ศาลบราซิลสกัดตั้งอดีตผู้นำฉาว-เล็งถอดถอน ปธน.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/593039

โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 มี.ค. 2559 05:01

 

สถานการณ์ทางการเมืองบราซิลส่อเค้าทวีความวุ่นวาย จากกรณีนายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีบราซิล วัย 70 ปี ได้รับการแต่งตั้งจากนางดิลมา รูสเซฟฟ์ ประธานาธิบดีบราซิล เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐบาล ทั้งที่ถูกอัยการฟ้องในข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน ซึ่งพัวพันกับคดีคอร์รัปชันบริษัทน้ำมันเปโตรบาสของรัฐบาล โดยเมื่อวันที่ 17 มี.ค. หลังจากนายลูลา ดา ซิวา สาบาน ตนเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 3 ชั่วโมงนั้น ศาลรัฐบาลกลางกรุงบราซิเลียก็ได้มีคำสั่งระงับการแต่งตั้งดังกล่าวทันที โดยให้เหตุผลว่าการแต่งตั้งอาจมาทำลายการสอบสวนการพัวพันคอร์รัปชัน เนื่องจากหากนายลูลา ดา ซิลวา ขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าว ก็จะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการเมือง ศาลปกติจะสอบสวนคดีไม่ได้ยกเว้นแต่ศาลสูง

กรณีศาลรัฐบาลกลางสั่งระงับการแต่งตั้งนายลูลา ดา ซิลวา ครั้งนี้ทำให้เกิดการตีความแบ่งเป็น 2 ฝ่าย โดยนักกฎหมายรวมถึงอัยการกลุ่มหนึ่งมองว่าจะต้องยึดคำสั่งศาลไปจนกว่าจะมีการตัดสินให้เป็นอย่างอื่น หรือหมายความว่านายลูลา ดาซิลวา ยังไม่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานรัฐบาลนั่นเอง ขณะที่อีกฝ่ายตอบโต้ว่า คำสั่งศาลมีขึ้นหลังการแต่งตั้ง ดังนั้น นายลูลา ดา ซิลวา จึงต้องได้รับ เอกสิทธิ์คุ้มครอง ต้องให้ศาลสูงมาตัดสินชี้ขาด อย่างไรก็ตาม นายโฮเซ เอดูอาร์โด คาร์โดโซ อัยการสูงสุดรัฐบาล ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำสั่งระงับของศาลรัฐบาลกลางกรุงบราซิเลียแล้ว แต่ศาลรัฐบาลกลาง นครริโอ เด จาเนโร ก็ได้ยืนคำสั่งระงับการแต่งตั้งนายลูลา ดา ซิลวา เช่นกัน

นอกจากนี้ ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางกรุงบราซิเลีย ที่เป็นคนนำการสอบสวนคดีเปโตรบาส ยังนำเทปบันทึกเสียงสนทนาระหว่างนางรูสเซฟฟ์กับนายลูลา ดา ซิลวา มาเปิดเผย โดยเนื้อหาการสนทนาได้สื่อชัดเจนว่าการแต่งตั้งครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้เอกสิทธิ์คุ้มครองแก่นายลูลา ดา ซิลวา ซึ่งต่อมานางรูสเซฟฟ์ได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาว่าการกระทำของผู้พิพากษาถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ เป็นการเคลื่อนไหวใต้ดิน ทำตัวเหมือนกองโจร เขย่าสังคม ด้วยความเท็จ และการรัฐประหารก็เริ่มจากการกระทำเช่นนี้

วันเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรบราซิลได้ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ 65 คน เพื่อพิจารณาว่าสมควรถอดถอนนางรูสเซฟฟ์จากการเป็นผู้นำหรือไม่ หลังถูกกล่าวหาว่าพัวพันการคอร์รัปชัน ซึ่งขั้นตอนต่อมาหากสมควรถอดถอน สภาผู้แทนฯก็จะจัดการ ลงมติโดยคะแนนเสียงต้องเกิน 342 เสียง จากทั้งหมด 513 เสียง ก่อนส่งเรื่องให้วุฒิสภาดำเนินการต่อไป.

Leave a comment