ภัยแล้ง มหันตภัยของมนุษยชาติ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/591594

โดย คุณนิติ นวรัตน์ 17 มี.ค. 2559 05:01

 

พฤหัสบดีวันนี้ เช้า 09.00-12.00 น. ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “อาเซียนกับการเตรียมความพร้อมของข้าราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้” รับใช้ข้าราชการจากยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

250 คน ที่โรงแรมบีพี แกรนด์ทาวเวอร์

พฤหัสบดีวันนี้เช่นเดียวกัน มีตัวแทนนักวิชาการจากมาเลเซีย และไทยพูดรับใช้บุคลากรทางการศึกษา 1,800 คน ที่หอประชุม มรภ.ยะลา 10.00-12.00 น. นักวิชาการมาเลเซียคือ Professor Dr. Mustofar Kasem และ 13.00-15.00 น. นักวิชาการไทยคือ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ ทั้ง 2 คนพูดเรื่องเดียวกัน “เทคโนโลยีล้ำหน้า การศึกษาเอกชนล้ำยุค” แต่คนละเวอร์ชั่น คนละวิสัยทัศน์ ท่านใดสนใจเชิญฟังครับ

ข่าวไทยรัฐออนไลน์เขียนถึง ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต ที่วิเคราะห์ความเสียหายภาคเกษตรกรรมที่เป็นผลมาจากภัยแล้ง ว่าอยู่ที่ระดับ 19,460-20,000 ล้านบาท รายได้เกษตรกรลดลง 3,430 บาทต่อครัวเรือนต่อปี ความเสียหาย

ต่อรายได้เกษตรกรจากภัยแล้งรวม 24,353-25,000 ล้านบาท รวมความเสียหายต่อผลผลิตการเกษตรและรายได้เกษตรกร 43,813-45,000 ล้านบาทภัยแล้งไม่ใช่เป็นภัยพิบัติเฉพาะในไทยดอกครับ เสียงโอดโอยโหยหวนดังที่สุดตอนนี้มาจากทวีปแอฟริกา อเมริกากลาง ออสเตรเลีย และใครจะนึกครับ ไทย กัมพูชา และเวียดนามโดนภัยแล้งหนักไม่แพ้ทวีปแอฟริกาด้วย

นอกจากมีภัยแล้งแล้ว เวียดนามยังเจอปัญหาน้ำทะเลซึมเข้ามาอย่างรุนแรง พื้นที่จำนวนไม่น้อยต้องหยุดการปลูกข้าว แถมไม่มีน้ำบริโภค

สมัยก่อนน้ำทะเลซึมเข้ามาในพื้นดินแค่ 10-20 กม. แต่ในตอนนี้ ซึมลึกเข้ามาในพื้นดินไกลถึง 90 กม. หลายจังหวัดโดนน้ำทะเลซึมมากถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมด และโชคร้ายที่พื้นที่ส่วนใหญ่ที่โดนภัยแล้งและน้ำทะเลซึม เป็นพื้นที่สำคัญที่ใช้ปลูกข้าวของเวียดนามเสียด้วย ปัญหาที่ตามต่อมาก็คือ ภาวะข้าวยากหมากแพง

ไทยมีปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ผมว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการนำยางพาราไปผลิตเป็นวัสดุเพื่อกันน้ำซึมลงไปใต้ดิน หน้าฝนของประเทศเหล่านี้ มีฝนตกหนักมาก บางแห่งถึงขนาดมีน้ำท่วม น้ำหลาก แต่อ่างเก็บน้ำมีไม่เพียงพอ ที่รัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย แก้ไขภัยแล้งด้วยการขุดอ่างเก็บน้ำชุมชนไว้ทุกหมู่บ้าน เดี๋ยวนี้การขุดบ่อไม่ยากครับ เพราะมีรถแบ็กโฮที่ใช้ขุดแป๊บเดียวก็เสร็จ แต่ปัญหาอยู่ที่น้ำซึมลงไปใต้ดิน คนอินเดียใช้ขี้วัวยาพื้นอ่าง

ผมว่าขี้วัวแพ้ยางพารากันน้ำซึม ยางพารากันน้ำซึมลงดินจะขายได้ดีไปทั้งโลกอย่างแน่นอนครับ ยิงปืนนัดเดียวนกตกลงมาทั้งฝูง ได้ทั้งแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ และได้ทั้งการแก้ไขปัญหาน้ำไม่พอใช้ในหน้าแล้ง

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคของไทย ตอนนี้ก็มีโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 ซึ่งมีกิจกรรมเพื่อชุมชน และสังคมหลายกิจกรรม ที่ผมอ่านแล้วชอบมากก็คือ ตอนนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสร้างฝายชะลอน้ำ

ฝายชะลอน้ำของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคใช้คอนกรีตที่ชำรุด เสื่อมสภาพแล้วมาสร้าง พวกเสาไฟฟ้า เสาตอม่อ คอน เอามาออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทานต่อการกัดเซาะของน้ำในฤดูน้ำหลาก ให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่

ฝายชะลอน้ำพวกนี้นี่ล่ะครับ จะช่วยฟื้นฟูสภาพป่าไม้บริเวณต้นน้ำลำธาร และนำความชุ่มชื้นมาสู่แผ่นดิน ฟื้นฟูระบบนิเวศ

ฝายที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสร้างนี้ ช่วยกักเก็บน้ำไว้เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคของมนุษย์และสัตว์ป่า เลี้ยงสัตว์และการเกษตรกรรม

ผมเห็นด้วยครับ กับการหันมาทำ CSR ด้วยการสร้างฝายชะลอน้ำ และถ้าจะให้ดี อยากให้พัฒนาการทำ CSR ไปจนถึงการสร้างอ่างเก็บน้ำ

ถ้า แฮ่ๆจะให้รับผิดชอบต่อปากท้องเกษตรกรร่วมชาติด้วย ก็ต้องปูพื้นอ่างเก็บน้ำด้วยวัสดุที่ทำมาจากยางพารา

อ่างเก็บน้ำหรือฝายชะลอน้ำ ยังมีพื้นที่พื้นผิวน้ำที่ทำให้น้ำระเหยไปได้มาก ที่สหรัฐฯ อิสราเอล และอีกหลายประเทศ ค้นคว้าพัฒนาจริงจังกับการเก็บน้ำใต้ดิน ในช่วงที่ฝนตกเยอะ หรือในช่วงที่หิมะละลายอย่างเร็ว ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการเก็บน้ำใต้ดินมีความรู้ที่ระบายน้ำลงไปในชั้นดินต่างๆ และดูดขึ้นมาใช้ในหน้าแล้ง

ถ้าเราทำ CSR ถึงขนาดเจาะรูเอาน้ำเข้าไปเก็บไว้ใต้ดินได้

ภัยแล้งก็จะกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆไปเลยครับ.

คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand

Leave a comment