ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/594334
โดย คุณนิติ นวรัตน์ 23 มี.ค. 2559 05:01

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ พูด “รับใช้นักบริหารงานทั่วไป” หัวหน้าสำนักปลัด หัวหน้าฝ่าย 89 คน พุธวันนี้ 09.00-12.00 น. ที่อาคาร 2 สถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ปทุมธานี
ผู้อ่านท่านถามมาใน Line Official ไอดี @LGJ0596P ว่า มีการก่อการร้ายแยกดินแดนของประเทศไหนบ้างไหมครับ ที่สงบจบลงอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด?
ขอเรียนว่า มีที่ศรีลังกาครับ สมัยก่อนตอนโน้น ครอบครัวผมไปศรีลังกากันบ่อยมาก บางปีไปหลายครั้ง ไปแต่ละครั้งก็จะเจอเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลศรีลังกากับพวกแบ่งแยกดินแดนพยัคฆ์ทมิฬ ซึ่งเป็นสงครามกลางเมืองของประเทศที่มีประชากร 20 ล้านคน ที่ร้อยละ 75 เป็นชาวสิงหล และร้อยละ 11 เป็นชาวทมิฬศรีลังกา ที่เหลือเป็นพวกมัวร์ มาเลย์ อินเดีย ยุโรป ฯลฯ
ปัญหาของสงครามกลางเมืองในศรีลังกาเริ่มมาจากการถูกอังกฤษเข้ามาปกครอง และใช้นโยบายแบ่งแยกและปกครอง ขณะปกครอง อังกฤษเอาใจชาวทมิฬแต่กดขี่ชาวสิงหล แถมยังเอาคนทมิฬจากอินเดียเข้ามาทำงานในไร่ชาของศรีลังกาเป็นจำนวนมาก การนำชาวทมิฬเข้ามาเป็นการกลืนชาติอย่างหนึ่ง
ระยะเวลาร้อยกว่าปีที่อังกฤษปกครอง พวกชาวทมิฬแฮปปี้มีความสุข มีอิสรภาพ มีการศึกษาและโอกาสในการทำงานดีกว่าพวก สิงหล ได้รับราชการ ส่วนชาวสิงหลนั้นลำบาก ถูกคนอังกฤษกดขี่ แต่ พอจะได้รับเอกราช อังกฤษก็ให้มีการตั้งสภาชาวท้องถิ่นขึ้นมาปกครองเพื่อเป็นการทดลอง แต่เพราะจำนวนประชากรชาวสิงหลมีมากกว่าทมิฬ เลือกตั้งทีไร ชาวสิงหลก็ชนะทุกครั้งไป
เมื่อได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์ พวกสิงหลก็เป็นใหญ่ ก็เอา ภาษาสิงหลเป็นภาษาราชการ พวกทมิฬหลายคนต้องออกจากงาน เพราะใช้ภาษาสิงหลได้ไม่คล่อง (เดี๋ยวนี้ใช้ทั้งภาษาสิงหลและภาษาทมิฬเป็นภาษาราชการ) แถมยังเอาศาสนาพุทธมาตั้งเป็นศาสนาประจำชาติ ระบบโควตาที่นั่งเรียนในมหาวิทยาลัย ชาวสิงหลก็ได้มากกว่า เมื่อพวกทมิฬไม่ยอมก็ตีกัน
รัฐบาลศรีลังกาในสมัยนั้นขาดความยุติธรรม เมื่อพวกสิงหลทำผิดก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ไม่จับ แต่พอทมิฬทำผิด กลับโดนจับ เข้าคุก มีการตัดสินคดีอย่างไว ความไม่ยุติธรรมนี่ล่ะครับ ทำให้พวก ทมิฬที่มีอยู่ร้อยละ 11 เห็นว่าท่าจะอยู่ร่วมชาติกันลำบากแล้ว จึงก่อตั้งเป็นกองกำลังติดอาวุธหลายกลุ่มเพื่อป้องกันตนเองจากรัฐบาล
สำหรับเรื่องโควตานักศึกษา มีนักศึกษาทมิฬไม่พอใจเป็นอย่างมาก นักศึกษาหนุ่มคนหนึ่งชื่อ นายเวฬุพิไล ประภาการัน นายคนนี้เป็นคนหัวรุนแรงมาก แกฆ่านายกเทศมนตรีเมืองจาฟนา นายกฯคนที่ถูกฆ่าเป็นทมิฬ แต่ไปสนับสนุนรัฐบาลศรีลังกา เมื่อมีผลงานแถมยังใจกล้า นายประภาการันก็กลายเป็นศูนย์กลางของทมิฬที่ต่อต้านรัฐบาล บั้นปลายท้ายที่สุด แกก็สร้างกองกำลังก่อการร้ายที่มีชื่อว่า พยัคฆ์ทมิฬอีแลม
ผลงานสำคัญชิ้นแรกๆของกลุ่มพยัคฆ์ทมิฬอีแลมเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2526 ก็คือการฆ่าทหารศรีลังกาชาวสิงหล 13 คน ประชาชนคนสิงหลจึงแก้แค้นด้วยการเข้าไปทำลายทรัพย์สินของชาวทมิฬในหลายพื้นที่ รัฐบาลออกคำสั่งให้จับกุมทั้ง 2 ฝ่าย แต่ ตำรวจก็จับแต่พวกทมิฬ เหตุการณ์ก็เลยบานปลายเข้าไปใหญ่ ทำให้ มีคนตายหลายพัน บ้านเรือนเสียหายมากกว่า 13,000 หลัง เหตุการณ์ครั้งนี้นี่ล่ะครับที่เราเรียกว่า กรกฎาทมิฬ หรือ Black July
จุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองคือ กรกฎาคม 2526 และเป็นหนึ่งในสงครามกลางเมืองที่ใหญ่และยาวนาน สร้างความเสียหายให้กับประเทศได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
การฆ่ากันของ 2 เผ่าพันธุ์ที่อยู่ในประเทศเดียวกัน หมุนเปลี่ยนเวียนกันไป พ้นเหตุการณ์กรกฎาทมิฬ นายประภาการันก็ฆ่าชาวนาสิงหลครั้งเดียว 62 คน เข้าไปปล้นรถที่เมืองอนุราธปุระ เข้าไปที่วัดต้นศรีมหาโพธิ์ ฆ่าพระ เณร ชี และคนที่ไปทำบุญครั้งเดียว 146 คน
การฆ่ากันเกิดขึ้นแรงอย่างนี้ทุกปี ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง26 ปี จนถึงเวลา 07.30 น. ของ 19 พฤษภาคม 2552 มีการรบกันในพื้นที่สุดท้ายของกบฏพยัคฆ์ทมิฬอีแลม ยิงกัน 2 ชม.เต็ม พวกกบฏตายหมด 1 ในนั้นคือ นายประภาการัน
นายประภาการันตายแล้ว พยัคฆ์ทมิฬพลัดถิ่นก็ตั้งนายเสลวารัสขึ้นเป็นผู้นำ อีกไม่กี่เดือนก็ถูกจับได้และถูกตัดสินจำคุก
วันนี้ไปศรีลังกา ไม่มีสงครามกลางเมือง ไม่มีความขัดแย้งสงบกันทั้งประเทศครับ.
คุณนิติ นวรัตน์
songlok@outlook.co.th
www.nitipoom.media
www.facebook.com/nitipoom.thailand