโฆษณาอะไรพวกนี้เป็นจำนวนมาก

ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่สำรวจเมื่อ 1 มีนาคม 2559 ทั่วประเทศ เป็นชาย 273,492 คน หญิง 44,483 คน รวม 318,272 คน จากจำนวน ผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งหมด มีผู้ที่ต้องราชทัณฑ์คดี พ.ร.บ.ยาเสพติดมากถึง 221,857 คน คิดเป็นร้อยละ 69.71 ตัวเลขกลมๆ ก็ตีไปร้อยละ 70 ตัวเลขนี้ทำให้พูดได้นะครับว่า อันตรายใหญ่ของประเทศของเราคือ “ยาเสพติด”

นอกจากพ่อผมและคณะแล้ว เรายังต้องการผู้ที่จะอุทิศเวลาเข้าไปสอนในเรือนจำอีกจำนวนหนึ่ง ผลัดกันเข้าไปสอนเพื่อให้เกิดความหลากหลายและความชำนาญในอาชีพหลายด้าน ท่านใดสนใจที่จะร่วมกันเข้าไปสอนเพื่อพัฒนาผู้ต้องราชทัณฑ์ให้มีอนาคตที่ดีขึ้นหลังจากพ้นโทษออกมาแล้ว กรุณาติดต่อไปที่ Line Official ID กด @LGJ0596P นอกจากคนที่มีความชำนาญในด้านการถ่ายทำตัดต่อแล้ว ก็ยังต้องการผู้สอนอาชีพอื่น รวมถึงผู้บริหารทีมงานที่จะเข้าไปจัดการการสอนและฝึกอบรมอีกด้วย

บางสถาบัน บางกลุ่ม บางสมาคม รับแต่คนเก่งหรือคนมีทรัพย์ แต่ทิ้งคนด้อยโอกาส กดคนที่เคยทำผิดพลาด เพราะสังคม ปิดกั้นโอกาส จึงทำให้คนเหล่านั้นกลับไปสู่สภาพเดิมอีก และก็ทำผิดซ้ำอีก

การไปพูดให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ครั้งที่ 2 ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี คณะของพ่อผมได้พบกับครูสาวชาวบราซิล เคนยา และอเมริกัน ผู้เป็น อาสาสมัครเข้าไปสอนภาษาอังกฤษและวัฒนธรรมนานาประเทศให้ผู้ต้องราชทัณฑ์หญิง คณะของพ่อสังเกตการณ์อยู่พักหนึ่ง ก็พบว่าการสอนได้ผล และนี่คือประโยชน์ของแท้ สำหรับการให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ออกมาใช้ชีวิตปกติหลังจากที่พ้นโทษแล้ว

คนผู้ต้องราชทัณฑ์ส่วนใหญ่ “ชั่วเคยมี ดีเคยผ่าน” ชีวิตของพวกเขาจึง “ตกผลึก” มองโลกได้ครบทุกมิติ ทั้งดี ทั้งร้าย ถ้าเรา ปล่อยปละละเลย ผู้ต้องราชทัณฑ์เหล่านี้ก็จะกลายเป็นกำลังพลเสื่อมของประเทศ เป็นตัวลบที่ทำให้เราต้องแก้ปัญหากันอีกไม่จบสิ้น แต่ถ้าเรามุ่งมั่นพัฒนา คนเหล่านั้นจำนวนหนึ่งก็จะกลายเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ

งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 มี 2.72 ล้านล้านบาท งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงยุติธรรมมี 2.3 หมื่น ล้านบาท เฉพาะกรมราชทัณฑ์ใช้งบประมาณสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท และก็มีแนวโน้มจะสูงเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ภาษีของประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่อยู่ในรูปของงบประมาณในหน่วยงานราชการอื่นเพื่อใช้ในการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เห็นตัวเลขแล้วก็เสียดายเงินครับ

ถ้าเราไม่สร้างอาชีพที่มีรายได้มั่นคงและทันสมัยให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ก่อนพ้นโทษ คนเหล่านี้บางส่วนก็จะกลับเข้าไปในเรือนจำอีก สร้างปัญหาที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก

สังคมให้โอกาสคนพร้อม แต่ผลักไสไล่ส่งคนมีปัญหา

ลองแก้ไขปัญหาของคนมีปัญหาจริงจังซีครับ

ผมเชื่อว่า จะทำให้ประเทศของเราน่าอยู่ขึ้นครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

Leave a comment