แนะ8สมุนไพรไทยมากประโยชน์ เป็นยารักษาโรค-ป้องกันร่างกาย

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/208431

วันพฤหัสบดี ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559, 15.11 น.
คนที่รักสุขภาพและชอบวิธีการรักษาแบบธรรมชาติ ย่อมรู้ดีว่าสมุนไพรไทยนั้น มีประโยชน์หลายด้าน ทั้งช่วยชูรสอาหาร บำรุงร่างกาย ไปจนถึงการรักษาโรค ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกนอกเหนือจากการรักษาแบบปัจจุบัน ที่หาทานได้ง่าย ราคาไม่แพง และมีผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันได้ว่าใช้ได้จริง

วันนี้เราจึงมี 8 สมุนไพรไทยมากประโยชน์ ช่วยป้องกันโรครักษาร่างกาย มานำเสนอ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพดีจากภายใน

1. ขิง-ขจัดอาการคลื่นไส้

ขิงมีสรรพคุณที่ใช้แก้อาการคลื่นไส้และอาเจียนได้ จึงช่วยลดอาการเมารถ หวัดลงกระเพาะ หรือแม้แต่อาการคลื่นไส้ในคนไข้ที่ผ่านการรักษาแบบคีโม และมีผลวิจัยจาก National Cancer Institute ยืนยันว่าในคนไข้ที่รักษาแบบคีโม มีอาการคลื่นไส้น้อยกว่ามากหากกินขิงเสริม ดีกว่าคนไข้ที่กินยาแป้ง (Placebo) หรือเม็ดยาที่ทำจากแป้ง ซึ่งทางแพทย์หลอกให้คนไข้กินเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นเองด้วย

2. กระเทียม-ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

มีบทความใน American Journal of Clinical Nutrition ระบุไว้ว่า การกินกระเทียมเป็นประจำในปริมาณมากจะช่วยลดระดับความเสี่ยงของมะเร็งได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งรังไข่ เป็นต้น ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุด ให้ใส่กระเทียมลงไปในอาหารของคุณแทบทุกมื้อจะช่วยลดเสี่ยงโรคร้ายนี้จากคุณได้

3. น้ำเกลือ-บรรเทาอาการเจ็บคอ

คุณหมอดักกลาส ฮอฟแมน แห่ง The Medical Consumer’s Advocate กล่าวว่า “อาการเจ็บคอเกิดจากการติดเชื้อในช่องคอ การกลั้วน้ำเกลือบริเวณลำคอจะช่วยขจัดเอาของเหลวที่ก่อให้เกิดอาการเจ็บคอเวลากลืนน้ำลายได้ โดยปริมาณที่เหมาะสมในการทำละลายก็คือ เกลือ 1 ช้อนชา ต่อน้ำเปล่าประมาณ 230 มิลลิลิตร ในปริมาณแค่นี้รับรองว่าไม่เค็มเกินไปจนกลั้วคอลำบากแน่นอน

4. ชาคาโมมายล์-รักษาหวัดและลดปวดประจำเดือน

อย่างที่ทราบกันดีว่า ชาคาโมมายมีคุณสมบัติช่วยในการรักษาและลดอาการอักเสบ ซึ่งมีผลวิจัยช่วยซัพพอร์ตได้ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Agricultural and Food Chemistry ระบุว่า ในชาคาโมมายล์มีโมเลกุลบางชนิดที่ช่วยต่อสู้กับไวรัสไข้หวัด เช่นเดียวกับช่วยบรรเทาอาหารปวดท้องจากประจำเดือนได้

5. ผงฟู-รักษาปากนกกระจอก

การรักษาวิธีนี้ได้รับการสนันสนุนทางวิชาการจาก Meyo Clinic และ National Institutes of Health โดยวิธีการทำคือ ทำส่วนผสมข้นๆ ที่เกิดจากการผสมผงฟูกับน้ำน้อยๆ จากนั้นแต้มน้ำนั้นลงตรงมุมปาก เท่านี้ก็จะสามารถช่วยรักษาปากนกกระจอกได้

6. ขมิ้นชัน-ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

ขมิ้นชันมีสารที่เรียกว่าคูเคอมิน ซึ่งมีคุณสมบัติในส่วนนี้ยังช่วยลดอาการเจ็บปวดได้ รวมถึงลดอาการบวมจากข้ออักเสบและอาการเจ็บข้อ นอกจากนี้ จากการศึกษาที่ระบุใน Journal of Alzheimer’s Disease ค้นพบว่าคูเคอมินช่วยถอนคราบปรัคในสมอง อันเป็นจุดกำเนิดของโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย

7. ถั่วเหลือง-ลดคอเลสเตอรอล

ถั่วเหลืองเป็นส่วนผสมที่ใช้มานาน ทั้งในเมนูของคนจีนหรือคนเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นนมถั่วเหลืองหรือเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลือง แถมยังมีส่วนผสมที่คล้ายกับฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจนด้วย จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการร้อนๆ หนาวๆ จากภาวะหมดประจำเดือนหรือ Menopause ได้ แถมยังช่วยลดคอเลสเตอรอล ความดันเลือด และความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ แถมยังมีการวิจัยค้นพบด้วยว่าการกินหรือดื่มน้ำถั่วเหลืองเป็นประจำทุกวัน ยังช่วยลดระดับของ LDL หรือคอเลสเตอรอลเลวได้ด้วย

8. พริกไทยดำ-ต้านไขมันพอกตับ

ในพริกไทยดำถือเป็นแหล่งสารอาหารที่อุดมด้วยแมงกานีสและคอปเปอร์ ช่วยสร้างความแข็งแรงให้เมตาโบลิซึม และช่วยรักษากระดูกให้แข็งแรง National Institute of Health ในอเมริกา ได้เผยผลการศึกษาหนึ่งในกรุงโซล เกาหลี ซึ่งค้นพบว่าใช้สารเป็ปเปอรีนที่มีอยู่ในพริกไทในการลดไขมันในตับของหนูได้ ซึ่งผลการวิจัยนี้ได้รับความสนใจมาก เพราะถือเป็นโรคที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากการดำเนินชีวิตอย่างเร่งรีบ และโรคนี้ยังเป็นสาเหตุหลักของการเป็นโรคตับของคนอเมริกันด้วย

Tip : หากกินสมุนไพรในรูปแบบเม็ด อย่าคิดว่ายิ่งกินเยอะยิ่งดี ควรกินตามปริมาณที่ระบุไว้ข้างกล่อง และทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง

ที่มา : lisaguru

Leave a comment